ผบ.ตร.โทรคุยยันถึงไทยแล้ว ส่วนปมไขก๊อกยังเดาใจไม่ถูก ‘บิ๊กป้อม’ปัดพ.อ.เอี่ยว‘หยอง’

“บิ๊กแป๊ะ” เผย “ประวุฒิ ถาวรศิริ” ที่ปรึกษา (สบ 10) โทรศัพท์รายงานกลับถึงไทยแล้ว ยังไม่เข้าปฏิบัติหน้าที่ เดาใจไม่ถูกเรื่องการลาออก เบื้องต้นไม่พบความเชื่อมโยงกับแก๊งแอบอ้างเบื้องสูง ขณะที่ “บิ๊กป้อม” ปัดมีนายทหารยศพันเอกเข้าไปเกี่ยวข้อง อธิบดีคุกเผยไม่พบรายงานความผิดปกติของผู้ต้องหาทั้งหมดที่ถูกคุมขังในเรือนจำชั่วคราว แขวงถนนนครไชยศรี (พัน.ร.มทบ.11) และเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ

กรณีตำรวจจับกุมนายสุริยัน สุจริตพลวงศ์ หรือหมอหยอง พ.ต.ต.ปรากรม วารุณประภา หรือสารวัตรเอี๊ยด และนายจิรวงศ์ วัฒนเทวาศิลป์ หรืออาท ชัตเตอร์มหาเทพ 3 ผู้ต้องหาในคดีแอบอ้างสถาบันเบื้องสูงไปกระทำการอันมิบังควร ตามประมวลกฎหมายอาญา ม.112 โดย พ.ต.ต.ปรากรมใช้เสื้อนักโทษผูกคอตนเองเสียชีวิตขณะถูกคุมขังที่เรือนจำชั่วคราว แขวงถนนนครไชยศรี (พัน. ร.มทบ.11) ต่อมาทหารคุมตัวนายศุกร์โข ตามเสรี หรือเค บาร์โฮสต์ คนสนิท พ.ต.ต.ปรากรม ส่งให้ตำรวจบก.ป.ดำเนินคดีข้อหามีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ท่ามกลางกระแสข่าวการลาออกของ พล.ต.อ.ประวุฒิ ถาวรศิริ ที่ปรึกษา (สบ 10) อดีตโฆษก ตร.

ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ วันที่ 2 พ.ย. พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร.เปิดเผยความคืบหน้าในคดีนี้ว่า ได้รับรายการการสืบสวนสอบสวนที่มีความคืบหน้าไปมาก รวมทั้งการสอบปากคำนายศุกร์โข ตามเสรี ผู้ต้องหาคดีมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ได้ข้อมูลเป็นประโยชน์พอสมควร ปืนที่อยู่ในความครอบครองของนายศุกร์โขเป็นของ พ.ต.ต.ปรากรม วารุณประภา หากการสอบสวนของชุดทำงานที่มี พล.ต.ท.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รรท.รอง ผบ.ตร.เป็นหัวหน้าพาดพิงถึงใคร ต้องดำเนินการตามกฎหมาย สำหรับกระแสข่าวมีนายทหารยศ พ.อ.เข้าไปเชื่อมโยงกับนายสุริยัน สุจริตพลวงศ์ หรือหมอหยอง ประเด็นนี้อยู่ในสำนวน ไม่ทราบว่าเชิญตัวมาสอบปากคำหรือยัง ด้านการสอบปากคำนายตำรวจสังกัด บก.ป.ทั้ง 8 นาย ที่ถูกย้ายไปปฏิบัติงานที่ ศปก.บช.ก. จะเชื่อมโยงอย่างไรไม่อยากตอบเกรงเกิดความคลาดเคลื่อนเข้าใจผิด ส่วนกรณี พ.ต.ต.ปรากรม ฝากนายศุกร์โขเป็นตำรวจเรื่องนี้เคยได้ยินข่าว อยู่ระหว่างตรวจสอบพยานหลักฐาน

...

พล.ต.อ.จักรทิพย์กล่าวต่ออีกว่า ขณะนี้ชุดทำงานอยู่ระหว่างสอบสวนเพิ่มเติมทุกประเด็นที่เกี่ยวข้องกับคดีรวมทั้งการติดตามทรัพย์สินของนายสุริยัน ประเด็นการย้ายเสาวิทยุสื่อสารไปไว้บนอาคารใบหยกจะถูกต้องหรือไม่นั้น พล.ต.ท.ศรีวราห์มีข้อมูลอยู่ ไม่ขอตอบเพราะเรื่องขั้นตอนตนไม่ค่อยแม่น อาจทำให้คลาดเคลื่อน จำไม่ได้ว่ามีเจ้าของกิจการรายใดเข้าให้ปากคำบ้าง ซึ่งเจ้าของกิจการเหล่านั้นเปรียบเหมือนสปอนเซอร์เราต้องยกย่องเขาด้วยซ้ำที่มาช่วยงาน คาดว่าคงไม่รู้เรื่องต้องให้ความเป็นธรรมเขาด้วย

“ส่วนกรณีของ พล.ต.อ.ประวุฒิ ถาวรศิริ ที่ปรึกษา (สบ 10) นั้นได้โทรศัพท์มาหาผม รายงานว่าเดินทางกลับจากต่างประเทศแล้ว แต่ถ้าไม่มาปฏิบัติหน้าที่ภายใน 15 วัน ถือว่าขาดจากราชการ ส่วนเรื่องการลาออกจากราชการยังไม่ได้คุยกัน เดาใจท่านไม่ออกว่าจะเป็นอย่างไร ขึ้นอยู่กับตัวท่าน หากท่านลาออกต้องให้บุคคลอื่นเข้ามาดูแลงานที่อยู่ในความรับผิดชอบแทน ขณะนี้ยังไม่พบความเชื่อมโยงในคดี เชื่อว่า พล.ต.อ.ประวุฒิมีวุฒิภาวะเพียงพอไม่ตกเป็นเหยื่อของขบวนการ ส่วนจะต้องเข้าให้ข้อมูลกับพนักงานสอบสวนหรือไม่ เป็นดุลพินิจของชุดทำงาน ส่วนกรณีนายสุริยันอ้างตัวเป็นร่างทรงนั้น ผู้เสียหายสามารถเข้าร้องทุกข์พนักงานสอบสวนได้” พล.ต.อ.จักรทิพย์กล่าว

ด้าน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม เปิดเผยกรณีมีกระแสข่าวเตรียมออกหมายจับนายทหารยศพันเอกที่เกี่ยวข้องกับคดีแอบอ้างเบื้องสูงว่า ยังไม่มีอย่าไปถามนำ ถ้ามีเจ้าหน้าที่ต้องรายงานให้ทราบเพราะมีหน้าที่ดูแลตำรวจอยู่แล้ว

ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศบริเวณด้านหน้าสำนักงาน พล.ต.อ.ประวุฒิ ถาวรศิริ ที่ปรึกษา (สบ 10) ชั้น 4 อาคาร 1 สตช. ว่าตลอดช่วงเช้ามีสื่อมวลชนจากหลายสำนักมาดักรอทำข่าว แต่ไม่พบวี่แววของอดีตโฆษก ตร. เมื่อสอบถามนายตำรวจประจำสำนักงานพบว่าไม่มีการติดต่อจาก พล.ต.อ.ประวุฒิว่าจะเข้ามาปฏิบัติหน้าที่หรือไม่ รวมทั้งไม่สามารถติดต่อทางโทรศัพท์มือถือได้ นอกจากนี้ยังมีรายงานว่า พล.ต.อ.ประวุฒิเดินทางจากกรุงโรม ประเทศอิตาลีด้วยเที่ยวบิน ทีจี 945 มาถึงประเทศไทยเมื่อเวลา 06.15 น. ของวันที่ 29 ต.ค.

ขณะที่นายวิทยา สุริยะวงศ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เผยว่า นายสุริยัน สุจริตพลวงศ์ หรือหมอหยอง และนายจิรวงศ์ วัฒนเทวาศิลป์ หรืออาท ชัตเตอร์มหาเทพ 2 ผู้ต้องหาในคดีความผิดแอบอ้างเบื้องสูง ถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำชั่วคราว แขวงถนนนครไชยศรี (พัน.ร.มทบ.11) นั้น ยังไม่พบรายงานความผิดปกติแต่อย่างใด รวมทั้งนายศุกร์โข ตามเสรี ผู้ต้องหาความผิดฐานครอบครองอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครอง ถูกนำตัวฝากขังที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ขณะนี้ยังอยู่แดนแรกรับและเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ปฏิบัติเหมือนผู้ต้องขังรายอื่น