“รุ่นพี่ ม.5” มีน้ำใจรวมพลเล่นดนตรีเปิดหมวกข้างถนน ตระเวนตามตลาดนัดและตลาดปัฐวิกรณ์ หาเงินช่วย-เหลือ “รุ่นน้อง ม.4” ป่วยไตวายเฉียบพลัน ไม่สามารถไปเรียนได้ร่วม 2 เดือนแล้ว ประกอบกับทางบ้านฐานะยากจน พ่อขับแท็กซี่ แม่เป็นแม่บ้าน และต้องเลี้ยงดูน้องๆอีก 2 คน ใช้เงินฟอกไตตกเดือนละ 2 หมื่นบาท

มีการแชร์ในโลกโซเชียลเฟซบุ๊กเว็บเพจชื่อ “ชุมชนคนถ่ายภาพ” โพสต์เรื่องราวน่าประทับใจกลุ่มนักเรียนรุ่นพี่ ม.5 แสดงดนตรีเปิดหมวก หาเงินช่วยรักษารุ่นน้อง น.ส.อรัญญา รัศมีประภา หรือน้องยุ้ย อายุ 17 ปี นักเรียนชั้น ม.4/3 และนักกีฬาเทควันโด เขตบึงกุ่ม ป่วยเป็นโรคไตวายเฉียบพลัน เปิดเผยเมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 14 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่ตลาดปัฐวิกรณ์ ปากซอยถนนนวมินทร์ 70 แขวง-เขตบึงกุ่ม กทม. เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีดังกล่าว พบบริเวณหน้าตลาดปัฐวิกรณ์มีกลุ่มนักเรียนตั้งวงแสดงดนตรีเปิดหมวก โดยมีเครื่องดนตรี อาทิ กีตาร์ เครื่องเคาะให้จังหวะ และนักร้องนำ 1 คน พร้อมนำกล่องกีตาร์วางไว้ที่พื้นด้านหน้า เพื่อให้คนใส่เงินบริจาค โดยมีนายต่อพงศ์ อุตรพงศ์ อาจารย์สอนวิชาดนตรี โรงเรียนบดินทรเดชา (สิงห์ สิงหเสนี 2) มาคอยควบคุมและดูแลกลุ่มนักเรียนดังกล่าว เพื่อนำเงินไปช่วยเหลือ

ด้านนายออม (ขอสงวนชื่อ-สกุลจริง) รุ่นพี่ ม.5 นักร้องนำ เผยว่า น.ส.อรัญญา หรือน้องยุ้ย เป็นรุ่นน้องที่น่ารักในโรงเรียน ที่ผ่านมาน้องยุ้ยเป็นคนตั้งใจเรียนหนังสือ และเป็นนักกีฬาเทควันโด เขตบึงกุ่ม กระทั่งช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา ทราบว่าน้องยุ้ยป่วยเป็นโรคไตวายเฉียบพลัน หยุดเรียนมาประมาณ 2 เดือนแล้ว ประกอบกับการรักษาและค่าฟอกไตตกเดือนละหลายหมื่นบาท และที่บ้านน้องยุ้ยไม่ได้ร่ำรวย ฐานะค่อนข้างลำบาก พ่อขับแท็กซี่ แม่เป็นแม่บ้าน รายได้ไม่พอค่ารักษาพยาบาลพวกตนอยากให้น้องยุ้ยกลับมาหายดีและมาเรียนหนังสือต่อ จึงปรึกษาครูต่อและรวมตัวเล่นดนตรีเปิดหมวกตามตลาดนัดย่านเกษตรนวมินทร์ หลังเลิกเรียนทั้งนี้ นายต่อพงศ์กล่าวว่า กลุ่มนักเรียนรุ่นพี่ น.ส.อรัญญา มาปรึกษาและขอให้ไปช่วยดูแล ขณะออกไปเล่นดนตรีเปิดหมวก ระดมทุนเป็นค่ารักษา และค่าฟอกไต เป็นความคิดที่ดี ตนเลยสนับสนุน อีกทั้งเป็นการฝึกทักษะดนตรีไปด้วย โดยใช้เวลาหลังเลิกเรียน ตอนนี้มียอดเงินบริจาครวมประมาณ 10,000 บาทแล้ว หลังจากนี้จะนำเงินไปมอบสมทบทุนกลุ่มเครือข่ายผู้ปกครอง ที่จะเข้าไปนำเงินและ ของใช้บางส่วนไปมอบให้กับครอบครัวน้องยุ้ยด้วย

...

ต่อมาวันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวเดินทางไปทีี่ห้องเลขที่ 22 แฟลตการเคหะนวมินทร์ ถนนนวมินทร์แขวงคลองกุ่ม เขตบึงกุ่ม กทม. พบ น.ส.อรัญญา นอนอยู่บนเตียงนอนในห้องดังกล่าว สภาพร่างกายผอมซีด มีสกอตเทปปิดแผลที่แพทย์เจาะบริเวณไหปลาร้าขวา และข้อพับแขนซ้ายเพื่อต่อท่อฟอกไต สภาพไม่ค่อยมีแรงลุกนั่งและแม้แต่จะพูดคุย โดยมีนางแสงทอง รัศมีประภา อายุ 33 ปี มารดา ด.ช.พิชัย อายุ 14 ปี ม.1 ร.ร.บดินทรเดชา (สิงห์ สิงห-เสนี 2) และ ด.ญ.อรวรรณ อายุ 11 ขวบ ชั้น ป.5 ร.ร.วัดนวลจันทร์ น้องชายและน้องสาวดูแลใกล้ๆ

นางแสงทองเล่าว่า น้องยุ้ยชอบกีฬาเทควันโดมาก จึงไปฝึกที่ศูนย์เยาวชนคลองกุ่มจนได้เป็นตัวแทนไปแข่งได้เหรียญทองหลายสนามขึ้นระดับสายเขียว ที่ภูมิใจที่สุดคือได้เหรียญรางวัลที่มีโค้ชเช โค้ชเทควันโดทีมชาติไทย ชาวเกาหลีใต้ เป็นผู้จัดการแข่งขัน กระทั่ง 2 เดือนที่ผ่านมา น้องยุ้ยมีอาการอาเจียน ทานข้าวไม่ได้ จึงพาไปตรวจที่ รพ. สิรินธร แพทย์พบป่วยเป็นไตวายเฉียบพลันทั้ง 2 ข้าง จึงทำการรักษาด้วยการกินยาและการฟอกไต โดยใช้บัตร 30 บาทรักษาทุกโรค ส่วนค่าฟอกไตประมาณเดือนละ 20,000 บาท ทางผู้ปกครองต้องออกค่าใช้จ่ายเอง ซึ่งสามีตนขับแท็กซี่ ทำให้รายได้ไม่พอเพียง ต่อมาพวกกลุ่มเครือข่ายผู้ปกครอง รุ่นพี่ของน้องยุ้ยและครูทราบเรื่องออกมาเล่นดนตรีช่วยเหลือเรื่องเงินค่ารักษาบางส่วน ทำให้รู้สึกซึ้งน้ำใจคนกลุ่มนี้มากๆ