ญาตินำศพเด็กหญิงวัยขวบเศษ ตั้งบำเพ็ญกุศล ขณะที่ศาลอนุมัติหมายจับแล้ว แต่เพื่อนชายของแม่ยังปากแข็ง อ้างแค่เอานิ้วสวนทวาร เพราะขับถ่ายไม่ออก ที่ต้องหนีเพราะกลัวถูกตรวจปัสสาวะ จะรอผลตรวจดีเอ็นเอยันตัวเองบริสุทธิ์...
เมื่อวันที่ 1 ต.ค. 58 หลังจากนำเสนอข่าว ญาติ ด.ญ.แอน (นามสมมติ) วัย 1 ปี 8 เดือน เข้าแจ้งความกับตำรวจ ว่า น้องแอน ถูกทารุณกรรมทางเพศจนได้รับบาดเจ็บสาหัส มีแผลฉีกขาดทางทวารหนัก และเสียชีวิตที่โรงพยาบาลหนองคาย เมื่อวันที่ 30 ก.ย.ที่ผ่านมา โดยสงสัยว่า นายแดง (นามสมมติ) พักอยู่ อ.เมืองหนองคาย ซึ่งมีความสัมพันธ์กับแม่ของน้องแอน เป็นผู้กระทำ ล่าสุดได้มีการสอบปากคำ ป้าของน้องแอน ได้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า หลังจากน้องชายเกณฑ์ทหาร แม่ของน้องแอนก็ขอพาลูกสาวออกไปอยู่ข้างนอก
โดยก่อนหน้านี้ น้องชายกับภรรยามีปากเสียงกันบ่อยครั้ง และขอว่าถ้าเลิกกัน ให้พาลูกกลับมาให้ย่าเลี้ยง แต่ออกไปไม่ถึงเดือนก็เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้น ในวันเกิดเหตุตนตามไปดูอาการน้องแอนที่โรงพยาบาลหนองคาย ทราบว่า มีอาการไตวาย ความดันต่ำมาก ศีรษะบวมช้ำ เบื้องต้นแพทย์แจ้งว่า พบร่องรอยของคราบอสุจิ เมื่อหลานสาวเสียชีวิต ญาติจึงขอให้ผ่าศพพิสูจน์ เพื่อจะได้รู้ความจริงถึงสาเหตุการตายของหลานสาว และอยากขอให้ตำรวจดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดทุกคนที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะนายแดง ซึ่งญาติทุกคนมั่นใจว่าเป็นคนลงมือก่อเหตุกับหลานสาว ส่วนแม่ของเด็กหญิงแอน หากผิดจริงก็ขอให้ตำรวจดำเนินการตามกฎหมาย
...
ด้านรูปคดีนั้น พ.ต.ท.ณัฐวุฒิ สีเสมอ สว.สส.สภ.เมืองหนองคาย ระบุว่า ได้ตรวจปัสสาวะของนายแดง และแม่ของน้องแอน พบมีสารเสพติดในร่างกาย เบื้องต้นแจ้งข้อหาเสพยาเสพติดให้โทษไว้ก่อน ศาลจังหวัดหนองคายได้อนุมัติหมายจับนายแดง ในข้อหากระทำชำเราเด็กอายุยังไม่เกินสิบสามปี ซึ่งมิใช่ภริยาหรือสามีของตน โดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตามจนเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย ตามที่พนักงานสอบสวนร้องขอ ต่อมาเวลา 09.00 น. วันที่ 1 ต.ค. 58 พ.ต.อ.ปรีดา ดวงพุทธา พนักงานสอบสวนผู้ทรงคุณวุฒิ สภ.เมืองหนองคาย ได้เบิกตัวนายแดง มาสอบปากคำเพิ่มเติม หลังจากถูกจับกุมตัว ยังให้การปฏิเสธว่า ไม่ได้กระทำชำเราหรือข่มขืนเด็ก แม้ว่าตำรวจจะสอบปากคำมาตลอดทั้งวัน
นายแดง ให้การว่า "ได้คบหากับ แม่ของน้องแอน ประมาณ 1 เดือน บอกกับตนว่าเลิกกับสามีแล้ว จากนั้นมาเปิดรีสอร์ตแห่งหนึ่งในเขตเทศบาลเมืองหนองคายอยู่ด้วยกัน ตั้งแต่วันที่ 14 ก.ย.58 ต่อมาในวันที่ 29 ก.ย.58 ช่วงกลางคืน ได้เสพยาบ้ากับแม่ของน้องแอน และเพื่อนอีกคนหนึ่ง ขณะที่เด็กไม่สบายและนอนหลับ แม่ของเด็กออกไปซื้อของ เป็นจังหวะที่เด็กตื่นมาไม่เห็นแม่จึงร้องไห้ ตนเห็นว่าเด็กท้องแข็งเพราะขับถ่ายไม่ออก เพื่อนอีกคนจึงแนะนำให้สวนทวาร จึงพาเด็กเข้าห้องน้ำแล้วใช้แชมพูทานิ้วชี้ข้างขวา สวนทวารให้เด็กเพื่อให้เด็กขับถ่ายได้ แล้วก็พาเด็กออกมา ไม่ได้ข่มขืนเด็กแต่อย่างใด พอแม่เด็กกลับมาเห็นว่า อาการเด็กไม่ดีจึงพาไปหาหมอ ตนก็รู้สึกรักเด็กเหมือนกับลูกของตัวเอง แต่ที่หลบหนี เพราะกลัวว่าตำรวจจะถูกจับตรวจปัสสาวะ ยืนยันว่าจะรอผลตรวจดีเอ็นเอพิสูจน์ตัวเอง ส่วนเลือดที่พบบนฟูกที่นอน ไม่ทราบว่าเป็นเลือดใคร"
ทั้งนี้ พ.ต.อ.ปรีดา เปิดเผยว่า ผู้ต้องหายังให้การปฏิเสธ ซึ่งเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานตามกฎหมาย หากให้การรับสารภาพในสิ่งที่กระทำไป ก็จะได้รับการลดหย่อนผ่อนโทษจากหนักเป็นเบา แต่คำให้การของผู้ต้องหาทางกฎหมายไม่มีน้ำหนักอยู่แล้ว ส่วนฝ่ายโจทก์มีหน้าที่นำสืบ ซึ่งในคดีนี้พนักงานสอบสวนเน้นหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์เป็นหลัก และเราได้ตัวอย่างเนื้อเยื่อจากตัวผู้ต้องหา เพื่อตรวจพิสูจน์เปรียบเทียบกับพยานหลักฐานในตัวของเด็กหรือในช่องทวารหนัก ถ้าหลักฐานตรงกัน แม้ผู้ต้องหาจะปฏิเสธอย่างไรก็ไม่มีสาระสำคัญ
ขณะนี้ทางตำรวจได้ประสานกับแพทย์นิติเวชขอนแก่น คาดว่า จะทราบผลตรวจภายใน 2 สัปดาห์ ซึ่งศาลจังหวัดหนองคายอนุมัติหมายจับเป็นที่เรียบร้อย ในวันที่ 2 ต.ค.58 จะคุมตัวฝากขังผัดแรก และจากการตรวจสอบประวัติพบว่า นายแดง เคยถูกจับคดีลักทรัพย์และยาเสพติด เพิ่งพ้นโทษจากเรือนจำจังหวัดหนองคาย เมื่อเดือน ต.ค.2557
ส่วนแม่ของน้องแอน เบื้องต้นตรวจพบสารเสพติดเมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้าในร่างกาย เจ้าหน้าที่จับกุมในข้อหาเสพยาเสพติดให้โทษ ในชั้นนี้จากพยานหลักฐานตำรวจรวบรวมมาได้ยังไม่มีพบ การเชื่อมโยงว่ามีผู้อื่นร่วมกระทำความผิดกับนายแดง จึงต้องดำเนินคดีกับนายแดงเพียงคนเดียว แต่หากปรากฏหลักฐานพยานอย่างอื่นเพิ่มเติมว่ามีบุคคลอื่นเกี่ยวข้องอีกก็จะได้ดำเนินการเพิ่มเติมด้วย