เซียน-ฮือฮา‘กริ่ง’บิ๊กอ๊อดเคาะถล่ม34ล.นับยอดรวมกว่า126ล้าน!ทุนสร้างรพ.

อภิมหางานประกวดและประมูลพระเครื่องมหากุศล หาเงินสร้างโรงพยาบาลในภาคใต้ อิ่มบุญกันถ้วนหน้า ได้เงินกว่า 126 ล้านบาท รองประธานสโมสรฟุตบอลเลสเตอร์ ซิตี้ ทุ่มทุนสร้างแบบจัดไม่อั้น ควักกระเป๋าบูชา “พระกริ่งปวเรศ” วัดบวรนิเวศวิหาร เนื้อนวโลหะกลับดำ ของ “บิ๊กอ๊อด-พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง” ผบ.ตร. ที่เป็นองค์ไฮไลต์ในงานไปได้ในราคา 34 ล้านบาท ส่วน “พระสมเด็จฯ พิมพ์ใหญ่” วัดระฆังโฆสิตาราม องค์สวยของบิ๊กคิงเพาเวอร์ “ปรีดา พสวงศ์” ไม่ยอมน้อยหน้าใคร ทุบโต๊ะจัดหนักคว้าไปในราคา 30 ล้านบาท ขณะที่พระปิดตาหลวงพ่อแก้ว วัดเครือวัลย์ จ.ชลบุรี ประมูลไปได้ในราคา 31 ล้านบาท

อภิมหางานประมูลพระเครื่องที่นับเป็นทอล์ก ออฟเดอะทาวน์ของสังคมเมืองไทย เพราะเป็นการประมูลพระเครื่องครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดในประเทศไทย เพื่อให้คนในวงการพระและคนรุ่นหลังมีโอกาสชื่นชม หรือได้เห็นพระสำคัญๆ ที่เก็บไว้ในกลุ่มผู้อนุรักษ์หรือนักสะสมพระเครื่องชั้นแนวหน้าของเมืองไทย

ทั้งนี้ เมื่อเวลา 19.00 น. วันที่ 29 ก.ค. ที่ห้องอินฟินิตี้ โรงแรมพูลแมน ซอยรางน้ำ กทม. พล.อ. อุดมเดช สีตบุตร ผบ.ทบ. และ รมช.กลาโหม เดินทางมาเป็นประธานในงาน “นิทรรศน์ศรัทธาแห่งสยาม” รวมพลังศรัทธามหากุศลครั้งยิ่งใหญ่ การประมูลการ ประกวดการอนุรักษ์พระบูชา พระเครื่อง และเหรียญ คณาจารย์ เพื่อหารายได้ในการจัดซื้อเครื่องมืออุปกรณ์ทางการแพทย์ ให้แก่โรงพยาบาล ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ จ.ยะลา ภายในงานมีเจ้าหน้าที่ตำรวจคอยรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด เนื่องจากพระเครื่องที่ถูกนำมาโชว์และประมูลทั้งหมดนั้น มีมูลค่ารวมหลายร้อยล้านบาท มีบุคคลสำคัญทางการเมือง นักธุรกิจ ตำรวจ ทหาร และเซียนพระ ร่วมงานประมูลครั้งนี้อย่างคับคั่ง

...

สำหรับรายชื่อผู้นำพระมาบริจาคเพื่อประมูล 13 ท่าน ได้แก่ พล.ต.อ. สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้มอบพระกริ่งปวเรศ วัดบวรนิเวศวิหาร เนื้อนวโลหะกลับดำ นายวิชัย ศรีวัฒนประภา ประธานกรรมการ กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ มอบพระสมเด็จวัดระฆังพิมพ์ใหญ่ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา รอง ผบ.ตร. มอบพระกริ่งปริสุทฺโธ ของหลวงพ่อคูณ วัดบ้านไร่ รุ่นแรกเนื้อทองคำ ร่วมประมูลราคา หลัก 2 ล้านบาท นายกำพล วิระเทพสุภรณ์ มอบพระปิดตาหลวงพ่อแก้ว วัดเครือวัลย์ พิมพ์ใหญ่หลังแบบเนื้อผงคลุกรัก จ.ชลบุรี พล.ต.ต.จิตติ รอดบางยาง รอง ผบช.น. มอบพระสมเด็จบางขุนพรหม พิมพ์อกครุฑ นายพิศาล เตชะวิภาค (ต้อย เมืองนนท์) รองนายกสมาคมผู้นิยมพระเครื่องพระบูชาไทย มอบพระพุทธรูปยืนสมัยกำแพงเพชร นายสมภพ ไทยธีระเสถียร (อั๊ง เมืองชล) รองนายกสมาคมผู้นิยมพระเครื่องพระบูชาไทย มอบพระหูยาน พิมพ์บัวสองชั้น เนื้อชิน จ.ลพบุรี

นายศุภชัย เรืองสรรงามศิริ (ตี๋เหล้า ท่าพระจันทร์) รองนายกสมาคมผู้นิยมพระเครื่องพระบูชาไทย มอบพระหลวงปู่ทวด วัดช้างให้ พิมพ์หลังเตารีดใหญ่ จ.ปัตตานี นายสุเนตร บุรกสิก มอบพระหลวงปู่ทวด วัดช้างให้ เนื้อว่าน พ.ศ.2497 จ.ปัตตานี นายบุญรอด ปาริยะรังสี มอบพระพุทธรูปปางมารวิชัย สมัยอู่ทอง และพระพุทธรูปปางนาคปรก สมัยลพบุรี นายธัญญ์นิธิ ชวรัตน์นิธิโชติ (เชง สุพรรณ) มอบพระลีลากำแพงศอก กรุวัดพระศรีรัตนมหาธาตุ จ.สุพรรณบุรี พล.อ.ต.ตะวัน นาครทรรพ มอบพระหลวงปู่ทวด พิมพ์ใหญ่ ไหล่จุด และ พล.ต.อ.สันต์ ศรุตานนท์ อดีต ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ มอบมหาสังข์มาประมูลครั้งนี้

นาทีการประมูลเริ่มต้นขึ้นจากการประมูลพระเครื่อง ที่ไม่ใช่องค์ไฮไลต์ เริ่มจากพระสมเด็จบางขุนพรหม พิมพ์อกครุฑ ที่มีผู้ประมูลไปได้ในราคา 3,200,000 บาท พระพุทธรูปยืน สมัยกำแพงเพชร ประมูลได้ไปในราคา 2,000,000 บาท พระหูยาน พิมพ์บัวสองชั้น เนื้อชิน จ.ลพบุรี มีผู้ประมูลไปได้ในราคา 4,000,000 บาท พระหลวงปู่ทวด วัดช้างให้ พิมพ์หลังเตารีดใหญ่ จ.ปัตตานี ประมูลได้ 5,000,000 บาท พระหลวงปู่ทวด วัดช้างให้ เนื้อว่าน พ.ศ.2497 จ.ปัตตานี มีผู้ประมูลได้ในราคา 3,000,000 บาท

พระพุทธรูปปางมารวิชัย สมัยอู่ทอง และพระพุทธรูปปางนาคปรก สมัยลพบุรี ราคา 1,500,000 บาท พระ ลีลากำแพงศอก กรุวัดพระศรีรัตนมหาธาตุ จ.สุพรรณบุรี ประมูลไปได้ในราคา 2,000,000 บาท พระหลวงปู่ทวด พิมพ์ใหญ่ไหล่จุด ราคา 1,700,000 บาท และมหาสังข์ มีผู้ประมูลไปในราคา 2,000,000 บาท

กระทั่งถึงไฮไลต์สำคัญของงาน คือการประมูลพระเครื่ององค์สำคัญ คือการประมูล “พระกริ่งปวเรศ” วัดบวรนิเวศวิหาร เนื้อนวโลหะกลับดำ ของ พล.ต.อ. สมยศ ทั้งนี้พระองค์นี้ได้รับการยกย่องเป็นจักรพรรดิแห่งพระกริ่ง สร้างขึ้นในปี พ.ศ.2411 โดยสมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาปวเรศวิริยาลงกรณ์ ซึ่งเป็นสมเด็จพระสังฆราชลำดับที่ 8 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ สร้างเพื่อถวายแด่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 โดยชนวนมวลสารเต็มไปด้วยความพิเศษ จากฐานที่ชำรุดของพระศาสดา ซึ่งเป็นพระประธานในโบสถ์วัดบวรฯ ผสมกับมวลสารนวโลหะคุณวิเศษ 9 ชนิด มีพุทธคุณสร้างขึ้น 30 องค์ โดย พล.ต.อ.สมยศเช่ามาในราคา 15 ล้านบาท เมื่อ 10 ปีที่ผ่านมา และเชื่อมั่นว่าที่ได้มีโอกาสเป็น ผบ.ตร. เป็นเพราะพุทธคุณของพระกริ่งปวเรศองค์นี้ ทั้งนี้หลังมีการเปิดประมูล มีผู้เข้าประ มูลได้แข่งกันเปิดราคาอย่างดุเดือด มีการเพิ่มราคาเกทับกันไปทับกันมาอย่างต่อเนื่อง จนในที่สุดผู้ประมูลพระองค์นี้ไปได้ คือนายอัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา รองประธานสโมสรฟุตบอลเลสเตอร์ ซิตี้ โดยประมูลไปในราคา 34 ล้านบาท

จากบรรยากาศในการประมูลเริ่มคึกคักเข้มข้นมากขึ้น โดยการประมูลลำดับต่อมาเป็นการประมูล “พระสมเด็จฯ พิมพ์ใหญ่” วัดระฆังโฆสิตาราม ของนายวิชัย ศรีวัฒนประภา สร้างโดยสมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี ในปี พ.ศ.2409 มวลสารที่นำมาใช้สร้างเต็มไปด้วยความศักดิ์สิทธิ์ถึง 5 อย่าง ได้แก่ ปถมัง อิทธิเจ ตรีนิสิงเห พุทธคุณ มหาราช ตามตำราโบราณ จึงมีพุทธคุณยอดเยี่ยมทุกด้าน ได้รับขนานนามว่าจักรพรรดิแห่งพระเครื่อง ทั้งนี้นายวิชัยเช่ามาในราคา 10 ล้านบาท เมื่อ 10 ปีที่ผ่านมา หลังผู้ประมูลต่างทุ่มเทราคาสู้กันอย่างดุเดือด ในที่สุดผู้ที่ประมูลพระองค์นี้ได้คือ นายปรีดา พสวงศ์ ในราคา 30 ล้านบาท

...

ถัดมาเป็นการประมูลพระปิดตา หลวงพ่อแก้ว วัดเครือวัลย์ หลังแบบ เนื้อผงคลุกรัก จ.ชลบุรี ของนายกำพล วิระเทพสุภรณ์ องค์นี้เป็นแบบพิมพ์ใหญ่ เนื้อผงคลุกรัก ประวัติมีการสร้างมาหลายพิมพ์ แต่พิมพ์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุด คือพิมพ์ใหญ่หลังเรียบ ได้รับกล่าวขานในด้านพุทธคุณอย่างครบถ้วน ไม่ว่าในด้านเมตตามหานิยม คลาดแคล้วคงกระพันชาตรี พุทธคุณดีเยี่ยม นายกำพลเช่ามาในราคาเกือบ 20 ล้านบาท หลังผู้ประมูลขับเคี่ยวราคากันอย่างดุเดือด ในที่สุดผู้ที่ประมูลได้คือ นายศิริวัฒน์ วงศ์จารุกร ในราคา 31 ล้านบาท

ตามด้วยการประมูลพระกริ่งญาณวิทยาคม หรือหลวงพ่อคูณ ปริสุทฺโธ วัดบ้านไร่ เนื้อทองคำ ที่ พล.ต.ท.จักรทิพย์ส่งเข้าประมูล ราคา 7,500,000 บาท โดยพระองค์นี้สร้างในปี พ.ศ.2535 เนื่องในวโรกาสที่หลวงพ่อคูณได้รับแต่งตั้งจากพระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัว ให้เป็นพระญาณวิทยาคม สร้างเท่าจำนวนคนจองทั้งหมด 168 องค์ แม้ว่าจะเป็นพระที่ไม่เก่ามาก แต่พุทธคุณปลุกเสกเหลือคณา ถือว่าเป็นพระกริ่งที่หายากที่สุด และมีราคาที่สูงมากที่สุดในบรรดาพระกริ่งของหลวงพ่อคูณ

พล.ต.อ.สมยศกล่าวว่า งานนี้เป็นการทำบุญครั้งยิ่งใหญ่ เพราะได้ทำบุญสร้างโรงพยาบาล เพื่อช่วยเหลือชีวิตเพื่อนมนุษย์หรือการให้ชีวิต เนื่องจากโรงพยาบาลแห่งนี้จะได้รักษาเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร และประชาชนที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และยังเป็นการช่วยลดความสูญเสียระหว่างการเคลื่อนย้ายผู้บาดเจ็บ โดยค่ำคืนนี้ไฮไลต์อยู่ที่การประมูลพระเครื่องและพระบูชา เพื่อนำรายได้สมทบทุนในการจัดซื้อเครื่องมืออุปกรณ์ทางการแพทย์ให้แก่โรงพยาบาลศูนย์ปฏิบัติการในจังหวัดยะลา

สำหรับการประมูลพระเครื่องและเหรียญ เพื่อหารายได้ในการจัดซื้อเครื่องมืออุปกรณ์ทางการแพทย์ให้แก่โรงพยาบาล ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ จ.ยะลา ทั้ง 13 รายการ ได้เงินเป็นจำนวนทั้งสิ้น 126,900,000 บาท

...