กองบัญชาการตำรวจนครบาล แถลงผลระดมกวาดล้างอาชญากรรม พร้อม รวบหนุ่มแสบกระชากสร้อยคอทองคำผู้โดยสารรถซูบารุ ก่อเหตุมาแล้วกว่า 20 ครั้ง ในพื้นที่ สน.โชคชัย
นายภานุมาศ แซ่ห่าน อายุ 24 ปี ถูกตำรวจสืบสวน สน.โชคชัย จับได้ พร้อมยึดสร้อยคอทองคำ น้ำหนัก 2 บาท รถจักรยานยนต์ และหมวกกันน็อก หลังก่อเหตุขี่รถจักรยานยนต์ กระชากสร้อยคอทองคำของผู้เสียหาย ขณะโดยสารรถซูบารุ ในพื้นที่ สน.โชคชัย
จากการสอบสวน นายภานุมาศ ผู้ต้องหารับสารภาพว่าก่อเหตุมาแล้วกว่า 20 ครั้ง โดยเลือกเหยื่อที่สวมเสื้อยืดคอกลม มองเห็นสร้อยคอทองคำชัดเจน และโดยสารรถซูบารุ ซึ่งมีจำนวนมาก ในพื้นที่ สน.โชคชัย โดยเลือกก่อเหตุในช่วงเวลากลางวัน ทำมาแล้วกว่า 20 ครั้ง ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ก่อนนำทรัพย์สินไปขายต่อ
ด้าน พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ระบุว่า นายภานุมาศ จะขี่รถจักรยานยนต์ตระเวนไปตามถนน หรือจุดที่มีรถโดยสารซูบารุจอดอยู่ และเลือกเหยื่อที่ไม่ทันตั้งตัว และจากการตรวจร่างกายนายภานุมาศ พบสารเสพติดประเภทกัญชาด้วย โดยในพื้นที่ สน.โชคชัย มีรถซูบารุ ประมาณ 70 - 80 คัน ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างพิจารณาว่าจะมีการติดตาข่ายด้านหลังรถ เพื่อป้องกันเหตุตามความเหมาะสม
...
ขณะที่ตำรวจสืบสวน สน.ดอนเมือง นำตัว นายพิชิต บุญแดง ผู้ต้องหา ที่กระทำความผิดฐานแจ้งข้อความ หรือส่งข่าวสารซึ่งรู้อยู่แล้วว่าเป็นเท็จ และการแจ้งนั้นเป็นเหตุหรือน่าจะเป็นเหตุให้ผู้อื่นที่อยู่ในท่าอากาศยานหรืออยู่ในระหว่างการบินตื่นตกใจ ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดบางประการต่อการเดินอากาศ พ.ศ.2558 มีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 2 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ซึ่งถือว่าเป็นผู้ต้องหาคนแรกที่ถูกจับหลังมีผลบังคับใช้พระราชบัญญัติดังกล่าว
หลัง นายพิชิต โดยสารสายการบินไทยไลอ้อนแอร์ เที่ยวบินที่ SL8536 จากท่าอากาศยานดอนเมือง เมื่อวานนี้ (1 พ.ย.) และนายพิชิต กล่าวกับพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินว่า มีระเบิดอยู่ภายในกระเป๋าเดินทาง ทำให้เที่ยวบินต้องถูกยกเลิก
ด้าน นายพิชิต กล่าวว่า ตัวเองโดยสารเครื่องบินเป็นครั้งแรกเพื่อจะเดินทางไปงานแต่งงานเพื่อนที่หาดใหญ่ และรู้เท่าไม่ถึงการณ์ จึงได้พูดแซวแอร์โฮสเตส เพราะความคึกคะนองเท่านั้น และสำนึกผิดพร้อมขอโทษที่พูดในสิ่งที่ไม่ควรพูดก่อให้เกิดความเสียหาย โดยไม่รู้ว่ามีความผิด และขอให้คดีตัวเองเป็นอุทธาหรณ์ให้กับคนอื่นด้วย
ด้าน พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ระบุว่า พระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดบางประการ ต่อการเดินอากาศ พ.ศ.2558 เป็นกฎหมายใหม่ ที่เพิ่งประกาศใช้ และหากมีการกระทำผิดขณะเครื่องบินกำลังบินอยู่อัตราโทษจะสูงขึ้น โดยจำคุกตั้งแต่ 5 ถึง 15 ปี และปรับตั้งแต่ 2 ถึง 5 แสนบาท
นอกจากนี้ กองบัญชาการตำรวจนครบาล แถลงผลกวาดล้างอาชญากรรมในพื้นที่กองบังคับการตำรวจนครบาล 1 ถึง 9 ตั้งแต่วันที่ 31 ตุลาคม - 2 พฤศจิกายน 58 โดยสามารถจับผู้ต้องหาได้หลายคดี อาทิ พยายามฆ่า, ยาเสพติด, ความผิดต่อทรัพย์ และยึดของกลางได้หลายรายการ อาทิ ปืน, มีด, ทรัพย์สินอื่นๆ จำนวนมาก