กรมเจ้าท่า เริ่มภารกิจกู้ซากเรือภัทรมารีน 5 แล้ว ชี้อากาศเป็นใจ เชื่อลากเข้าฝั่งสำเร็จเย็นวันนี้ ขณะที่ญาติลูกเรือที่สูญหายมีความหวัง จะพบร่าง ที่คาดว่ายังติดอยู่ในซากเรือ
วันที่ 6 ต.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรมเจ้าท่า เริ่มภารกิจกู้เรือภัทรมารีน 5 เข้าฝั่ง คาดว่าจะกู้ได้สำเร็จ เพราะสภาพอากาศไม่เป็นอุปสรรค ไม่เกินเย็นนี้ น่าจะลากเรือเข้าฝั่งได้ ขณะที่ญาติผู้สูญหายยังมีความหวังจะพบร่าง ที่คาดว่า ติดอยู่ในซากเรือ
ส่วนของหัวเรือภัทรมารีน 5 เริ่มโผล่พ้นน้ำ หลังจากเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการกู้ซากเรือที่ถูกคลื่นซัดจนจมลง บริเวณปากอ่าวสมุทรปราการ โดยนายณัฐ จับใจ รองอธิบดีกรมเจ้าท่า เปิดเผยว่า ภารกิจวันนี้ คือ อัดอากาศเข้าไปใน พอลทูน หรือ ทุ่นเหล็ก ที่ติดกับตัวเรือทั้ง 4 จุด ทั้งส่วนหัวและส่วนท้าย เพื่อพยุงเรือให้ลอยขึ้นมาเหนือน้ำโดยจะใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง ตลอดช่วงเช้ามีฝนตกลงมาประปราย แต่ถือว่า สภาพอากาศไม่อยู่ในขั้นเลวร้าย
เมื่อเรือลอยลำขึ้นเหนือผิวน้ำ เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบเรือ ค้นหาร่างของลูกเรือที่สูญหายอีก 4 คน โดยจุดที่คาดว่า จะมีร่างของลูกเรือติดอยู่ เป็นบริเวณห้องเครื่อง เมื่อภารกิจสมบูรณ์แล้วเจ้าหน้าที่จะใช้เรือยัค และเรือเครน ประคองเรือภัทรมารีน 5 ลากเข้าฝั่งโดยใช้ความเร็ว 2 น็อต มาขึ้นที่ทุ่น 13 ท่าเรือท้ายซอยบางปู 80
รองอธิบดีกรมเจ้าท่า ระบุว่า ก่อนนำเรือเข้าฝั่งเจ้าหน้าที่ ต้องซีนล็อกทุกห้องเพื่อไม่ให้สิ่งของกระจายออกมา ขณะลากเรือ โดย คาดว่าจะนำเรือฯ เข้าฝั่งได้ในเวลาประมาณ 17 นาฬิกา วันนี้ (6 ต.ค.58)
ในขณะที่เจ้าหน้าที่ปฏิบัติภารกิจกู้ซากเรือในวันนี้ มีญาติของลูกเรือที่สูญหาย 4 คน เดินทางมาเฝ้าติดตามภารกิจด้วยความหวังว่า จะพบร่างผู้สูญหาย โดย นางดวงเดือน ธรรมนิยม อายุ 50 ปี ภรรยาของ นายนาวิน สุพรรณพยัคฆ์ ต้นหัวเรือ บอกว่า ไม่มีความหวังแล้วว่า สามีและคนอื่นๆ ที่ยังหาร่างไม่พบจะมีชีวิตรอด แต่ก็ยังเฝ้ารอและหวังว่า จะพบร่างเพื่อพากลับบ้านเกิดที่จังหวัดศรีสะเกษ
...
ทั้งนี้ เรือภัทรมารีน 5 เกิดอุบัติเหตุถูกคลื่นซัดจมลงปากอ่าวสมุทรปราการ ตั้งแต่กลางดึก วันที่ 19 กันยายน 2558 เรือลำนี้เป็นเรือบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ บรรจุอาหารกระป๋อง และกล่องใส่ผลิตภัณฑ์ 88 ตู้
การตรวจสอบสาเหตุเรือจม คณะกรรมการตรวจสอบจะต้องตรวจสอบตัวเรือก่อน คาดว่า จะสรุปสาเหตุที่แน่ชัดอีก 7 วัน ส่วนการให้ความช่วยเหลือลูกเรือ และญาติผู้เสียชีวิต บริษัทเจ้าของเรือเป็นผู้ชดเชยตามหลักการ และส่วนหนึ่งจะได้รับจากประกันสังคม.