ฟ้ามีตา! ส่งนาวิกโยธิน กองทัพเรือ ดูแลสองตายายอาศัยอยู่ในสวนยางคนอื่น คุณตาเดินไม่ได้ ลำบากไม่มีใครดูแล มีเพียงเงินผู้สูงอายุเดือนละ 1,400 บาท วอนผู้ใจบุญช่วยเหลือ...

หลังมีการชื่นชมและแชร์กันในโลกอินเทอร์เน็ต กรณีเจ้าหน้าที่หน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธิน กองทัพเรือ ฐานวัดท่ามะปราง ต.ไพรวัน อ.ตากใบ จ.นราธิวาส ที่เข้าไปช่วยอุ้มชายชราซึ่งป่วยเดินไม่ได้ออกจากบ้านพักในสวนยางพาราเพื่อไปพบแพทย์ รพ.ตากใบ ผู้สื่อข่าวจึงลงพื้นที่ฐานปฏิบัติการวัดท่ามะปราง หมู่ 3 ต.ไพรวัน อ.ตากใบ พบกับ เรือเอกสุรัตน์ ทรงทิพย์ ผบ.ร้อยปืนเล็กที่ 1 ฉก.นราธิวาส 31 ซึ่งคลุกคลีอยู่ในพื้นที่นานกว่า 3 ปี

เรือเอกสุรัตน์ เปิดเผยว่า เริ่มต้นเมื่อ 3 ปีก่อน นำโครงการเดินเท้าเข้าชุมชนของหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธิน ภาคใต้ กองทัพเรือ มาดำเนินการเข้าถึงมวลชนทุกหลังคาเรือนในพื้นที่ พบสองตายายดังกล่าว อยู่กัน 2 คน อย่างลำบากและไม่มีคนดูแล ตนและผู้ใหญ่บ้านจึงช่วยเหลือนำข้าวสารอาหารแห้งไปให้ ส่วนภาพที่แชร์กันออกไปในโลกอินเทอร์เน็ต เริ่มมาจาก เรือตรีนิติกร จันทร์คำ ผบ.หมวดร้อยปืนเล็กที่ 1 ซึ่งรับผิดชอบดูแลฐานวัดท่ามะปราง โพสต์รูปลงในเฟซบุ๊กส่วนตัว เนื่องจากเป็นภาพที่กินใจและสื่อความหมายได้ดี จนกระทั่งมีการแชร์กันต่อ และชื่นชมเจ้าหน้าที่คนดังกล่าว ทราบชื่อ จ.อ.นพนันท์ พิมุตติพงศ์ นายพวกยิง หมวดปืนเล็กที่ 1 เป็นคนอุ้มคุณตาออกมาจากบ้านพัก เพื่อไปพบแพทย์ที่ รพ.ตากใบ ประจำทุกเดือน ตนและผู้ใหญ่บ้านช่วยเหลือโดยการนำข้าวสาร อาหารแห้งไปให้ รวมถึงแพทย์ทหารที่ไปตรวจสุขภาพและให้กำลังใจเป็นประจำทุกเดือน กระทั่งคุณตาล้มป่วยเจ็บขาเดินไม่ได้ ทางทหารจึงเข้ามารับส่ง

...

ด้าน นายสามารถ เทพพรหม ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 3 ต.ไพรวัน อ.ตากใบ เปิดเผยว่า คุณตาและคุณยายสองคนค่อนข้างลำบากไม่มีเงินทุนใดๆ เลย มีเพียงเงินผู้สูงอายุเดือนละไม่กี่บาท ลูกๆ ก็อยู่ห่างไกล นานๆ ทีถึงแวะมาเยี่ยมบ้าง โชคดีที่ทหารนาวิกโยธิน มาตั้งฐานอยู่ใกล้ๆ จึงอยากขอความอนุเคราะห์จากหน่วยงานต่างๆ ผู้ใจบุญทั้งหลายที่พอจะมีกำลังช่วยเหลือตากับยายได้ เพราะเห็นอยู่แล้วว่าแกลำบากมาก อยากจะมีบ้านเล็กๆ เป็นของตัวเอง มีที่ข้างบ้านไว้ปลูกผักเลี้ยงชีพก่อนจะตาย ทางผมก็ไม่รู้จะช่วยเหลืออย่างไรเพราะขาดเงินทุน

นอกจากนั้นแล้ว ผู้สื่อข่าวยังเดินทางไปยัง บ้านเลขที่ 9 หมู่ 3 ต.ไพรวัน อ.ตากใบ ซึ่งเป็นบ้านของคุณตาและคุณยาย ภายในสวนยางพารา เป็นบ้านไม้ยกพื้นสภาพเก่า มีเพียงของใช้เพียงเล็กน้อย ได้แก่ โทรทัศน์ และเครื่องครัวเล็กน้อย ที่ชาวบ้านนำมาให้ พบ นางทองคำ เย็นอารมณ์ อายุ 78 ปี กำลังดูแล นายกุศล เย็นอารมณ์ อายุ 79 ปี สามีที่นอนอยู่บนเสื่อผืนเล็กๆ โดยคุณตากุศล สุขภาพไม่ดีและเจ็บขาจนไม่สามารถลุกขึ้นเดินได้ตามปกติ คุณยายทองคำ เล่าให้ฟังว่า เดิมทีเป็นชาว จ.นครราชสีมา มีลูกทั้งหมด 7 คน เสียชีวิตไปแล้ว 2 คน ทำอาชีพรับจ้างทั่วไปใครจ้างทำอะไรก็ทำ จนกระทั่งปี พ.ศ. 2527 ตัดสินใจพาครอบครัวย้ายรกรากมาอยู่ที่บ้านปิเหล็ง ต.มะรือโบออก อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส กระทั่งลูกๆ โตและออกไปทำงานต่างจังหวัด หลังๆ ก็หายไป นานๆ ทีถึงจะมาเยี่ยมเพราะว่าลูกๆ เองก็ลำบาก จนกระทั่งช่วงหลังเกิดเหตุการณ์ความไม่สงบขึ้นทำให้ไม่กล้าอยู่ จึงชวนกันมาอยู่ที่บ้านตอหลัง หมู่ 3 ต.ไพรวัน แห่งนี้ โดยไปขออาศัยเจ้าของสวนยางพารา หาไม้เก่าๆ เท่าที่จะหาได้มาสร้างบ้านหลังเล็กๆ อยู่กันสองคน ช่วงแรกที่ต้นยางยังเล็กก็อาศัยปลูกผักเล็กน้อยรอบบ้านยังชีพ โดยมีรายได้จากเงินผู้สูงอายุเดือนละ 1,400 บาท จนกระทั่งมีชาวบ้านละแวกใกล้เคียงเห็นว่า ลำบากจึงแวะมาดูแล รวมทั้งหาข้าวสาร อาหารแห้งมาให้บ้างตามสมควร ช่วงปีที่ผ่านมาต้นยางเริ่มโต จึงไม่ได้ปลูกผักตามปกติ เพราะกลัวว่าจะไปทำร้ายรากต้นยาง ทำให้คุณตาที่ปกติแข็งแรง เมื่อไม่ได้ทำอะไรนานๆ ประกอบกับอายุมากแล้วเริ่มเจ็บขา จนกระทั่งไม่สามารถลุกเดินได้ตามปกติ เมื่อทหารซึ่งตั้งฐานอยู่ไม่ไกลทราบ จึงเข้ามาดูแลและเป็นคนอุ้มคุณตาไปรับส่งที่ อนามัยบ้าง โรงพยาบาลบ้าง

สำหรับผู้ที่ประสงค์จะช่วยเหลือ ทางผู้ใหญ่บ้านได้ร่วมเปิดบัญชีกับคุณยายทองคำ เย็นอารมณ์ ในชื่อบัญชี นางทองคำ เย็นอารมณ์ และ นายสามารถ เทพพรหม เลขที่บัญชี 922-0-28502-9 ธนาคารกรุงไทย สาขา อ.ตากใบ จ.นราธิวาส เพื่อรอรับความช่วยเหลือจากผู้ใจบุญร่วมช่วยเหลือสองตายายให้มีบ้านและที่ทำกินต่อไป และสามารถติดต่อประสานความช่วยเหลือได้ที่ เรือตรีนิติกร จันทร์คำ หมายเลขโทรศัพท์ 089-2443774 และนายสามารถ เทพพรหม ผู้ใหญ่บ้าน หมายเลขโทรศัพท์ 081-2754854