ไร้สารเคมี นาข้าวบางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ประสบความสำเร็จหลังทำเกษตรอินทรีย์ หว่านต้นปอเทืองไถกลบสร้างปุ๋ยไว้ในดิน ลดต้นทุนแถมผลผลิตเพิ่มขึ้นเท่าตัว
วันที่ 17 มิถุนายน 2558 นายอนุชา เพ็ญสดใส ประธานสภาองค์การบริหารส่วนตำบลธงชัย อำเภอบางสะพาน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยว่า ในพื้นที่ ต.ธงชัย อ.บางสะพาน มีเกษตรกรที่ประกอบอาชีพทำนาปลูกข้าวอยู่จำนวนมาก โดยส่วนใหญ่แล้วในอดีตจะใช้ปุ๋ยเคมีในการบำรุงนาข้าวเพื่อให้ได้ผลผลิตในปริมาณมาก แต่เมื่อใช้ไปในระยะยาวก็จะเกิดปัญหาต่างๆ ตามมามากมาย อาทิ ดินเค็ม หญ้าศัตรูพืชเกิดขึ้นในแปลงนาจำนวนมาก ทำให้ตนเองและชาวบ้านร่วมกันคิดหาแนวทางในการแก้ไข โดยเริ่มศึกษาและทำการเกษตรตามหลัก “ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง” ขององค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยเริ่มจากการเดินทางไปดูงานจนพบว่า การทำนาแบบเกษตรอินทรีย์นั้นในระยะยาวแล้วจะช่วยให้เกษตรกรลดต้นทุนและเพิ่มผลผลิตในประมาณเท่าทวีคูณ
ดังนั้น จึงได้เริ่มทำนาแบบเกษตรอินทรีย์โดยการนำเมล็ดพันธุ์ของต้นปอเทืองมาทำการหว่านบนแปลงนาหลักจากชาวนาเก็บเกี่ยวข้าวแล้ว รอจนต้นปอเทืองโตเต็มที่แล้วทำการไถกลบ ผลที่ได้คือจากเดิมที่เคยได้ผลผลิตไร่ละประมาณ 30 ถังแต่ปัจจุบันหลังจากหันมาใช้แนวทางเกษตรอินทรีย์ไถกลบปอเทืองเพื่อทำเป็นปุ๋ย ทำให้ผลผลิตเพิ่มขึ้นเป็น 50-60 ถังต่อหนึ่งไร่ หากเกษตรกรหว่านเมล็ดพันธุ์ต้นปอเทืองและไถกลบประมาณ 2 ปี จะเทียบได้กับเราได้สร้างปุ๋ยอินทรีย์ไว้ในดินถึง 2 ตันต่อไร
"ปัจจุบันมีเกษตรกรใช้วิธีการปลูกข้าวแบบเกษตรอินทรีย์ประมาณ 300-400 ไร่ จากพื้นที่ที่เป็นแปลงนาทั้งหมดกว่า 1,000 ไร่ ในส่วนของเมล็ดพันธุ์นั้นเราก็ได้นำเมล็ดพันธุ์บางส่วนไปหว่านไว้ในสวนมะพร้าวเพื่อนำมาปลูกที่แปลงนาในปีหน้า หมุนเวียนแบบนี้ทุกๆ ปี ขณะนี้มีเกษตรกรทยอยเข้ามาขอเมล็ดพันธุ์ต้นปอเทืองเพื่อไปใช้ในแปลงนาของตนเองเพิ่มมากขึ้นตามลำดับ" นายอนุชา กล่าว
...
นายปัญญา สร้อยเขียว อายุ 61 ปี ชาวบ้านหมู่ที่ 8 ต.ธงชัย อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า ตนเองเป็นกลุ่มชาวนาที่หันกลับมาใช้ปุ๋ยอินทรีย์แทนการใช้ปุ๋ยเคมีในปีนี้เป็นปีแรก เนื่องจากที่ผ่านมาเห็นถึงความเปลี่ยนแปลงได้อย่างชัดเจนจากแปลงนาอื่นที่เปลี่ยนมาใช้ปุ๋ยอินทรีย์แทนการใช้ปุ๋ยเคมี
เริ่มตั้งแต่เรื่องของต้นทุนในการทำนา ปริมาณข้าวที่เก็บเกี่ยวที่มีปริมาณเพิ่มมากขึ้น หญ้าวัชพืชลดน้อยลง คาดว่าปีต่อๆ ไปจะได้รับผลผลิตเพิ่มมากขึ้นอีก แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือส่วนใหญ่แล้วข้าวที่ได้จากการปลูกในพื้นที่นี้นั้นจะนำไปบริโภคกันเองภายในครัวเรือน นั้นทำให้เรามั่นใจได้ว่าเรานั้นได้บริโภคข้าวที่ปลอดจากสารพิษหรือสารเคมีอย่างแน่นอน