ต้นตอ-ชวนดารา โพสต์รูปโชว์ดื่ม

“หมอสมาน” เผยหลักฐานชี้ชัด ดาราคนดังแห่โพสต์ภาพขวดเบียร์ โยงถึงผู้ จัดการผลิต-ภัณฑ์อาวุโส บริษัทนํ้าเมา เตรียมส่งหนังสือถึงที่ทำงานเรียกตัวมาให้ข้อมูล หลังส่งไปที่บ้านแล้วเงียบ พร้อมแนะดารามาให้ถ้อยคำเพื่อประโยชน์ของตัวเอง โดยสัปดาห์หน้า ทั้งป้อง-ณวัฒน์ โดม-ปกรณ์ แทค-ภรัณยู ฯลฯ แห่ให้ข้อมูลอีก

กรณีดาราคนดังโพสต์ภาพขวดน้ำเมาที่อาจเข้าข่ายกระทำผิดตามมาตรา 32 พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ.2551 ใกล้ได้ข้อสรุป หลังเหล่าดาราอีกชุดจะเข้าให้ข้อมูลต่อเจ้าพนักงานในสัปดาห์หน้า โดยเมื่อวันที่ 31 ต.ค. ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก นพ.สมาน ฟูตระกูล ผอ.สำนักงานคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ว่าการให้ถ้อยคำของดารานักแสดง กลุ่มแรก 7 คน ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีภาพปรากฏในแคมเปญของบริษัทเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ชัดเจน กับกลุ่มที่มีการโพสต์ภาพในลักษณะเดียวกัน เครื่องดื่มยี่ห้อเดียวกันมีจำนวน 15 คน ทำให้ต้องรอให้ทุกคนให้ถ้อยคำให้เสร็จสิ้นก่อน จึงจะรวบรวมข้อมูลนำเข้าที่ประชุมคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทีเดียว ทั้งนี้ สำหรับกรณีของนายภูมิใจ ตั้งสง่า หรือดีเจภูมิ ซึ่งได้ยุติการให้ถ้อยคำก่อนที่จะให้ถ้อยคำเสร็จนั้น ได้ทำความเข้าใจกับทนายความของดีเจภูมิ ที่แจ้งว่ามีความไม่สบายใจระหว่างการให้ถ้อยคำแล้ว ซึ่งพบว่าเกิดจากความเข้าใจผิดบางประการจึงให้ลูกความยุติการให้ถ้อยคำดังกล่าว โดย ทนายความได้ทำความเข้าใจแล้วและเข้าใจดีแล้วว่า การให้ถ้อยคำดังกล่าวจะเป็นผลดีต่อลูกความของตนเอง หากไม่ให้ถ้อยคำยิ่งจะเกิดผลเสียมากกว่าผลดี ซึ่งทางสำนักงานฯ ได้ให้โอกาสดาราทุกคนที่เข้าข่ายการกระทำผิดได้ชี้แจง รวมทั้งดีเจภูมิ หากต้องการให้ถ้อยคำอีกครั้งโดยทนายความได้แจ้งว่าจะหารือกับดีเจภูมิก่อน และจะแจ้งว่าจะเข้าให้ถ้อยคำหรือไม่

...

นพ.สมานกล่าวต่อว่า จากหลักฐานเบื้องต้น ขณะนี้ผู้ที่ให้ถ้อยคำทุกคนมุ่งเป้าไปที่บุคคลเดียวกันว่าการโพสต์ดังกล่าวได้รับการขอร้องจากบุคคลหนึ่ง ซึ่งเป็นเพื่อนในกลุ่มเดียวกัน โดยเฉพาะกับดีเจภูมินั้น รู้จักบุคคลดังกล่าวมาแล้วเป็น 10 ปี โดยบุคคลนี้มีตำแหน่งเป็นผู้จัดการผลิตภัณฑ์อาวุโสในบริษัทผู้ผลิตเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ซึ่งทางสำนักงานฯ ออกหนังสือเชิญมาให้ถ้อยคำด้วยเช่นกัน เบื้องต้นการส่งจดหมายไปตามบ้านเลขที่ที่ปรากฏในบัตรประชาชน แต่ยังไม่ได้รับการตอบรับ ดังนั้นในวันที่ 2 พ.ย. จะได้ส่งหนังสือไปถึงที่บริษัทต่อไป อย่างไร ก็ตาม ในความคิดเห็นส่วนตัวนั้น มองว่ากลุ่มดาราเป็นเพียงหมากตัวหนึ่งเท่านั้นเอง แต่ผลประโยชน์สุดท้ายตกอยู่ที่บริษัทเจ้าของผลิตภัณฑ์และเป็นแผนหนึ่งในการโฆษณาส่งเสริมการขาย แม้ดาราจะไม่ได้รับเงิน แต่การกระทำก็เข้าข่ายความผิดเพื่อผลประโยชน์ทางการค้า นำไปสู่การกระตุ้นการบริโภคเพิ่มยอดการจำหน่ายและนำไปสู่การบริโภคที่เพิ่มขึ้น ทำ ให้เกิดผลกระทบอื่นๆตามมา เจตนารมณ์ของกฎหมาย คือลดการบริโภค และผลกระทบจากการบริโภค

“ในการพิจารณาความผิดสำหรับกรณีนี้ ในส่วนของกลุ่มดารานักแสดงก็ต้องรับผิดชอบในส่วนที่ได้ทำไป แต่ก็ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของคณะกรรมการอีกครั้ง แต่สิ่งสำคัญคือ บริษัทที่อยู่เบื้องหลังการทำให้เกิดความผิดดังกล่าวขึ้น หากพิจารณาแล้วว่ามีความเชื่อมโยงเกี่ยวข้อง มีหลักฐานเอาผิดได้ชัดเจน บริษัทจะต้องรับผิดชอบในฐานที่ได้กระทำผิดตามมาตรา 32 โดยแยกส่วนความผิดของดาราแต่ละคน เพราะเป็นการกระทำต่างกรรม ต่างวาระกัน ดังนั้น ฐาน ความผิดจะคูณด้วยจำนวนการกระทำผิดที่เกิดขึ้น และบวกด้วยโทษของบริษัทเองด้วย ดังนั้น จึงอยากให้กลุ่มดารานักแสดงให้ความร่วมมือในการให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่เพื่อประโยชน์ของตนเอง ส่วนที่ต้องเรียกเป็นรายบุคคลเข้ามาให้ถ้อยคำนั้น เป็นเพราะแต่ละคนได้กระทำต่างกรรม ต่างวาระและมีทั้งโพสต์ยี่ห้อเดียว และหลายยี่ห้อ จึงจำเป็นต้องแยกกันให้ถ้อยคำ” นพ.สมานกล่าวและว่าสำหรับการให้ถ้อยคำในสัปดาห์ต่อไป มีการนัดคิวเข้ามาซ้อนกันทั้งในส่วนของดาราและบริษัทผู้ผลิต จึงต้องมีการนัดหมายกันอีกครั้ง แต่ที่แน่นอนว่าจะเข้ามา คือ วันที่ 3-4 พ.ย. อาทิ นายณวัฒน์ กุลรัตนรักษ์ หรือป้อง น.ส.หรรษา จึงวิวัฒนวงศ์ หรือ นิวเคลียร์ วงดนตรีบูมบูมแคช และนายภรัณยู โรจนวุฒิธรรม หรือแทค ส่วนวันที่ 4 พ.ย. มี 1 คน คือ นายปกรณ์ ลัม หรือโดมเป็นต้น