สธ.ชี้การตลาดรูปแบบใหม่ พงศพัศลั่นอย่าอ้างไม่รู้ก.ม. แต่คนทั่วไปโพสต์ดูที่เจตนา

ตร.-สคบ.ชี้ชัด ดาราคนดังถือขวดเบียร์โชว์ ในโซเชียลมีเดีย ผิด ก.ม.ควบคุมแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2551 เตรียมเรียกมาสอบปากคำ เบื้องต้น โดนกราวรูด 24 คน ขณะที่รองอธิบดีกรมควบคุมโรค ลั่น 12 ต.ค.นี้ ส่งหนังสือ เรียกตัวดาราเข้าชี้แจง พร้อมจวกดีเจตีมึนระบุไม่รู้กฎหมาย สอนมวยอย่าปฏิเสธว่าไม่รู้กฎหมาย เตรียมเสนอร่าง พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ฉบับใหม่ ช่วยทันเล่ห์เหลี่ยมการตลาด ด้าน “โดม-ปกรณ์ ลัม” ยินดีให้ความร่วมมือ หากถูกเรียกตัว ส่วน “แทค-ภรัณยู” มั่นใจอธิบายกับเจ้าหน้าที่ได้ พร้อมปัดไม่ได้มีการว่าจ้างให้ทำ

จากกรณีดาราดัง “โดม-ปกรณ์ ลัม” ถือขวดเบียร์ โพสต์ภาพลงในอินสตาแกรม (ไอจี) แล้วมีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ “Todd Piti” ออกมาตำหนิ รวมถึงเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบ เพราะอาจเข้าข่ายผิดกฎหมาย จนเรื่องราวบานปลายเมื่อพบภาพดาราคนดังในสังคมอีกหลายคนโพสต์ภาพตัวเองกับเครื่องดื่มมึนเมายี่ห้อเดียวกันในสื่อโซเชียลมีเดีย ซึ่งแม้ต่อมาคนดังบางรายก็ยอมรับเป็นตัวอย่างที่ไม่ดีและลบภาพออก แต่ยังมีบางรายกลับมองเป็นเรื่องปกติ รวมถึงอ้างไม่รู้ว่าผิดกฎหมาย

ต่อมาเมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 10 ต.ค. ที่ห้องประชุม 1 สำนักงานคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) ชั้น 5 ศูนย์ราชการอาคารบี ถนนแจ้งวัฒนะ พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ รอง ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ท.สุวิระ ทรงเมตตา ผู้ช่วย ผบ.ตร. พล.ต.ต.ศิริพงษ์ ติมุรา ผบก.ปอท. นายอำพล วงศ์ศิริ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) พ.ต.อ.อังกูร คล้ายคลึง รอง ผบก.ปคบ. นายกฤษภาส ศิริปิตุภูมิ นักวิชาการสรรพสามิต ชำนาญการพิเศษ นพ.แท้จริง ศิริพานิช เลขาธิการมูลนิธิเมาไม่ขับ นายชูวิทย์ จันทรง เลขานุการเครือข่ายรณรงค์ป้องกันภัยแอลกอฮอล์ และนายดนัย หงสุรพันธ์ ผอ.กองคุ้มครองผู้บริโภคด้านการโฆษณา สคบ. ประชุมกำหนดแนวทางการดำเนินคดีศิลปินดาราที่โพสต์ภาพคู่กับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ให้เห็นฉลากอย่างชัดเจนบนสื่อโซเชียลมีเดีย

...

นายอำพลกล่าวว่า พ.ร.บ.ควบคุมแอลกอฮอล์ พ.ศ.2551 ตาม ม.26 เกี่ยวกับฉลากสินค้า ให้ผู้ผลิตหรือนำเข้าเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จัดให้มีบรรจุภัณฑ์ ฉลาก พร้อมทั้งข้อความคำเตือนสำหรับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่ผลิตหรือนำเข้าให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ เงื่อนไขที่คณะกรรมการควบคุมประกาศโดยความเห็นชอบของคณะกรรมการและประกาศในราชกิจจานุเบกษา รวมทั้งฉลากและบรรจุภัณฑ์ของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ต้องไม่ใช้ข้อความที่มีการเชิญชวนให้ผู้บริโภคหรืออวดอ้างสรรพคุณประโยชน์ หรือคุณภาพของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์โดยทางตรงหรือทางอ้อม และข้อความหรือภาพที่มีดาราศิลปินนักร้อง หรือนักแสดง มีโทษจำคุก 1 ปี ปรับ 1 แสนบาท หรือทั้งจำและปรับ

“ส่วน ม.32 ห้ามไม่ให้ผู้ใดโฆษณาชวนเชื่อทั้งโดยตรงหรือโดยอ้อม ห้ามมิให้ผู้ใดโฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์หรือแสดงชื่อหรือเครื่องหมายแอลกอฮอล์อันเป็นการอวดอ้างสรรพคุณหรือชักจูงใจให้ผู้อื่นโดยตรงหรือโดยอ้อม การโฆษณาหรือประชาสัมพันธ์ใดๆ โดยผู้ผลิตเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกประเภทให้กระทำได้เฉพาะข้อมูลข่าวสาร และความรู้เชิงสร้างสรรค์สังคม โดยไม่มีการปรากฏภาพของสินค้าหรือบรรจุภัณฑ์ของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์นั้น เว้นแต่เป็นการปรากฏของภาพสัญลักษณ์ของเครื่องดื่ม หรือสัญลักษณ์ของบริษัทผู้ผลิตเท่านั้นตามที่กำหนดในกฎกระทรวง มีโทษจำคุก 1 ปี หรือ ปรับ 5 แสนบาท หรือ ทั้งจำทั้งปรับ” นายอำพลกล่าว

ด้าน พล.ต.อ.พงศพัศเผยว่า ภาพดาราทั้ง 24 คนที่ปรากฏในโซเชียลมีเดียนั้น ตาม ม.26 ถือว่ามีการกระทำความผิดแน่นอน และไม่ควรทำเพราะทุกคนเป็นบุคคลสาธารณะต้องตระหนักรู้ดี แม้ว่าจะอ้างไม่ทราบในตัวกฎหมาย หลังจากนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจจะเชิญดาราที่มีภาพมาเล่าถึงสาเหตุแรงจูงใจเกี่ยวกับการโพสต์ภาพดังกล่าวเพื่อเป็นการบังคับใช้กฎหมายให้ถูกต้อง แต่ไม่ใช่จ้องจับผิดประการใด ส่วนประชาชนทั่วไปหากมีการโพสต์ภาพเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ แม้จะไม่มีเจตนา หรือไม่ทราบกฎหมาย ก็ถือว่ามีความผิดตามมาตรานี้เช่นเดียวกัน เนื่องจากในภาพถ่ายนั้นเห็นภาพฉลากของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และหากมีการใส่ข้อความเพื่อโฆษณาอีก จะถือว่ามีความผิดฐานโฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ด้วยตาม ม.32

ส่วนกรณีดารานักแสดงลงรูปภาพซึ่งอ้างว่าพื้นที่ส่วนตัวและชวนให้ดื่มนั้น อาจเป็นการเข้าข่ายโฆษณาแฝงไปด้วย หลังจากนี้จะให้ พล.ต.ท.สุวิระประชุมหารือกับนายอำพล และหน่วยที่เกี่ยวข้องในวันจันทร์ที่ 12 ต.ค.นี้ พร้อมจะเรียกดาราที่โพสต์ภาพคู่กับขวดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มาให้ปากคำ ส่วนจะเรียกผู้ผลิตหรือเจ้าของสินค้ามาสอบหรือไม่ ต้องรอสอบปากคำดาราว่ามีการพาดพิง หรือมีการว่าจ้างให้โฆษณาแฝงหรือไม่

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นักแสดงและบุคคลมีชื่อเสียง 24 คนที่อยู่ในข่ายถูกตำรวจเรียกตัวมาสอบปากคำ มีอาทิ โดม-ปกรณ์ ลัม วุ้นเส้น-วิริฒิพา ภักดีประสงค์ วีเจจ๋า-ณัฐฐาวีรนุช ทองมี ป้อง-ณวัฒน์ กุลรัตนรักษ์ ดีเจภูมิ-ภูมิใจ ตั้งสง่า ดีเจเพชรจ้า-วิเชียร กุศลมโนมัย ฯลฯ โดยดารารายแรกที่พนักงานสอบสวนจะเรียกมาสอบคาดว่าจะเป็น โดม-ปกรณ์ ลัม เนื่องจากเป็นดาราที่อยู่ในกลุ่มโพสต์คู่กับเครื่องดื่มดังกล่าว และเคยมีประวัติเมาสุราขับรถยนต์ชนแท็กซี่จนมีผู้เสียชีวิต 2 ราย เมื่อปี 2544

ด้าน นพ.อัษฎางค์ รวยอาจิณ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวถึงกรณีนี้ว่า จากการรวบรวมข้อมูลทางเว็บไซต์ต่างๆส่งผลให้ข้อมูลที่กรมควบคุมโรคมีในขณะนี้ถือว่าเพียงพอแล้ว และในวันที่ 12 ต.ค.นี้ ทางกรมควบคุมโรค จะส่งหนังสือเพื่อไปเรียกตัวดารานักแสดงที่ปรากฏภาพถ่ายคู่กับขวดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ รวมถึงบริษัทเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ด้วย ซึ่งจะพยายามทำเรื่องนี้ให้เร็วที่สุด โดยคาดว่าภายในสัปดาห์หน้า น่าจะมีดารามาให้ข้อมูลกับทางกรมควบคุมโรคได้อย่างแน่นอน อย่างไรก็ตาม ตาม พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ.2551 มาตรา 32 ห้ามมิให้ผู้ใดโฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์หรือแสดงชื่อ หรือเครื่องหมายของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อันเป็นการอวดอ้างสรรพคุณหรือชักจูงใจให้ผู้อื่นดื่มโดยตรงหรือโดยอ้อมนั้น เจ้าหน้าที่ของสำนักงานควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มีอำนาจในการเรียกดารามาให้ข้อมูลได้เลย

...

นพ.อัษฎางค์กล่าวต่อว่า ส่วนกรณีที่มีดีเจชื่อดังออกมาให้สัมภาษณ์ว่าไม่รู้เรื่องกฎหมายนั้น จริงๆ แล้วประชาชนทุกคนจะปฏิเสธว่าไม่รู้กฎหมายไม่ได้ ยังไงดาราดีเจที่ปรากฏภาพถ่ายคู่ขวดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ก็จะต้องเข้ามาชี้แจง ส่วนเรื่องของบทลงโทษนั้น ต้องว่าไปตามเจตนาอีกครั้ง ทั้งนี้ที่ผ่านมาการดำเนินคดีในลักษณะนี้พบน้อย อาจเป็นเพราะอดีตยังไม่มีการใช้โซเชียลมีเดียอย่างแพร่หลาย และถือว่ากรณีนี้เป็นกลยุทธ์ทางการตลาดรูปแบบใหม่ของบริษัทเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ซึ่งบางครั้งกฎหมายที่เรามีอยู่ก็ยังไม่ทันกับกลยุทธ์เหล่านี้ ดังนั้นขณะนี้กรมควบคุมโรคกำลังอยู่ระหว่างการเตรียมเสนอร่าง พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ฉบับใหม่ เพื่อให้ทันกับกลยุทธ์ทางการตลาดและมีความชัดเจนในเนื้อหามากขึ้น รวมถึงจะต้องมีการเพิ่มการประชาสัมพันธ์และให้ความรู้กับกลุ่มดารา นักแสดง ผู้มีชื่อเสียง ซึ่งมักถูกเยาวชนนำไปเป็นแบบอย่าง จึงต้องให้มีความรู้ในเรื่องของกฎหมายเกี่ยวกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เพิ่มเติมด้วย

ต่อมาผู้สื่อข่าวติดต่อไปยังดาราที่อยู่ในข่ายถูกเรียกตัวมาสอบปากคำ ก็ได้รับการเปิดเผยจาก โดม-ปกรณ์ ลัม ที่ยอมลบรูปที่เป็นปัญหาออกไปจากอินสตาแกรมจนหมด เพื่อแสดงความรับผิดชอบต่อสังคม โดยพระเอกคนดังกล่าวเพียงสั้นๆ ว่า หากมีการเรียกสอบก็ยินดีให้ความร่วมมือ และแสดงความบริสุทธิ์ใจ

ขณะที่นักแสดงหนุ่มแทค-ภรัณยู โรจนวุฒิธรรม กล่าวว่า ภาพดังกล่าวตนโพสต์ได้เดือนกว่าๆ ก่อนจะมีข่าวออกมาแล้ว ครั้งนั้นถ่ายก่อนขึ้นเครื่อง ตอนไปญี่ปุ่น ปกติจะเป็นคนกินเบียร์เวลาเดินทางไปต่างประเทศเพื่อให้หลับบนเครื่อง และถ้าหากใครติดตามไอจีตนจะเห็นว่าเป็นสไตล์โพสต์ทุกอย่างอยู่แล้ว ถ้าถุงยางโพสต์ได้ไม่ผิดตนก็โพสต์ เพราะรัฐบาลยังโฆษณายืดอกพกถุง ป้องกันไว้ก่อน อะไรก็ตามที่เกี่ยวกับชีวิตของตนก็ลงตามนั้น และวันนี้ยังไม่ได้รับการติดต่อจากตำรวจและไม่ได้รู้สึกตกใจหรือซีเรียสอะไรกับข่าวเลย เพราะสามารถอธิบายกับเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ว่าเราโพสต์ไปเพราะอะไร น่าจะเข้าใจ ถ้าหากตนได้รับการว่าจ้างหรือรับเงินจริง คงลงรายละเอียดเยอะกว่านี้แล้ว ยี่ห้อ ราคา สถานที่ แต่ในไอจีตนไม่ได้ระบุอะไรแบบนั้น และยืนยันไม่เคยได้รับการติดต่อจากค่ายเบียร์ยี่ห้อที่ถือในภาพ แม้แต่อีเวนต์ออกงานก็ยังไม่ค่อยมี

...

ด้านนายยรรยง เดชภิรัตนมงคล รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด กล่าวถึงกรณีที่ พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ รอง ผบ.ตร.ระบุว่า ประชาชนทั่วไปหากมีการโพสต์ภาพเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ก็ถือว่ามีความผิดตามมาตรา 32 เช่นเดียวกัน ว่า พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ.2551 มาตรา 32 ห้ามมิให้ผู้ใดโฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ หรือแสดงชื่อ หรือเครื่องหมายของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อันเป็นการอวดอ้างสรรพคุณ หรือชักจูงใจให้ผู้อื่นดื่มโดยตรง หรือโดยอ้อม ซึ่งสาระสำคัญอยู่ที่คำว่า การโฆษณา ซึ่งกฎหมายได้ให้นิยามของคำว่าโฆษณาหมายความว่า การกระทำไม่ว่าโดยวิธีใดๆให้ประชาชนเห็น ได้ยินหรือทราบข้อความเพื่อประโยชน์ในทางการค้า และให้หมายความรวมถึงการสื่อสารการตลาด ฉะนั้นการกระทำที่จะเป็นความผิดจะต้องมีเจตนาเพื่อประโยชน์ในทางการค้า หากการกระทำไม่ได้มีเจตนาเพื่อประโยชน์ในทางการค้า หรือการสื่อสารการตลาดแล้ว ย่อมไม่อยู่ในบทนิยามและไม่มีความผิด แต่หากมีคนไปแอบจ้างประชาชนจำนวนมากไปชูเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และหากถูกสอบสวนได้ข้อเท็จจริงเพื่อการโฆษณาก็อาจนำไปสู่การดำเนินการทางกฎหมายได้ บทนิยามของคำว่าโฆษณาใน พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์นั้นมีเจตนาพิเศษกว่าในพจนานุกรม งานกฎหมาย หรือการพิจารณานั้นจะต้องดูเจตนา และข้อเท็จจริงเป็นกรณีไป เช่น คน 4 คนไปดื่มเบียร์ แล้วชูขวดที่มีโลโก้ยี่ห้อเบียร์ทั้ง 4 คนและถ่ายรูปเห็นฉลากทุกคนหันไปทางเดียวกันก็อาจเข้าข่ายมีเจตนา