นายริ่ม ผสม พ่อเฒ่า จ.นครศรีธรรมราช วัย 75 ปี เครียดโรครุม บ่นไม่อยากจะให้เป็นภาระแก่ลูกหลานอีกต่อไป ลูกๆ พยายามปลอบแต่ไม่สำเร็จ ตัดสินใจใช้ปืนยิงตัวตายหนีปัญหา ด้านญาติไม่ติดใจนำศพไปบำเพ็ญกุศลตามศาสนา

เมื่อเวลา 07.50 น. วันที่ 28 ส.ค. 58 พ.ต.อ.สันติ คงสี พนักงานสอบสวนผู้ทรงคุณวุฒิ สภ.ถ้ำพรรณรา จ.นครศรีธรรมราช ได้รับแจ้งเหตุคนยิงตัวตายที่บ้านเลขที่ 244 หมู่ 9 บ้านถ้ำทอง ต.ถ้ำพรรณรา อ.ถ้ำพรรณรา หลังรับแจ้งจึงรุดไปสอบสวนพร้อมด้วย พ.ต.อ.พิรุณ กลัดทอง ผกก., พ.ต.ท.สมชาย ยันต์วิเศษ รอง ผกก.ป., พ.ต.ท.บัณฑิต สุขะวิศิษฐ์ รอง ผกก.สส., พ.ต.ท.ทักษิณ ภาพสวัสดิ์ สวป., พ.ต.ท.สงัด ตุ้งซี่ สว.สส. จนท.พิสูจน์หลักฐาน, พ.ญ.พิชญ์สินี วราชิต แพทย์เวร รพ.ถ้ำพรรณรา, เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน และมูลนิธิประชาร่วมใจ

ที่เกิดเหตุเป็นบ้านปูนชั้นเดียว จุดเกิดเหตุอยู่ในห้องน้ำภายในห้องนอน พบศพ นายริ่ม ผสม อายุ 75 ปี เจ้าของบ้าน สภาพศพใช้อาวุธปืนพกสั้นขนาด .38 จ่อยิงเข้าที่ขมับขวาของตัวเอง ในมือด้านขวายังกำอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุจ่ออยู่ที่ศีรษะ ภายในรังเพลิงยังมีกระสุนเหลืออยู่อีก 5 นัด นอนจมกองเลือดตะแคงซ้ายเสียชีวิตอยู่บนที่นอน ที่ลากมาคาไว้ที่ประตูห้องน้ำ สวมชุดเสื้อยืดคอกลมแขนยาวสีน้ำตาล นุ่งกางเกงผ้าร่มขายาวสีกรมท่า ที่บริเวณก้นถึงปลายเท้ามีผ้าห่มคลุมทับ ที่เกิดเหตุพบหัวกระสุนและปลอกกระสุนปืนขนาด .38 ตกอยู่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน

...

สอบสวน นางมะลิวรรณ เลิศแก้ว อายุ 49 ปี บุตรสาวคนโตของผู้ตายที่มาพบศพเป็นคนแรก ให้การว่า เมื่อตอนหกโมงเช้าได้เดินจากบ้านซึ่งอยู่ไม่ไกลกัน มาดูผู้เป็นพ่อที่อยู่ภายในบ้านเพียงคนเดียว เมื่อมาถึงเห็นพ่อนอนจมกองเลือด เสียชีวิตคาห้องน้ำภายในห้องนอน ที่ศีรษะมีอาวุธปืนตกอยู่จึงเกิดอาการตกใจพยายามตั้งสติ ก่อนที่จะเดินมาบอกให้พี่น้องและญาติรู้ จากนั้นก็ได้โทรศัพท์มาแจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทราบเพื่อมาตรวจสอบ

นางมะลิวรรณ ให้การต่ออีกว่า พ่อซึ่งมีอายุมากแล้วอยู่ในขั้นจัดว่าเป็นคนมีฐานะดีคนหนึ่งใน ต.ถ้ำพรรณรา มีบ้านให้เช่านับสิบหลังใกล้กับโรงพยาบาลถ้ำพรรณรา มีสวนยางพารากว่า 70 ไร่ มีเงินฝากในบัญชีหลายแสนบาท ก่อนจะล้มป่วยได้แบ่งสมบัติให้ลูกๆ รวม 3 คน เท่ากันหมด จากนั้นไม่นานได้ล้มป่วยเป็นโรคเส้นประสาททับกระดูกมาหลายปี มีอาการปวดหลัง ชาตามมือเท้า เดินก็ไม่ค่อยจะไหว ทางลูกๆ ได้พยายามพาไปรักษาตามโรงพยาบาลดังๆหลายแห่ง และตามสถานที่ต่างๆ ที่เกี่ยวกับเรื่องโรคกระดูก แต่อาการก็ยังเหมือนเดิมไม่ดีขึ้น ครั้งล่าสุดเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ได้พาไปรักษาที่ โรงพยาบาลเวียงเวศ ที่บ้านส้อง อ.เวียงสระ จ.สุราษฎร์ธานี หมอตรวจพบว่าพ่อเป็นโรคต่อมลูกหมากโต ได้ให้ยามารับประทานเป็นจำนวนมาก ทำให้พ่อเกิดอาการเครียดอยู่เป็นประจำ จากนั้นมาพ่อมักจะบ่นให้ลูกทุกคนฟังว่า ไม่อยากจะอยู่อีกต่อไปแล้ว อยากจะฆ่าตัวตายให้รู้แล้วรู้รอด แต่ลูกๆ ก็ได้พยายามปลอบใจว่าให้พ่อทำใจดีๆ เดี๋ยวก็หาย

ด้าน พ.ต.อ.พิรุณ ผกก.สภ.ถ้ำพรรณรา เปิดเผยว่าก่อนเกิดเหตุเมื่อช่วงหกโมงเย็น วันที่ 27 ส.ค.ที่ผ่านมา นายวัฏจักร ผสม อายุ 21 ปี หลานชายผู้ตายได้เดินมาดูและพูดคุยกันตามปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เพราะส่วนใหญ่แล้ว นายวัฏจักร จะเป็นคนที่มานอนเป็นเพื่อนอยู่ที่บ้านของผู้ตายกันสองคน แต่เนื่องจากเมื่อช่วงค่ำที่ผ่านมา ฝนได้ตกลงมาอย่างหนักจึงไม่ได้มานอนเป็นเพื่อน จนกระทั่งรุ่งเช้า นางมะลิวรรณ ผู้เป็นป้าเดินมาเรียกก็ไม่ได้ยินเสียงตอบ จึงเดินเข้าไปดูข้างในก็พบว่าพ่อนอนเสียชีวิตไปแล้ว

เบื้องต้นตำรวจสันนิษฐานว่า สาเหตุมาจากผู้ตายอาจจะคิดสั้น ไม่อยากจะอยู่อีกต่อไปแล้วเลยตัดสินใจฆ่าตัวตาย ในช่วงระหว่างเวลาตีสี่ถึงหกโมงเช้า เพื่อหนีโรคต่างๆ ที่กำลังรุมเร้าอย่างหนัก ไม่อยากจะให้เป็นภาระแก่ลูกหลานอีกต่อไป จึงตัดสินใจใช้ปืนยิงตัวตายดังกล่าว หลังแพทย์เวรและเจ้าหน้าตำรวจได้ร่วมกันชันสูตรพลิกศพ ทางญาติไม่มีใครติดใจการเสียชีวิต เจ้าหน้าที่จึงได้มอบศพให้ไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณีทางศาสนาต่อไป.