ยายวัย 60 ปี เจ้าของร้านขายอาหารอีสานย่านศรีราชา จ.ชลบุรี ถูกแก๊งมิจฉาชีพหลอกมอมยา แสดงท่าทีว่าจะขอเช่าห้องพัก ก่อนพาไปช่วยดูที่ดินข้างวัด อ้าง จะแบ่งค่านายหน้าให้ สุดท้ายล่อลวงทรัพย์สินพร้อมเงินสดไปกว่าสองแสนบาท
เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 21 ส.ค. 58 ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนว่า มีแก๊งมิจฉาชีพหลอกมอมยาแม่ค้าร้านขายส้มตำและอาหารตามสั่งอีสาน หน้าโรงงานแห่งหนึ่งริมถนนสายหนองยายบู่-ศรีราชา หมู่ 7 ต.หนองขาม อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ฉกเงินไปได้กว่า 200,000 บาท จากนั้นจึงเดินทางไปตรวจสอบ
นางบุษบา ทองย่อย อายุ 60 ปี เจ้าของร้านขายส้มตำและอาหารอีสานตามสั่ง เปิดเผยข้อมูลกับผู้สื่อข่าวว่า เมื่อวันที่ 19 ส.ค.ที่ผ่านมา ได้มีคนร้ายเป็นชาย 2 คน และหญิง 1 คน ขับรถยนต์โตโยต้า สีเทาดำ ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน มาจอดหน้าร้านแล้วลงมานั่งสั่งอาหาร ทำทีพูดคุยเพื่อหาบ้านเช่า ตนแนะนำว่ามีบ้านให้เช่าอยู่ริมอ่างเก็บน้ำไม่ห่างจากร้านมากนัก โดยทั้งสามคนบอกว่าอาทิตย์หน้าจะเข้ามาติดต่อขอเช่า แต่ผ่านไปเพียงวันเดียวทั้งสามคนก็ได้เข้ามาอีก ล่าสุดเมื่อเวลาประมาณ 11.30 น. วันที่ 20 ส.ค. คนร้ายกลับเข้ามา จากนั้นให้ตนพาไปดูบ้านเช่า
หลังจากดูบ้านเช่าเสร็จ ระหว่างทางขากลับ คนร้ายก็ได้เกลี้ยกล่อมให้เข้ามาช่วยดูที่ดินข้างวัดหนองค้อ โดยอ้างว่ามีเจ้าของที่ดินรออยู่ต้องการใช้เงินด่วนจึงขายที่ดินราคาถูกและจะแบ่งค่านายหน้าให้ 1 แสนบาท และยังได้ทำทีไปพบเพื่อนร่วมแก๊งที่นัดแนะกันไว้ก่อนหน้า โดยสวมรอยเป็นเสี่ยรับซื้อที่ดิน เมื่อถึงจุดนัดหมายก็นำเงิน 5 แสนมากองไว้ในรถ
...
ระหว่างนั้นหญิงร่วมแก๊งที่นั่งมาในรถก็เข้ามาคลอเคลียกอดรัดตัวตนแบบใกล้ตัว สักพักตนก็มีอาการมึนงง ไม่ได้สติ คาดอาจถูกมอมยาก่อนพูดคุยและพาขึ้นรถมาจอดแวะให้ตนลงมาที่ร้านเข้าไปเอาทรัพย์สินมา ประกอบด้วย สร้อยคอทองคำ 2 บาท 1 เส้น สร้อยคอทองคำ 1 บาท 1 เส้น พร้อมพระเลี่ยมทอง สร้อยข้อมือทองคำ 1 บาท 1 เส้น เงินสดที่เก็บไว้ในร้านจำนวน 17,000 บาท รวมถึงเงินในเอี๊ยมที่ใส่ประมาณ 3-4 หมื่นบาท แล้วกลับมาที่รถก่อนจะพาขับออกมา
ขณะที่ขับออกมาไม่ไกล คนร้ายก็ได้จอดรถแล้วก็นำบัตรเอทีเอ็มของตนที่ถามรหัสไปกดที่ตู้เอทีเอ็มหน้าร้านสะดวกซื้อริมถนนสายหนองยายบู่ห่างจากร้านตนประมาณ 1 กิโลเมตรกว่าไปอีกจำนวน 13,000 บาท จนเกลี้ยงบัญชีเหลือไว้เพียง 30 บาท รวมเป็นจำนวนเงินกว่าสองแสนบาท จากนั้นขับรถออกมา เมื่อมาถึงสี่แยกอัสสัมชัญ ศรีราชาภายในตัวเมืองศรีราชาก็ได้หลอกตนเองให้ลงไปถ่ายเอกสารที่ร้านริมถนน แล้วคนร้ายก็พากับขับรถหนีออกไปอย่างรวดเร็ว
ก่อนที่ตนเองจะเริ่มรู้สึกตัวว่าถูกหลอกแน่แล้วอีกทั้งโทรศัพท์ก็ติดไปกับรถด้วย จึงได้เหมารถสามล้อกลับบ้าน ก่อนเข้าแจ้งความที่ สภ.หนองขาม เจ้าของท้องที่เกิดเหตุเพื่อช่วยให้ติดตามตัวคนร้ายและอยากให้ตำรวจจับตัวคนร้ายมาลงโทษให้ได้ เพราะเจ็บใจไม่อยากให้คนอื่นมาถูกหลอกอีก และเสียดายเงินที่เก็บออมไว้มาตั้งแต่สาวจนแก่ถึงกับหมดตัวเลย