กรณีนางขวัญเรียม ทองธรรมชาติ อายุ 44 ปี และสามี นายวิโรจน์ ทองธรรมชาติ อายุ 48 ปี อยู่บ้านเลขที่ 595 หมู่ 7 ต.ซับสมอทอด อ.บึงสามพัน จ.เพชรบูรณ์ เจ้าของธุรกิจขายตรงอาหารเสริมมนุษย์และอาหารเสริมพืช เข้าร้องเรียนกับผู้สื่อข่าวไทยรัฐ ว่า เงินในบัญชีธนาคารหายกว่า 12 ล้านบาท แจ้งความที่ สภ.บึงสามพัน จ.เพชรบูรณ์ นานกว่า 1 ปียังไม่มีความคืบหน้า
ล่าสุด วันที่ 10 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก ร.ต.ท.อนุชา พูลยอด พนักงานสอบสวน สภ.บึงสามพันเจ้าของคดี ว่า ได้รับแจ้งความจากผู้เสียหาย อ้างว่า บัญชีเงินฝากของนายวิโรจน์ ทองธรรมชาติ ตั้งแต่ปี 2552-2557 สูญหายเป็นจำนวน 697 ครั้ง มูลค่าความเสียหายมากถึง 12 ล้านบาท ภายหลังการตรวจสอบกับเจ้าหน้าที่ธนาคารกรุงเทพ สาขาซับสมอทอด พบว่า ตามเส้นทางที่คาดว่าจะเกิดความเสียหายกับนายวิโรจน์นั้นแบ่งออกเป็นสองช่องทาง ช่องทางแรก มีการทำธุรกรรมทางการเงินด้วยการโอนผ่านบัญชีธนาคาร 15-16 รายชื่อบุคคลจำนวน 85 ครั้ง พบว่ารายชื่อจากหนึ่งในจำนวนนั้นเป็นบัญชีของนางขวัญเรียมและของญาติบางคน โดยผู้เสียหายยอมรับกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าตรงตามที่ตรวจสอบ โดยพบว่าเป็นยอดเงินรวมประมาณ 4 ล้านบาทเศษ
ช่องทางที่สอง ธนาคารตรวจสอบพบว่า ยอดเงินราว 7 ล้านบาทเศษ ที่เกิดจากการใช้บัตรเอทีเอ็มทำธุรกรรมทางการเงินผ่านตู้เอทีเอ็มธนาคารกรุงเทพ สาขาซับสมอทอด เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจขอตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด ปรากฏว่า เทปในวันเวลาดังกล่าวถูกลบทับไปแล้ว เพราะเครื่องบันทึกภาพสามารถเก็บบันทึกไว้ได้เพียงแค่ 90 วัน จึงไม่สามารถตรวจสอบได้
ประเด็นผู้เสียหายระบุว่า มีการลงลายมือชื่อปลอมในการเปิดบัญชีธนาคารและใช้บัตรเอทีเอ็มนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ให้ผู้เสียหายตรวจคัดลายมือชื่อพร้อมส่งเอกสารจากธนาคารไปตรวจพิสูจน์ ที่ สนง.พิสูจน์หลักฐาน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ราว 2 สัปดาห์ที่ผ่านมาแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างรอการแจ้งผลตรวจพิสูจน์
...
ล่าสุดผู้สื่อข่าวไทยรัฐได้ประสานขอรายละเอียดเกี่ยวกับกรณีที่เกิดขึ้นจากธนาคารกรุงเทพ สำนักงานใหญ่ แต่เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องยังไม่สามารถให้รายละเอียดได้.