ตำรวจเมืองมะขามหวาน ระดมกวาดล้างยาเสพติดอย่างหนัก ล่าสุด จนท.ล่อซื้อยาบ้า 24,000 เม็ด ได้ผู้ต้องหา 1 คน ขณะรวบอีก 3 ราย ยึด 480 เม็ด พร้อมปืน-กระสุน รวมมูลค่ากว่า 7 ล้านบาท...
เมื่อวันที่ 25 ส.ค. 58 พ.ต.อ.ปริญญา วิศิษฐฎากุล รอง ผบก.ภ.จว.เพชรบูรณ์ แถลงผลการปราบปรามยาเสพติด ที่ สภ.หล่มสัก สามารถจับกุมพ่อค้ายาบ้าได้หลายราย พร้อมของกลางรวมกว่า 24,480 เม็ด โดยรายแรก กลางดึกวันที่ 24 ส.ค. ชุดสืบสวน และ ป.ป.ส.เพชรบูรณ์ นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมเงินของกลาง 1,200,000 บาท ไปล่อซื้อยาบ้า 12 มัด 24,000 เม็ด จาก นายต่อศักดิ์ ด้วงพรม อายุ 31 ปี ชาวบ้าน หมู่ 3 ต.น้ำก้อ อ.หล่มสัก ขณะสะพายเป้สีดำบรรจุยาบ้า ขี่รถจักรยานยนต์ฮอนด้า คลิก สีแดง หมายเลขทะเบียน ขยฉ 518 เพชรบูรณ์ มาส่งมอบยาบ้าให้กับสาย เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงจับกุม ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ยาบ้าทั้งหมดซื้อมาจาก นายเซ่ง แซ่ว่าง ชาวไทยเชื้อสายม้ง ที่มีภูมิลำเนาอยู่ที่บ้านใหม่ จ.นครไทย จ.พิษณุโลก ซึ่งรู้จักเพราะถูกจำคุกอยู่ด้วยกันที่เรือนจำอำเภอหล่มสัก ในข้อหาจำหน่ายยาเสพติด โดย นายต่อศักดิ์ ถูกจำคุก 3 ปี เพิ่งพ้นโทษเมื่อปี 56 ส่วน นายเซ่ง พ้นโทษปี 55
ส่วนอีก 2 ราย ช่วงบ่ายวันเดียวกัน ชุดสืบสวน สภ.หล่มสัก จับกุม นายฉัตรชัย จำปาศรี อายุ 26 ปี ชาวบ้าน หมู่ 7 ต.ลานบ่า อ.หล่มสัก บริเวณกลางทุ่งนาหมู่ 6 ต.บุ่งคล้า อ.หล่มสัก ได้ของกลางยาบ้า 370 เม็ด อาวุธปืนลูกซองสั้นขนาดเบอร์ 20 จำนวน 1 กระบอก กระสุนขนาดเบอร์ 20 จำนวน 3 นัด ถูกแจ้งข้อกล่าวหาจำหน่ายยาเสพติดโดยผิดกฎหมาย มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต และสามารถจับกุมเพื่อนร่วมแก๊งได้อีกราย ชื่อ นายเอกรินทร์ สิงห์เส อายุ 21 ปี ชาวบ้าน หมู่ 7 ต.ลานบ่า อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ ที่กระท่อมกลางทุ่งนา หมู่ 6 ต.บุ่งคล้า พร้อมของกลางยาบ้า 100 เม็ด ถูกแจ้งข้อกล่าวหาครอบครองยาเสพติดเพื่อจำหน่าย
...
รายสุดท้าย เป็นเยาวชนอายุ 19 ปี ชาว อ.หล่มสัก ได้ของกลางยาบ้า 10 เม็ด ถูกจับกุมขณะเดินอยู่ในหมู่บ้าน พร้อมแจ้งข้อหาครอบครองยาเสพติดไว้เพื่อเสพ
ทั้งนี้ พ.ต.อ.ปริญญา กล่าวว่า จากการระดมกวาดล้างอย่างหนัก ทำให้ผู้ต้องหาไม่สามารถจำหน่ายยาบ้าได้ จึงทำให้มีการจำหน่ายยาบ้าในราคาถูกลง ซึ่งเมื่อหลายวันก่อนมีการนำยาบ้ามาทิ้งไว้กว่า 60,000 เม็ด และการจำหน่ายเป็นไปได้ยากขึ้น เพราะถูกเจ้าหน้าที่ทหารตำรวจปกครองร่วมกันกดดันอย่างหนัก โดยลอตนี้ได้ติดต่อเหมาซื้อในราคาเม็ดละ 50 บาท ซึ่งหากถูกนำไปจำหน่ายในท้องตลาดจะมีราคาสูงถึง 7 ล้านบาทเศษ.