พบแล้วศพเด็กชาย 2 ขวบ บนภูเขาสภาพร่างแห้งกรัง คาดน่าจะเป็นคนเดียวกับที่ญาติแจ้งไว้ว่า หายจากบ้านไปประมาณสองสัปดาห์ ตำรวจระบุ หากผลพิสูจน์ใช่คนเดียวกันแน่ เชื่ออาจเป็นฝีมือคนใกล้ชิด เร่งล่าคนร้าย
วันที่ 25 สิงหาคม 2558 เวลา 09.00 น.นายเอกลักษณ์ หลุ่มชมแข หัวหน้าศูนย์ข้อมูลคนหายเพื่อต่อต้านการค้ามนุษย์ มูลนิธินิกระจกเงา เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.ปริญญา วิศิษฐฏากุล รอง ผบก.ภจว.เพชรบูรณ์ เพื่อติดตามกรณีเด็กชาย สรวิศ หมวกเหล็ก หรือ น้องวิศ อายุ 2 ขวบเศษ ได้หายตัวไปจากบ้านเลขที่ 60 หมู่ 5 บ้านซำภู ต.ช้างตะลูด อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ ตั้งแต่เย็นวันที่ 11 สิงหาคม 2558 ที่ผ่านมา เป็นระยะเวลานานกว่าสองสัปดาห์ และมีผู้ร้องเรียนขอความช่วยเหลือผ่านมูลนิธิให้ช่วยเหลือค้นหา
โดย พ.ต.อ.ปริญญา วิศิษฐฏากุล รองผบก.ภจว.เพชรบูรณ์ ได้ประสานขอสุนัขตำรวจที่มีฝีมือดีที่สุด ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติจำนวน 2 ตัว มาช่วยติดตามหา โดยได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ 150 นาย ร่วมกับหน่วยกู้ภัยในพื้นที่ และอปพร.และเจ้าหน้าที่อ.ส. และทหารจากค่าย ม.พัน28 ร่วมกันออกระดมค้นหา มีชาวบ้านกว่า 700 คน รวมทั้งสิ้นกว่า 1,000 คน เข้าร่วมช่วยเหลือลงพื้นที่ค้นหาแบบปูพรม
การค้นหาเป็นไปอย่างยากลำบากเพราะพื้นที่เป็นภูเขา กระทั่งเวลา 16.30 น. มีชาวบ้านไปพบศพเด็กชาย คาดว่า น่าจะเป็นศพของเด็กชายสรวิศ หมวกเหล็ก หรือ น้องวิศ เสียชีวิตอยู่ในร่องน้ำระหว่างรอยต่อเขา ซึ่งอยู่หลังโรงเรียนบ้านซำภู ห่างจากจุดที่เด็กหายออกจากบ้านราว 1 กิโลเมตร สภาพศพที่พบเริ่มเน่าเปื่อยแห้งติดกระดูกส่งกลิ่นเหม็นเน่าคละคลุ้ง เจ้าหน้าที่กู้ภัย จึงนำศพลงมาที่ลานจอดรถโรงเรียนบ้านซำภู
พ.ต.อ.ปริญญา วิศิษฐฏากุล รอง ผบก.ภจว.เพชรบูรณ์ กล่าวว่า ศพที่พบนั้นมีความเป็นไปได้สูงที่จะเป็นศพของเด็กชายสรวิศ ที่หายตัวไปเมื่อสองสัปดาห์ก่อน สังเกตได้จากเสื้อผ้าที่สวมใส่ตรงกับปากคำของญาติที่สอบไว้ ส่วนรองเท้านั้น ยังหาไม่พบ จากสภาพร่างกายเด็กที่เล็กกว่าปกติค่อนข้างแคระแกร็นนั้น ไม่น่าจะพลัดหลงออกจากบ้านไกลเป็นกิโลเมตรได้ อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นยังไม่สามารถระบุได้ว่า เด็กคนนี้เป็นคนเดียวกันหรือไม่ หรือ เสียชีวิตด้วยสาเหตุใดเจ้าหน้าที่ตำรวจจะต้องส่งศพไปพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคล เพื่อระบุชี้ให้ชัดเจน และตรวจบาดแผลที่ศพว่า เสียชีวิตด้วยสาเหตุใด
...
โดยแนวทางการสืบสวนนั้น ได้ให้น้ำหนักไปในเรื่องของการถูกกระทำจากบุคคลใกล้ชิดมากที่สุด เบื้องต้นได้ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสอบปากคำคนใกล้ชิดไว้โดยละเอียดแล้ว ซึ่งทุกอย่างจะเป็นหลักฐานสำคัญในการเชื่อมโยงไปถึงสาเหตุการเสียชีวิตของเด็กชาย สรวิศ โดยในคดีนี้นั้น ญาติของเด็กชายสรวิศ ได้เข้าแจ้งความไว้กับพนักงานสอบสวน สภ.บ้านกลาง ว่า เด็กหายออกจากบ้านไปขณะเดินเล่นอยู่หน้าบ้าน และหากผลพิสูจน์ระบุว่า เด็กถูกฆาตกรรมนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจจะต้องรวบรวมพยานหลักฐานให้ครบถ้วนชัดเจน เพราะเป็นคดีที่มีความละเอียดอ่อนและสะเทือนขวัญประชาชน และจะต้องจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็วที่สุด