ตำรวจ สภ.ถลาง จับยาบ้า ขับรถตราโล่ ไล่ล่า จยย.ต้องสงสัยพลิกคว่ำ ผู้ขับขี่ จยย.เสียชีวิต2 ญาติผู้ตายและเพื่อนกว่า 100 ข้องใจลุกฮือล้อมโรงพัก เหตุบานปลาย เผาโรงพัก-รถ6คัน ขอกำลังเสริม เข้าระงับเหตุที่ยืดเยื้อยาวนาน กว่า 15 ชม. ผบช.ทหารบก41 นำกำลังเข้าเจรจาต่อรอง สลายการชุมนุมก่อนรุ่งเช้า

 วันที่ 10 ต.ค. 58

เวลา 11.20 น. ร.ต.อ.หญิงณัฐธยาน์ สุพรรณพงศ์ พนักงานสอบสวน สภ.ถลาง จ.ภูเก็ต ได้รับแจ้ง มีชายวัยรุ่น 2 คนได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุรถชนและต่อมาเสียชีวิตที่โรงพยาบาล เหตุเกิดบริเวณ ถนนน้ำตกโตนไทร ต.เทพกระษัตรี อ.ถลาง ทราบชื่อ นายเอ (นามสมมติ) อายุ 22 ปี และชายวัยรุ่นอีกคน สวมเสื้อยืดแขนยาวสีเหลืองดำ กางเกงยีนส์ขาสามส่วนสีน้ำเงิน สภาพหูซ้ายขาด มีเลือดไหลออกจากจมูกและปาก ทราบชื่อ นายบี (นามสมมติ) อายุ 17 ปี โดยมีญาติพี่น้องและกลุ่มวัยรุ่นยืนรอดูเหตุการณ์หน้าห้องฉุกเฉินจำนวนมาก ขณะเดียวกัน มีเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ สภ.ถลาง จะเข้าไปดูศพ แต่บรรดาญาติพี่น้องของผู้เสียชีวิตตรงเข้าโวยวายเนื่องจากผู้ตายทั้ง 2 คนถูกรถเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ถลาง ชนจนได้รับบาดเจ็บและถึงแก่ชีวิต

...

เวลา 13.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ถลาง เปิดเผยว่า ก่อนเกิดเหตุดังกล่าวมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ถลาง ขับรถกระบะอีซูซุ ทะเบียนตราโล่ 40310 ขับไล่ติดตามรถจักรยานยนต์ ทะเบียนป้ายแดง 19-764 บริเวณถนนน้ำตกโตนไทร กระทั่งเกิดเฉี่ยวชนรถตำรวจทำให้ร่างของนายเอและนายบี กระเด็นไปกระแทกพื้นถนน จนได้รับบาดเจ็บสาหัส และเสียชีวิตในเวลาต่อมา ในจุดเกิดเหตุ พบกระเป๋าสะพายหนังสีน้ำตาล ภายในมียาบ้าสีส้ม บรรจุอยู่ในถุงพลาสติกใสจำนวนหนึ่ง เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เก็บไว้เป็นหลักฐาน

เวลา 15.00 น. ญาติผู้ตายทั้ง 2 คนเริ่มทยอยเดินทางมารวมตัวกันยัง สภ.ถลาง เนื่องจากไม่พอใจการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ และได้เรียกร้องให้ ผู้กำกับโรงพัก นำตัวเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้ง 4 นายซึ่งปฏิบัติหน้าที่ไล่ล่าจับกุมผู้เสียชีวิตทั้ง 2 คน

เวลา 16.30 น. ได้มีประชาชนชายหญิงนับร้อย เดินทางมารวมตัวเรียกร้องให้นำตัวเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ถลาง ที่ขับรถกระบะตราโล่ชนวัยรุ่นในพื้นที่เสียชีวิตถึง 2 ศพออกมาชี้แจงข้อเท็จจริง  พล.ต.ต.พชร บุญญสิทธิ์ ผบก.ภ.จว.ภูเก็ตพร้อมด้วยรอง ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต ได้เรียกประชุมสรุป เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่ห้องประชุมชั้น 3 สภ.ถลาง

เวลา 18.30 น. บรรยากาศการชุมนุมด้านหน้า สภ.ถลาง เริ่มคุกรุ่น ผู้ชุมนุมไม่สามารถรอคำตอบจาก ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต หรือนายตำรวจที่เกี่ยวข้อง จึงรวมตัวกันปิดถนนเทพกระษัตรีด้านหน้า สภ.ถลาง ทั้งขาเข้าและขาออก ส่งผลให้การจราจรติดขัดเป็นทางยาว โดยเฉพาะรถบัสที่นำนักท่องเที่ยวต่างชาติมาจากสนามบินภูเก็ต เพื่อมุ่งหน้าไปยังโรงแรมตามแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของ จ.ภูเก็ต ต่างค้างอยู่กลางถนน กลุ่มผู้ชุมนุมนำเต็นท์ออกมากลางปิดถนนขาเข้าเมือง ส่วนขาออกนอกเมืองได้ใช้ราวเหล็กของตำรวจมาปิดกั้นไม่ให้รถทุกชนิดผ่านไปมา 

เวลา 21.00 น. สถานการณ์ยังคงตึงเครียด ถนนยังคงถูกปิด การจราจรทุกเส้นทางหน้า สภ.ถลาง ไม่สามารถใช้การได้ รถทุกคันจอดนิ่งสนิท ผู้ชุมนุมเริ่มเดินทางมารวมตัวมากยิ่งขึ้น การจราจรกลายเป็นอัมพาต รถติดเป็นทางยาวนับกิโลเมตร เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร สภ.ถลาง ต้องเร่งระบายการจราจรเป็นการด่วน

...

เวลา 21.30 น. เหตุการณ์ย่ำแย่กว่าเดิม เนื่องจากไม่มีนายตำรวจออกมาพูดคุยกับกลุ่มผู้ชุมนุม บรรยากาศเต็มไปด้วยอารมณ์ กระทั่ง พล.ต.ต.พชร บุญญสิทธิ์ ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต ออกมาเจรจาพูดคุยกับกลุ่มชุมนุม แต่ไม่เป็นผล การชุมนุมกลับยิ่งวิกฤติกว่าเดิม

...

เวลา 21.48 น. เริ่มมีการใช้ของแข็งขวางปาใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจ รวมไปถึงการจุดประทัด ขวางปาไข่ใส่ สภ.ถลาง ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องล่าถอยเข้าไปยังภายใน สภ.ทั้งรอง ผวจ.ภูเก็ต ปลัดจังหวัด นายอำเภอถลาง รอง ผบก.ภ.จว และสื่อมวลชนบางส่วนถูกปิดล้อมจากกลุ่มผู้ชุมนุม สลับกับการถูกขว้างปาสิ่งของใส่อาคาร สภ.เป็นระยะๆ

เวลา 22.30 น. กลุ่มผู้ชุมนุมเริ่มจุดไฟเผารถส่วนตัวของเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยใช้น้ำมันเบนซินบรรจุใส่ขวดแก้วแล้วใช้เศษผ้าเป็น ชนวนที่ปากขวด เพื่อทำเป็นระเบิดเพลิงขวางใส่รถเก๋ง รถกระบะและรถตู้ที่เป็นของประชาชน ตำรวจและของทางราชการที่จอดอยู่ภายใน สภ.จนเกิดเพลิงไหม้ลุกลามสลับกับเสียงระเบิดจากล้อรถและน้ำมัน รวมไปถึงแก๊สที่มีการติดตั้งอยู่ในรถเสียงดังสนั่น เบื้องต้นรถยนต์ได้เสียหายจำนวน 2 คัน

เวลา 22.40 น. เหตุเพลิงไหม้เริ่มลุกลามใหญ่โต เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ขอกำลังรถดับเพลิงเข้าฉีดสกัดเพลิงไหม้ แต่เมื่อรถดับเพลิงมาถึงที่เกิดเหตุ ไม่สามรถเข้ามาฉีดสกัดได้ เพราะมีกลุ่มผู้ชุมนุมขวางทางอยู่

เวลา 23.20 น. เหตุการณ์บานปลายกว่าเดิม หลังพบรถของเจ้าหน้าที่ตำรวจจำนวน 6 คัน ถูกกลุ่มผู้ชุมนุมเผาเรียบ โดยไม่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องออกมาพูดคุยกับกลุ่ม ชุมนุม ทำให้มีการขวางปาระเบิดเพลิง-ของแข็งที่หาได้บริเวณใกล้เคียงปาใส่กระจก สภ.แตกเสียหาย สลับกับปาระเบิดเพลิงเข้าไปภายในอาคาร โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ซุ่มอยู่ภายในคอยฉีดน้ำยาดับเพลิง เพื่อไม่ให้เพลิงลุกลามเผาไหม้ข้าวของภายใน สภ.จนมีการปาระเบิดเพลิงเข้าเผาอาคารชั้นเดียวใกล้อาคาร สภ.จนเกิดเพลิงไหม้วอดเกือบทั้งหลัง

...

เวลา 23.25 น. ได้มีการขอกำลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจปราบจลาจลภูธรภาค 8 จำนวน 1 กองร้อย เข้าระงับเหตุการณ์ แต่ยังไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ทั้งหมดได้

วันที่ 11 ต.ค. 58

เวลา 00.00 น. ได้มีคำสั่งย้ายด่วน เจ้าหน้าที่ตำรวจ 8 นาย ที่เข้าเวรขับรถไล่ล่าจนเกิดอุบัติเหตุ มีผู้เสียชีวิต 2 ศพ พร้อมขอกำลังเสริมจากภายนอกเข้าช่วยเหลือนำตัวผู้สื่อข่าวและเจ้าหน้าที่ตำรวจออกจากบริเวร สภ.ถลาง ขณะที่กลุ่มผู้ชุมนุมบางส่วนได้อ้อมไปด้านหลังโรงพักพร้อมจุดไฟเผา

เวลา 01.00 น. ยังมีเสียประทัดดังอย่างต่อเนื่อง เหตุการณ์บานปลาย กลุ่มผู้ชุมนุมยังปักหลักก่อเหตุ กำลังตำรวจเริ่มเข้าพื้นที่ ควบคุมเหตุการณ์ได้ส่วนหนึ่ง แต่กลุ่มผู้ชุมนุมยังไม่ล่าถอย จุดประทัดดังก่อกวนเป็นระยะ


เวลา 03.00 น. พล.ต.ธีร์ณฉัฏฐ์ จินดาเงิน ผู้บัญชาการมลฑลทหารบกที่ 41 จ.นครศรีธรรมราช พร้อมกำลัง สห.-ทหารจำนวนหนึ่งเข้าเจรจากับกลุ่มผู้ชุมนุมที่บริเวณหน้า สภ.ถลาง เพื่อขอนัดพุดคุยกับญาติผู้เสียหายอีกครั้งในช่วงสายวันเดียวกันนี้  พร้อมสั่งให้สลายการชุมนุมไปก่อน เนื่องจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเข้าข่ายผิดกฎหมาย โดยใช้เวลาราว 30 นาที  

เวลา 03.45 น. กลุ่มผู้ชุมนุมซึ่งเป็นญาติผู้เสียหายและเพื่อนๆ ตลอดจนกลุ่มผู้ไม่พอใจ ได้มีข้อตกลงกันว่าจะต้องนัดพูดคุยกัน โดยนำเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ก่อเหตุมาชี้แจงข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นที่ศาลาอเนกประสงค์ โรงเรียนวัดบ้านดอน ต.เชิงทะเล อ.ถลาง เมื่อมีบทสรุปดังนี้ สร้างความพึงพอใจให้กับผู้ชุมนุมและยอมสลายตัว

เวลา 03.55 น. ขณะที่ผู้ชุมนุมกำลังจะสลายตัวได้มีชาวบ้านตะโกนบอกว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจรุมตีประชาชนที่แยกบ้านเคียน ห่างจากจุดชุมนุมราว 300 เมตร ทำให้กลุ่มผู้ชุมนุมนับร้อยต่างกรูเข้าไปตรวจสอบ แต่กลับพบเพียง เจ้าหน้าที่ตำรวจปราบจลาจล ทำให้กลุ่มผู้ชุมนุมวิ่งกรูใช้ของแข็งนานาชนิดขว้างปาใส่กลุ่มเจ้าหน้าที่ ซึ่งตำรวจบางนายถูกรุมทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บ เช่น ศีรษะแตก ตามร่างกายมีบาดแผลแตกและถลอกจากการหกล้มในช่วงวิ่งหนี เนื่องจากเจ้าหน้าที่มีเพียงโล่กำบัง ไม่มีอาวุธ

เวลา 04.30 น. กลุ่มผู้ชุมนุมต่างขยับตัวมาบริเวณหน้าห้าง แม็คโคร เนื่องจากบริเวณลานจอดรถมีรถตำรวจจอดอยู่หลายคัน ทำให้กลุ่มผู้ชุมนุมคิดว่ากลุ่มเจ้าหน้าที่ตำรวจกลุ่มนี้อาจมีคนที่ขับรถชนผู้ตายปะปนอยู่ แต่ ผบช.มณฑลทหารบกที่ 41 จ.นครศรีธรรมราช และ สห.ได้เข้าห้ามปรามไว้พร้อมกับให้สลายตัว เหตุการณ์จึงจบลงและแยกย้ายกันกลับบ้านในที่สุด โดยในช่วงสายวันนี้จะมีการนัดพูดคุยกัน ที่ศาลาอเนกประสงค์ โรงเรียนวัดบ้านดอน ต.เชิงทะเล อ.ถลาง.