ผบช.ภ.4 เรียกประชุม ผบก.-รอง ผบก. พร้อมเชิญนายธนาคารมาร่วมแก้ปัญหาตำรวจมีหนี้สินล้นพ้นตัวจนถูกฟ้องล้มละลาย และต้องถูกปลดออกจากราชการตามระเบียบ เผยมี 5 นายเพิ่งถูกปลด อีก 600 นาย อาการร่อแร่ ขอธนาคารพักหนี้ พักฟ้อง...
เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 6 ส.ค. 58 ที่ห้องประชุมฉัตรไพฑูรย์ กองบังคับการตำรวจภูธร จ.อุดรธานี พล.ต.ท.บุญเลิศ ใจประดิษฐ์ ผบช.ภ.4 เป็นประธานประชุมติดตามความคืบหน้า การแก้ไขปัญหาข้าราชการตำรวจ มีหนี้สินล้นพ้นตัว ถูกฟ้องแพ่ง หรือฟ้องล้มละลาย พร้อมมอบนโยบายให้กับผู้บังคับการ รองผู้บังคับการตำรวจ 12 จังหวัดในพื้นที่ภาค 4 โดยเชิญตัวแทนจากธนาคารออมสิน ในฐานะเจ้าหนี้ผู้ฟ้อง ซึ่งได้ส่งนายวิเชฐ ธรรมวิภาค ผช.ผอ.สายกิจการสาขาที่ 4 ธนาคารออมสิน พร้อม ผอ.ธนาคารออมสิน ภาค 10 และ 11 มาร่วมแก้ไขปัญหา
พล.ต.ท.บุญเลิศ ใจประดิษฐ์ ผบช.ภ.4 กล่าวว่า ผู้บังคับบัญชาจะต้องให้ความสนใจ ใส่ใจ สอดส่องดูแลผู้ใต้บังคับบัญชา ทั้งเรื่องงานและเรื่องส่วนตัว เช่น ปัญหาภายในครอบครัว ปัญหาจากการทำงาน การมีหนี้สินล้นพ้นตัว ติดสุราเรื้อรัง อันเป็นสาเหตุทำให้ข้าราชการตำรวจ ‘ฆ่าตัวตาย‘ ตลอด 8 เดือนที่ผ่านมา ซึ่งการแก้ไขปัญหาหนี้สินของตำรวจภูธรภาค 4 ที่มีอยู่กับธนาคารออมสิน ได้ผลคืบหน้าไปพอสมควร แต่ก็ยังคงต้องช่วยกันต่อไป เหมือนตำรวจทุกนายเป็นครอบครัวเดียวกัน
...
"ก่อนที่จะเริ่มโครงการนี้ตำรวจภาค 4 มีหนี้อยู่กับธนาคารออมสิน 13,000 ราย วงเงิน 9,000 ล้านบาท เป็นกลุ่มที่มีปัญหาเริ่มขาดส่งหนี้ 2,500 ราย วงเงิน 2,000 ล้านบาท เราได้ช่วยกันแก้ปัญหาไปได้ 1,100 ราย วงเงิน 900 ล้านบาท อยู่ระหว่างการเจรจา 1,200 ราย วงเงิน 1,000 ล้านบาท และกลุ่มที่ร่อแร่ไร้อนาคตอีกราว 600 ราย ที่ถูกฟ้องล้มละลาย แก้ปัญหาทำได้อย่างเดียวคือต้องเอาเงินก้อนไปปิดหนี้เท่านั้น เมื่อวานมีตำรวจอุดรธานีต้องถูกปลดออกจากราชการ 5 นาย เพราะคดีล้มละลายถึงที่สุด ต่อไปก็น่าจะเป็นตำรวจมหาสารคาม และอีกหลายจังหวัดอีกราว 100 นาย" ผบช.ภ.4 กล่าว
ขณะที่ พล.ต.ต.สุทิพย์ ผลิตกุศลธัช ผบก.ภ.จ.หนองบัวลำภู กล่าวในที่ประชุมว่า ขอให้ธนาคารออมสิน พิจารณาให้ข้าราชการตำรวจได้รับสิทธิ เหมือนกับข้าราชการครู ในการพักชำระหนี้ และพักการฟ้องร้อง เพื่อผ่อนปรนให้ข้าราชการตำรวจได้ตั้งหลัก กลับมาผ่อนชำระหนี้สินได้ หากต้องถูกฟ้องร้องจนล้มละลาย ก็ต้องออกจากราชการไปตามระเบียบ
ด้านนายวิเชฐ ธรรมวิภาค ผช.ผอ.สายกิจการสาขาที่ 4 ธนาคารออมสิน กล่าวว่า ธนาคารออมสินให้สินเชื่อเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิต ไม่ได้หวังในดอกเบี้ย หรือค่าปรับ ตลอดระยะเวลากว่า 10 ปีที่ผ่านมา ธนาคารเองประสบปัญหาลูกหนี้หนี ไม่มาคุย หลบหน้า เราเองก็ถูกตรวจสอบจากแบงก์ชาติ ก็ต้องดำเนินการไปตามระเบียบ ซึ่งเกิดขึ้นทั่วประเทศ เมื่อทางผบช.ภาค 4 ให้ความสำคัญในเรื่องนี้จึงเกิดความร่วมมือ 4 ฝ่าย คือ ผู้กู้ ผู้ให้กู้ สหกรณ์ และผู้บังคับบัญชา จนปัญหาที่เกิดขึ้นมีการแก้ไขไปแล้วกว่า 60 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งจะเป็นตัวอย่างให้กับพื้นที่อื่นด้วย
"เดิมแนวโน้มหนี้ข้าราชการตำรวจที่มีปัญหาค้างชำระมีแนวโน้มสูงขึ้น แต่เมื่อได้รับการเอาใจใส่จาก ผบช.ภ.4 ทำให้หนี้สินที่มีปัญหาลดลง วันนี้ตำรวจได้ขอให้ธนาคารพักหนี้ และพักฟ้อง เหมือนกับข้าราชการครู ก็ได้ชี้แจงไปแล้วว่า จากสภาพเศรษฐกิจขณะนี้ ธนาคารได้มีมาตรการช่วยเหลือ ส่วนหนึ่งคือการพักชำระหนี้สินครู คือให้หยุดไม่ต้องจ่ายเงินต้น หรือจ่ายน้อยลง แต่ยังคงชำระดอกเบี้ยอยู่ จะกลับไปดูว่ามาตรการนี้ รวมทั้งการพักฟ้อง จะใช้กับข้าราชการตำรวจได้หรือไม่" นายวิเชฐ กล่าว
ส่วนนายสุริยะ กาฬบุตร ผอ.ธนาคารออมสิน ภาค 10 กล่าวว่า ต้องขอบคุณ ผบก.ภ.จ.หนองบัวลำภู และ ผบก.ภ.จ.เลย ที่ได้เข้ามาช่วยแก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง และกลายเป็นโมเดลในการแก้ปัญหา ซึ่งสำนักงานธนาคารออมสินภาคหลายแห่งเมื่อรู้ว่าในพื้นที่ตำรวจภูธรภาค 4 มีการแก้ปัญหาหนี้สินของตำรวจได้ผล ก็สอบถามมาเพื่อนำเอารูปแบบของ จ.หนองบัวลำภู และ จ.เลย ไปใช้บ้างแล้ว.