ตำรวจอุบลฯ วางแผนจับขบวนการค้ายาบ้าข้ามชาติ ปรากฏว่าคนที่นำมาส่งเป็นสาวรุ่น วัยแค่ 17 ปีถูกจับพร้อมของกลาง 6 ห่อ กว่า 1.1 หมื่นเม็ด ทุกห่อเขียนชื่อจังหวัดที่ให้นำไปส่ง สารภาพเรียนอยู่ ม.3 อยากได้ จยย.ขี่ไปโรงเรียน เลยมารับจ้างส่งยาบ้า...
เมื่อเวลา 19.30 น. วันที่ 20 พ.ค. 58 พ.ต.อ.สุนทร ประดิษฐ์แท่น ผกก.ตชด.22 อุบลราชธานี สั่งการให้ ร.ต.อ.ราเชน หงษ์ชารี รอง.สว.กก.ตชด.22 สนธิกำลังร่วมกับ พ.ต.ท.สุพจน์ จงอุตส่าห์ รอง ผกก.สส.สภ.เมืองอุบลราชธานี พ.ต.ต.บวรศักดิ์ คำรังษี สว.สส.สภ.เมืองอุบลราชธานี นำกำลังเข้าจับกุม น.ส.เอ๋ (นามสมมติ) อายุ 17 ปี ชาวลาว อยู่แขวงสะหวันเขต พร้อมของกลางยาบ้า จำนวน 11,040 เม็ด บริเวณหน้าห้างบิ๊กซี สาขาอุบลราชธานี
ร.ต.อ.ราเชน เปิดเผยว่า จากการสืบสวนในการข่าวทราบว่า มีขบวนการค้ายาบ้า ลักลอบนำของมาส่งให้ลูกค้าในพื้นที่แถบอีสานใต้ จึงได้ทำการส่งสายลับเข้าติดต่อล่อซื้อ โดยนัดส่งของกันที่บริเวณหน้าห้างบิ๊กซี อุบลราชธานี ต่อมาได้มี น.ส.เอ๋ ชาวแขวงสะหวันเขต สปป.ลาว ติดต่อเข้ามาหาสายลับ ที่ทำกาล่อซื้อเพื่อส่งยาบ้า หลังจากมีการส่งมอบแล้วจึงได้แสดงตัวเข้าจับกุมทันที
จากการตรวจสอบภายในกระเป๋าสะพายสีชมพู ที่ น.ส.เอ๋ ถือมา พบวัตถุห่อด้วยกระดาษฟอยล์ จำนวน 6 ก้อน แต่ละก้อนเขียนชื่อจังหวัดไว้ เพื่อจะนำไปส่งให้ลูกค้า ได้แก่ อุบลราชธานี อุดรธานี กาฬสินธ์ุ บุรีรัมย์ และนครราชสีมา เมื่อแกะดูพบยาบ้ารวม 11,040 เม็ด บรรจุในถุงพลาสติกแบบกดปิดดึงเปิดสีน้ำเงิน
สอบสวน น.ส.เอ๋ ให้การรับสารภาพว่า ตนได้เดินทางข้ามจากแขวงสะหวันนะเขต สปป.ลาว โดยเข้ามาจากทาง จ.มุกดาหาร เพื่อนำยาบ้าจากพ่อค้าชาวลาว ไปส่งให้กับลูกค้าในแต่ละจังหวัดตามที่เขียนไว้หน้าห่อยาบ้า หากทำสำเร็จก็จะได้ค่าจ้างเป็นเงิน 20,000 บาท ซึ่งทำครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 โดยครั้งแรกมากับเพื่อนที่ชักชวนให้มาร่วมส่งยาบ้า เพื่อดูวิธีการทำงาน จนครั้งนี้เลยลงมือทำเอง แต่ไม่สำเร็จ โดนจับเสียก่อน
...
น.ส.เอ๋ ยังกล่าวด้วยว่า ปัจจุบันตนเรียนอยู่ชั้น ม.3 อีก 3 เดือน ก็จะขึ้น ม.4 มีความต้องการอยากจะได้รถจักรยานยนต์ รุ่นสกู๊ปปี้ ไว้ขับขี่ไปโรงเรียน เพราะเพื่อนคนอื่นรุ่นเดียวกัน บางคนขับรถเก๋งไปโรงเรียน ตนเคยขอพ่อซื้อ พ่อบอกจะซื้อให้ แต่ไม่รู้จะซื้อได้เมื่อไหร่ จึงตัดสินใจรับจ้างนำยาบ้ามาส่งให้คนไทย โดยมีเพื่อนที่เรียนห้องเดียวกันแนะนำ เนื่องจากเคยทำจนสามารถซื้อรถจักรยานยนต์ฮอนด้า ได้แล้ว 1 คัน
หลังจากสอบสวนเบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวพร้อมของกลางทั้งหมด ส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองอุบลราชธานี ดำเนินคดีต่อไป.