ระเบิดตูม!เสียงดังสนั่นสวนยางพารา เมืองนครศรีธรรมราช สงสัยกลัวน้อยหน้าราชประสงค์ ตัวบ้านเจ้าของสวนฯได้รับความเสียหาย แต่โชคดีไร้คนเจ็บ-ตาย ตร.เร่งหาสาเหตุ
เมื่อเวลา 20.30 น.วันที่ 19 ส.ค. พ.ต.ท.สมเกียรติ เทียบศรไชย พนักงานสอบสวน สภ.ทุ่งใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช ได้รับแจ้งจากนายบัญญัติกิจ สุขฉนวน อายุ 51 ปี ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 4 ต.ทุ่งสัง ว่า มีเหตุระเบิดเกิดขึ้น บ้านเลขที่ 71/3 หมู่ 4 บ้านทุ่งประหลาด ต.ทุ่งสัง อ.ทุ่งใหญ่ หลังรับแจ้งจึงได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชา ทราบตามลับดับชั้น จากนั้นจึงรุดไปสอบสวนพร้อมด้วย พ.ต.อ.สมโชค จันทรมณี ผกก. พ.ต.ท.ชัยภัทร ศรีเรือง รอง ผกก.สส. พ.ต.ต.ไพโรจน์ เมืองสุวรรณ สวป ร.ต.อ.ชำราญ เพชรเกื้อสายตรวจรถยนต์ 191 ร.ต.ท.รักธรรม ส้มเขียวหวาน รอง สว.สส. กำลังตำรวจชุดสืบสวนทั้งในและนอกเครื่องแบบ
ที่เกิดเหตุ เป็นบ้านปูนชั้นเดียว จุดเกิดเหตุอยู่บริเวณหลังบ้าน ห่างจากตัวบ้านไปประมาณ 5 เมตร ใกล้กับสวนยางพารา พบหลุมระเบิดขนาดใหญ่ วัดความกว้างของหลุมระเบิดได้ 30 ซม. ความลึก 10 ซม. ตรวจสอบในที่เกิดเหตุพบว่า ที่บริเวณกำแพงหลังบ้านมีร่องรอยถูกสะเก็ดระเบิดกระจายไปทั่วหลายสิบจุด บานหน้าต่างบ้านที่ติดกระจกสีชา ถูกแรงระเบิดและสะเก็ดระเบิดจนแตกกระจายเกลื่อนตกมากองอยู่ที่พื้นดินที่สวนยางพารา อายุของต้นยางประมาณ 3 ปี ถูกสะเก็ดระเบิดกระจายไปถูกต้นยางหลายสิบต้น ได้รับความเสียหายเป็นวงกว้าง
...
เบื้องต้น ทำการสอบสวน นางพัฒชณี หรือ แต้ม แสงศรี อายุ 51 ปี อดีตแม่ค้าขายหมู ที่ตลาดสดเทศบาลตำบลท่ายาง เจ้าของบ้านที่เกิดเหตุ ให้การว่า ตอนสองทุ่ม ขณะที่ตนกำลังพักผ่อนดูทีวีอยู่ภายในบ้าน พร้อมกับ นางสาววารุณี พัฒศรีเรือง อายุ23 ปี ลูกสะใภ้ อยู่ๆก็ได้ยินเสียงระเบิดดังตูมสนั่นหวั่นไหว ขึ้นที่บริเวณหลังบ้าน ข้าวของภายในบ้านได้รับความสะเทือน ตกกระจัดกระจาย ทำให้เกิดอาการตื่นตกใจกลัว แต่โชคดีที่ไม่มีใครเป็นอะไร หรือได้รับอันตรายในครั้งนี้ หลังเสียงระเบิดสงบลงจึงได้โทรศัพท์ไปแจ้งให้ นายบัญญัติกิจ สุขฉนวน ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 4 ต.ทุ่งสัง เข้ามาตรวจสอบในเบื้องต้น ก่อนที่จะโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจสอบ
เบื้องต้นยังไม่ทราบว่า เป็นระเบิดชนิดใด แต่สันนิษฐานว่า น่าจะเป็นระเบิดสังหารแบบชนิดขว้าง ดูจากการกระจายของสะเก็ดระเบิดจากหลุมรัศมีแผ่กระจายเป็นวงกว้าง และไกล เสียงของระเบิดได้ยินไกลร่วมกิโลฯ ทำเอาชาวบ้านแตกตื่นแห่พากันมามุงดูกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ ซึ่งเจ้าหน้าที่จะได้เข้าตรวจสอบและเก็บวัตถุพยานต่างๆในเช้าวันรุ่งขึ้น เนื่องจากเวลาที่เกิดเหตุ มันมืดค่ำจึงไม่สามารถที่จะมองอะไรได้ชัดเจน ต้องรอให้เจ้าหน้าที่จากหน่วย EOD ของภูธร จังหวัดนครศรีธรรมราช และเจ้าหน้าที่จากกองพิสูจน์หลักฐาน เข้ามาตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้งหนึ่งในวันพรุ่งนี้ จากนั้นจึงได้นำผ้าเทปใสของตำรวจมาพันรอบกันพื้นที่บริเวณที่เกิดเหตุไว้ ไม่ให้ผู้ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าไปทำลายหลักฐานต่างๆ
ส่วนสาเหตุที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ เจ้าหน้าที่จะได้เร่งสอบสวนเพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไปว่า เป็นการป่วนเมือง หรือ ไปโยงกับที่เกิดเหตุระเบิดราชประสงค์ในกรุงเทพฯ หรือไม่