ตม.สุวรรณภูมิ รวบหนุ่มแคเมอรูน ปลอมวีซ่าอยู่ในราชอาณาจักรไทย ขณะมาส่งเพื่อนชาติเดียวกันที่สนามบิน แต่เจ้าหน้าที่พบพิรุธจึงเรียกตรวจสอบ เบื้องต้นให้การรับสารภาพ ...  

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 12 ก.ค. 58 พล.ต.ต.สุวิชญ์พล อิ่มใจรัชต์ ผบก.ตม.2 เปิดเผยว่า พ.ต.อ.วิฑูรย์ เดโช ผกก.สส.ปป. พ.ต.ท.หญิง อภิรดี ปราสาททรัพย์ รอง ผกก.สส.ปป. พ.ต.ต.เทวกฤต มณีรัตน์ สว.กก.สส.ปป. พร้อมเจ้าหน้าที่ ชป.2 กก.สส.ปป. บก.ตม.2 ร่วมกันจับกุม นาย เอริค ติแยรี กุยโม ทัลลา (Mr. Eric Thierry Kuimo Talla) อายุ 21 ปี ชาวแคเมอรูน พร้อมของกลาง หนังสือเดินทางที่มีการแก้ไขวีซ่า การพำนักอยู่ในประเทศไทย โดยจับกุมได้บริเวณเคาน์เตอร์เช็กอิน U อาคารผู้โดยสารขาออก ชั้น 4 ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ

สืบเนื่องจากเมื่อเวลา 22.00 น. ของวันที่ 11 ก.ค. 58 ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ กก.สส.ปป. บก.ตม.2 (ชุดปฏิบัติการที่ 2) ได้ร่วมกันออกตรวจภายในห้องโถงอาคารผู้โดยสาร ขาออก ชั้น 4 บริเวณเคาน์เตอร์เช็กอิน U ได้พบชาวต่างชาติแถบแอฟริกาเดินอยู่ในบริเวณดังกล่าว จึงขอตรวจสอบหนังสือเดินทางของชายคนดังกล่าว พบเป็นหนังสือเดินทางของประเทศแคเมอรูน เลขที่ 01541360 ระบุชื่อ นาย เอริค ติแยรี กุยโม ทัลลา (Mr. Eric Thierry Kuimo Talla)

เมื่อตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า หนังสือเดินทางดังกล่าวเป็นของจริง แต่เมื่อตรวจสอบหน้าเอกสารด้านใน ที่มีการประทับตรวจลงตามวีซ่าในการเดินทาง เข้า-ออก ประเทศไทย พบพิรุธที่รอยประทับตราขาเข้า ณ ด่าน ตม.ปาดังเบซาร์ จ.สงขลา ที่อนุญาตให้อยู่ได้ในประเทศไทย 1 ปี แต่นาย เอริค ติแยรี กุยโม ทัลลา ขอวีซ่าประเภททำงาน หรือ นักธุรกิจ (non-immigrant) ซึ่งจะอยู่ในราชอาณาจักรได้สูงสุดตามประเภทนี้ คือ 90 วัน เจ้าหน้าที่จึงคุมตัวมาสอบสวนเพิ่มเติม

...

จากการตรวจสอบด้วยเครื่อง VSC6000 พบว่า มีการนำแผ่นกระดาษหน้าที่ 3-4 ของหนังสือเดินทางเล่มอื่น ซึ่งเป็นของประเทศเดียวกันหน้าเดียวกัน มาใส่แทนของเดิมในเล่ม และพบว่า แผ่นตรวจลงตรา (Visa) มีร่องรอยขูดลบแก้ไขเป็นประเภทการตรวจลงตรา จากประเภทนักท่องเที่ยว (Tourist) เป็นประเภททำงานหรือนักธุรกิจ (Non-immigrant) อีกทั้งตรวจประวัติการเดินทางเข้า-ออก ของนายเอริค ติแยรี กุยโม ทัลลา พบว่า เดินทางมาจากเมืองไนโรบี ประเทศเคนยา มายังไทยตั้งแต่วันที่ 4 มี.ค. 55 ที่ผ่านมา โดยได้รับอนุญาตเข้ามาอยู่ในราชอาณาจักรด้วยประเภทนักท่องเที่ยว (Tourist) เป็นระยะเวลา 60 วัน และได้มีการยื่นแบบคำขออนุญาตอยู่ในราชอาณาจักร เป็นการชั่วคราวต่ออีก 30 วัน ซึ่งครบกำหนด เมื่อวันที่ 1 มิ.ย. 55 ที่ผ่านมา หลังจากนั้นก็ไม่พบข้อมูลการเดินทางเข้า-ออก จากราชอาณาจักร แต่อย่างใด เจ้าหน้าที่จึงคาดว่า นายเอริค ติแยรี กุยโม ทัลลา ได้ลักลอบออกจากราชอาณาจักร โดยไม่ผ่านด่านตรวจคนเข้าเมือง

สอบสวนเบื้องต้น นาย เอริค ติแยรี กุยโม ทัลลา ให้การรับสารภาพว่า มีการแก้ไขเปลี่ยนแปลงตราประทับวีซ่าจริง โดยระหว่างที่อยู่ในไทยได้สมัครเป็นนักฟุตบอลอาชีพ ของสโมสรแห่งหนึ่ง แต่ไม่ยอมให้การว่า ใครเป็นผู้ปลอมแปลงเอกสาร และยังคงเล่นฟุตบอลให้กับทีมใดอยู่หรือไม่ ซึ่งขณะที่ถูกเรียกตรวจสอบหนังสือเดินทางนั้น ได้เดินทางมาส่งเพื่อนสัญชาติเดียวกันกลับประเทศ แต่ถูกเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองเรียกตรวจสอบและพบพิรุธในเอกสาร

เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงแจ้งข้อหา ปลอมเอกสารสิทธิอันเป็นเอกสารราชการ และปลอมแปลงใช้ หรือมีไว้ซึ่งหนังสือเดินทางปลอม และไม่ออกไปตามช่องทาง ด่านตรวจคนเข้าเมือง เขตท่าสถานี หรือท้องที่และตามกำหนดเวลา พร้อมนำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลาง ส่ง พงส.สภ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ดำเนินคดีต่อไป