คนงานฟาร์ม ทรมานทารุณ จนท.เข้าช่วย

ตำรวจทหารรวบผู้จัดการ แบงก์กรุงไทย เจ้าของฟาร์มหมูใหญ่ จ.นครปฐม กักขังใช้แรงงานชาวลาวเยี่ยงทาส หลังนำกำลังบุกตรวจค้นฟาร์มเนื่องจากได้รับข้อมูลจากคนงานฟาร์มเป็ด พบคนงานลาว 12 คน ถูกกักขังในบ้านพักปูนชั้นเดียวมีลูกกรงครอบผนังด้านหน้าและประตูเข้าออกคลุมไปถึงเพดานห้องราวกับคุก ต้องใช้คีมตัดกุญแจขนาดใหญ่คล้องล็อกประตูลูกกรงเข้าไปช่วยเหลือ คนงานเคราะห์ร้ายแฉถูกบังคับทำงานแต่เช้า พอเข้าห้องพักปิดลูกกรงไปไหนไม่ได้ หากใครเจ็บป่วยทำงานไม่ไหวถูกซ้อมทารุณ ทำงานมา 3 เดือน ยังไม่ได้รับเงินแม้แต่เก๊เดียว

ตำรวจทหารบุกช่วยเหลือชาวลาวถูกกักขัง ใช้แรงงานเยี่ยงทาสรายนี้ เปิดเผยขึ้นเมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 22 ส.ค. พ.ต.ท.ยงลิต ศุภผล สว.กก.สส.ภ.จ.นครปฐม พ.ต.ท.ภาณุทัต เหลืองสัจจกุล สว.สส.สภ.เมืองนครปฐม พ.ต.ท.ชัยณรงค์ ดีศิริ สว.สส.สภ.กำแพงแสน ร่วมกับ จ.อ.ไพฑูรย์ ศรีราชา กองบังคับกองร้อย ร.29 พัน. 3 ค่ายสุรสีห์กาญจนบุรี นำกำลังตำรวจทหารกว่า 30 นาย คุมตัวนายเอ (นามสมมติ) อายุ 25 ปี และนายบี (นามสมมติ) อายุ 22 ปี แรงงานชาวลาว ผู้ต้องหาไม่พกบัตรแรงงานต่างด้าว เข้าตรวจค้นยุพาฟาร์ม เลขที่ 140 หมู่ 9 ต.มาบแค อ.เมืองนครปฐม เนื่องจากได้รับแจ้งมีการกักขังบังคับใช้แรงงานต่างด้าว

พบเป็นฟาร์มเลี้ยงหมูและไก่ขนาดใหญ่ เนื้อที่กว่า 20 ไร่ มีกำแพงรั้วสูงล้อมรอบ ภายในแบ่งเป็นโรงเลี้ยงกว่า 10 โรง เลี้ยงหมูนับพันตัวและเลี้ยงไก่นับหมื่นตัว เจ้าหน้าที่ใช้อำนาจตามประกาศ คสช.สั่งให้คนงานไทยที่อยู่ภายในเปิดประตู แล้วบุกเข้าไปตรวจสอบ โดยนายเอและนายบีนำเจ้าหน้าที่ไปยังบ้านพักคนงานตั้งอยู่ตรงกลางฟาร์ม มีโรงเลี้ยงหมูและโรงเลี้ยงไก่ล้อมรอบ ถึงกับตะลึงบ้านพักคนงานดังกล่าวเป็นโรงเรือนปูนชั้นเดียวผนังปูนด้านหน้ายาวร่วม 20 ห้อง มีลูกกรงเหล็กครอบอยู่ด้านนอกยาวตลอดแนวและคลุมขึ้นไปถึงเพดานห้องด้านใน ประตูลูกกรงมีกุญแจขนาดใหญ่คล้องปิดอยู่ ต้องใช้คีมตัดเหล็กเข้าไปตรวจสอบด้านใน กั้นซอยเป็นห้องย่อยขนาด ภายในมีกลิ่นเหม็นตลบอบอวล เนื่องจากไม่มีส้วมและห้องน้ำ อากาศภายในถ่ายเทได้น้อยเพราะไม่มีหน้าต่าง

...

ตรวจสอบภายในห้องแต่ละห้อง พบคนงานชายชาวลาว 12 คน อายุ 17-25 ปี แยกนอนอยู่ในแต่ละห้อง พอเห็นเจ้าหน้าที่บุกเข้ามาต่างแสดงความดีใจอย่างเห็นได้ชัด นายสมใจหนึ่งในคนงานลาว กล่าวว่า พวกตนถูกนายหน้าชาวลาวหลอกให้มาทำงานเสียค่าหัวรายละ 5,000 บาท หลบหนีเข้าประเทศไทยทางช่องเม็ก จ.อุบลราชธานี แล้วมีรถบรรทุกจากฟาร์มไปรอรับพามาทำงาน เจ้าของฟาร์มตกลงว่าจะให้เงินเดือน เดือนละ 7 พันบาท ในเดือนแรกที่มาทำงานพักอยู่บ้านพักคนงานตามปกติ แต่พอครบเดือนไปขอเบิกเงินเพื่อส่งกลับบ้าน แต่เจ้าของฟาร์มไม่ให้เบิก แถมพาพวกตนไปอยู่บ้านพักที่มีกรงขัง และมีการ์ดคอยคุมไม่ให้หลบหนี

นายสมใจกล่าวอีกว่า ทุกวันต้องตื่นไปทำงานตอน 7 โมงเช้า โดยจะมีคนเอาข้าวมาให้แล้วคุมออกไปทำงาน ตอนกลางวันและเย็นมีคนเอาข้าวมาให้กินอย่างตามมีตามเกิด หลังกลับเข้าห้องพักและปิดกรงด้านหน้าจะไม่ให้ออกไปไหนอีก ห้องน้ำห้องส้วมก็ไม่มีใครจะขับถ่ายต้องถ่ายลงถุงนำออกมาทิ้งในตอนเช้า พวกตนทำงานมานานกว่า 3 เดือนแล้ว ยังไม่ได้รับเงินเดือนและยังถูกทารุณหากใครไม่สบายจะถูกกล่าวหาว่าแกล้งถูกทำร้ายทั้งเตะ ตบ บางครั้งใช้ไม้ตีหัวแตก ต้องทนอยู่เหมือนนักโทษไม่กล้าหนีไปไหน เพราะเคยมีคนหนีแต่ถูกซ้อมจนน่วม

จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้จับกุมตัวนายไชยเดช โสนุช อายุ 55 ปี เจ้าของฟาร์มและยังเป็นผู้จัดการธนาคารกรุงไทย สาขานครปฐม แต่นายไชยเดชโวยวายว่าไม่ได้ทำร้ายหรือกักขังคนงานลาว เจ้าหน้าที่จึงให้คนงานลาวทั้งหมดชี้ตัวยืนยันว่าเป็นคนลงมือทำร้าย และสั่งให้ลูกน้องร่วมทำร้ายด้วย บางครั้งก็ชักปืนออกมาขู่คนงานด้วย คุมตัวไปดำเนินคดีที่ สภ.กำแพงแสน ในข้อหากักขังหน่วงเหนี่ยว ทำร้ายร่างกาย สำหรับข้อหาค้ามนุษย์ต้องรอสอบสวนให้ชัดเจนก่อน ส่วนคนงานลาวทั้ง 12 คน ถูกดำเนินคดีในข้อหาหลบหนีเข้าเมือง

ด้าน จ.อ.ไพฑูรย์ ศรีราชา กองบังคับกองร้อย ร.29 พัน. 3 ค่ายสุรสีห์กาญจนบุรี เปิดเผยเบื้องหลังการบุกช่วยเหลือแรงงานลาวครั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อคืนที่ผ่านมา ขณะตำรวจ ทหารร่วมกันตั้งจุดสกัดหน้า สภ.กำแพงแสน พบนายเอและนายบีท่าทางมีพิรุธ ตรวจสอบพบว่าเป็นคนงานฟาร์มเป็ดใกล้ฟาร์มหมูที่เกิดเหตุ แต่ทั้งคู่ไม่ได้พกบัตรประจำตัวแรงงานต่างด้าว จึงคุมตัวดำเนินคดี ซึ่งทั้งคู่บอกให้ทหารและตำรวจเข้าไปช่วยเหลือเพื่อนคนลาวถูกกักขังใช้แรงงานในฟาร์มหมูดังกล่าวจึงนำกำลังเข้าไปช่วยเหลือ ซึ่งสภาพที่พบเห็นมันคุกชัดๆ เข้าข่ายค้ามนุษย์ กักขังหน่วงเหนี่ยวทำร้ายร่างกาย ไม่น่าจะมีการกระทำเช่นนี้อยู่อีก