ขู่ตรวจสอบตร.ทำคดี! แถลงข่าวมาเลเซียล้ม
นักข่าวไทยเก้อ บริษัทยูฟันยกเลิกแถลงข่าว ที่มาเลเซียหลังโวเตรียมเครื่องบินเหมาลำให้ไปฟังข้อเท็จจริงจากปากประธานยูฟัน กรุ๊ป อ้างเหตุตำรวจมาเลเซียสั่งระงับ เพราะเป็นคดีเกี่ยวพันระหว่างประเทศ ขณะที่ปรึกษาโครงการทำรีสอร์ต บางกอก มารีน่า โร่แจงตำรวจไม่เกี่ยวพันกับ บ.แชร์ลูกโซ่ดัง และยังแจ้งความดำเนินคดี เหตุถูกซื้อหุ้นและที่พักเอาไปขายเองจนชื่อเสียง บริษัทเสื่อมเสียต้องซื้อหุ้นคืน ด้านยูฟันฯยังสู้ ตั้งทีมทนายแถลงสื่อโต้ หากพบตำรวจไทยละเมิดสิทธิ จะดำเนินการทางกฎหมายทันที
ความคืบหน้าในคดีแชร์ลูกโซ่ยักษ์ที่ฉ้อโกงประชาชนในหลายประเทศในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และถูกตำรวจไทยบุกทลายจับกุมผู้ต้องหาได้หลายราย เหลือ 4 นายทุนใหญ่ชาวมาเลเซีย ที่ยังอยู่ระหว่างการหลบหนี โดยทางตำรวจได้ส่งมอบทรัพย์สินที่ยึดได้ในคดีนี้รวมมูลค่ากว่า 400 ล้านบาท ให้กับ ปปง. เพื่อขายทอดตลาดนำเงินมาเยียวยาผู้เสียหายที่เข้าแจ้งความ ขณะที่บริษัท ยูฟัน ยังออกมาโต้กรณีถูกตำรวจไทยจับกุม ด้วยการนัดหมายสื่อมวลชนไทยไปรับฟังการชี้แจงจากบริษัทใหญ่ที่ประเทศมาเลเซียในวันที่ 22 เม.ย.นี้
ความคืบหน้าเรื่องนี้ เมื่อเวลา 04.00 น.วันที่ 22 เม.ย. กลุ่มผู้สื่อข่าวที่เตรียมเดินทางไปประเทศมาเลเซีย ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์ของบริษัทยูฟัน กรุ๊ป ว่า การเชิญไปร่วมงานแถลงข่าวของนายแดเนียล เท ประธานบริหารกลุ่ม UFUN GROUP ที่ประเทศมาเลเซีย ถูกสั่งยกเลิกกะทันหัน และต้องเลื่อนออกไปอย่างไม่มีกำหนด โดยให้เหตุผลอ้างว่าเพราะทางการมาเลเซีย ไม่สบายใจต่อการเปิดแถลงข่าวของผู้บริหารยูฟัน กรุ๊ป ต้องยกเลิกและเลื่อนการแถลงข่าวออกไปก่อน ขณะที่ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เหตุยกเลิกการแถลงข่าวครั้งนี้ น่าจะเป็นเพราะตำรวจมาเลเซีย เข้าตรวจสอบบริษัทยูฟัน กรุ๊ป และน่าจะสั่งระงับการแถลงข่าว เนื่องจากเป็นคดีที่เกิดขึ้นระหว่างประเทศ
...
ต่อมาเวลา 09.00 น. ที่ บก.ปคม.ศูนย์ราชการ ถนนแจ้งวัฒนะ นายไพรัตน์ จันทร์ชัยแก้ว ที่ปรึกษาโครงการบางกอก มารีน่า ในนามบริษัท บีน่า พูรี่ (ประเทศไทย) จำกัด นำเอกสารหลักฐานเกี่ยวกับการทำธุรกิจของบริษัทยื่นกับ พล.ต.ท.สุวิระ ทรงเมตตา ผู้ช่วย ผบ.ตร.เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ ว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีของบริษัทยูฟัน สโตร์ จำกัด โดยช่วงกลางปี 57 บริษัทในเครือของบริษัทบีน่า พูรี่ ได้จัดทำโครงการบางกอก มารีน่า โดยก่อสร้างรีสอร์ท แอนด์ สปา ที่ อ.คลองด่าน จ.สมุทรปราการ ต่อมาบริษัทยูฟันฯ ติดต่อซื้อหุ้นโครงการนี้มูลค่าร้อยละ 29 เป็นเงินประมาณ 17 ล้านบาท ต่อจากนั้น ยังได้ซื้อรีสอร์ตในโครงการเพิ่มอีก 100 ยูนิต มูลค่า 150 ล้านบาท เพื่อนำไปขายต่อเอง โดยนำชื่อของบริษัทบีน่าฯ ไปแอบอ้างผ่านสื่อต่างๆ ทำให้บริษัทบีน่าฯ ต้องขอซื้อหุ้นคืน เนื่องจากทำให้บริษัทเสียหาย โดยทางบริษัท ได้แจ้งความกับตำรวจไว้แล้ว
สำหรับการดำเนินคดีบริษัทยูฟัน สโตร์ จำกัด พล.ต.ท.สุวิระ ทรงเมตตา ผู้ช่วย ผบ.ตร.เปิดเผยว่าขณะนี้มีผู้เสียหายเข้าแจ้งความกับตำรวจแล้ว 131 คน มูลค่าความเสียหายกว่า 43 ล้านบาท แต่ยอดรวมความเสียหายทั้งหมดคาดว่ามีถึง 38,000 ล้านบาท โดยตนได้ประสานตำรวจมาเลเซียช่วยติดตามความเคลื่อนไหวของผู้ต้องหาชาวมาเลเซียทั้ง 4 คน ระหว่างรอการประสานงานส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดน โดยเฉพาะในวันที่ 26 เม.ย. ที่บริษัทยูฟัน สโตร์ จำกัด ในมาเลเซีย ออกข่าวเปิดตัวธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ใหญ่ และเชิญแขกมีชื่อเสียงพร้อมสื่อมวลชนจากประเทศต่างๆไปร่วมงาน เพื่อตรวจสอบว่า มีผู้ต้องหาที่หนีการจับกุมจากประเทศไทย อยู่ในงานด้วยหรือไม่ ส่วนนายแจ๊คกี้ผู้ต้องหาสำคัญที่ปลอมแปลงเอกสารเป็นคนไทยในชื่อนายอาทิตย์ ปานแก้ว นั้น เชื่อว่าขณะนี้นายแจ๊คกี้กบดานอยู่ที่ประเทศอินโดนีเซีย และจากการที่เครือข่ายสมาชิกให้ข้อมูลว่า นายแจ๊คกี้ หรือนายอาทิตย์ เป็นคนเดียวกับนายจาง เจี้ยน ผู้ต้องหาคดีลักษณะคล้ายกับบริษัทยูฟันฯ ที่ยังหลบหนีคดีอยู่ โดยจะประสานไปยังตำรวจของจีน เพื่อขอตรวจสอบว่าเป็นคนเดียวกับนายแจ๊คกี้หรือไม่
ส่วนกรณีบริษัทยูฟัน กรุ๊ป ยกเลิกการแถลงข่าวที่ประเทศมาเลเซีย พล.ต.ท.สุวิระกล่าวว่า ยังไม่ได้รับรายงานจากตำรวจมาเลเซียว่ามีปฏิบัติการเข้าตรวจค้นการจดทะเบียนของบริษัทยูฟัน ตามที่มีการกล่าวอ้างหรือไม่ เมื่อคืนก็ยังพูดคุยกับตำรวจมาเลเซีย แต่ไม่มีการพูดถึงการเข้าตรวจค้น ทั้งนี้ ตั้งข้อสังเกตโดยขอให้สื่อมวลชนตรวจสอบกับสายการบินที่ทางบริษัทยูฟัน เช่าเหมาลำนำคณะสื่อมวลชนไปพบผู้บริหารที่ประเทศมาเลเซีย ว่ามีจริงหรือไม่
จากนั้นเวลา 16.30 น. พล.ต.ท.สุวิระ ทรงเมตตา ผู้ช่วย ผบ.ตร. พ.ต.อ.อังกูร คล้ายคลึง รอง ผบก.ปคบ. ร่วมกันนำหมายค้นศาลอาญาพระโขนง ลงวันที่ 22 เม.ย. เข้าตรวจค้นบริษัท บิน่า พูรี่ (ประเทศไทย) จำกัด เลขที่ 11 ซอยบางนาตราด 25 แขวงและเขตบางนา เพื่อหาหลักฐานเพิ่มเติม หลังทราบว่า บริษัทยูฟัน สโตร์ จำกัด ถือหุ้นบริษัทบิน่าฯ 29% ด้วยเงินทุน 17 ล้านบาท มี น.ส.กนกพร ทองใจ พนักงานฝ่ายการตลาด และนายเหลียง เคซุง ชาวมาเลเซีย กรรมการผู้จัดการและผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัทให้การชี้แจง ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ ปคบ.ได้ตรวจยึดสมุดเอกสารทางการเงินเพื่อนำไปตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง
น.ส.กนกพรกล่าวว่า เดิมทีตนผลิตน้ำเเร่เครื่องสำอางพ่นใบหน้า ต่อมานายอาทิตย์ ปานแก้ว กรรมการยูฟันฯ ได้ติดต่อขอนำสินค้าดังกล่าวไปจำหน่ายให้กับลูกค้า แต่ได้ยกเลิกกันไป ต่อมานายอาทิตย์ทราบว่า บริษัท บางกอก พร๊อพเพอร์ตี้ จำกัด ในเครือของบริษัทบิน่าฯ มีโครงการสร้างอสังหาริมทรัพย์ บางกอก มาริน่า รีสอร์ทแอนด์สปา ที่ ต.คลองด่าน อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ 800 ยูนิต ในพื้นที่ 44 ไร่ ได้ขอร่วมหุ้นเพื่อสร้างโครงการดังกล่าว โดยเข้าถือหุ้น 29 เปอร์เซ็นต์ ด้วยเงินลงทุน 17 ล้านบาท จากนั้น บ.ยูฟันได้ตั้งบริษัท ยูทีอาร์ โฮลดิ้ง จำกัด เข้ามาติดต่อซื้อโครงการบางกอก มารีน่าฯ 500 ยูนิต แต่สุดท้ายทำสัญญาซื้อขายกัน 300 ยูนิต โดยบ.ยูฟันจ่ายเงินเพียง 100 ยูนิต เป็นเงิน 165 ล้านบาท พร้อมกับโฆษณาชวนเชื่ออ้างว่า จ่ายเงินซื้อโครงการ 300 ยูนิตครบหมดเเล้ว ทั้งที่ในความเป็นจริงมีการจ่ายเงินเพียง 100 ยูนิต ทำให้บริษัทบางกอก พร๊อพเพอร์ตี้ได้รับความเสียหาย ยึดหุ้น 29 เปอร์เซ็นต์คืน พร้อมกับลงบันทึกประจำวันกับเจ้าหน้าที่ ตร.
พล.ต.ท.สุวิระเปิดเผยว่า ก่อนเข้าตรวจค้น ได้เรียกให้บริษัทบิน่าชี้แจงความเชื่อมโยงระหว่าง 2 บริษัท แต่ไม่สามารถชี้แจงได้ ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องขอศาลออกหมายค้น โดยพบเอกสารทางการเงินสำคัญ บริษัท บิน่า ตั้งบริษัทลูกขึ้นมา คือ บริษัท บางกอก พร๊อพเพอตี้ และร่วมถือหุ้นกัน บริษัทยูฟันจริง รวมถึงบริษัทยูฟันยังได้ตั้งบริษัท ยูทีอาร์ เป็นบริษัทลูก เข้ามาซื้อโครงการบางกอกฯ โดยทำสัญญากัน 300 ยูนิต แต่จ่ายเงินเพียง 100 ยูนิต มูลค่า 165 ล้านบาท โดย บ.ยูทีอาร์ ได้นำโครงการดังกล่าวไปขายให้กับสมาชิกผ่านระบบตัวเงินยูโทเค่น นอกจากนี้ยังตรวจพบเอกสารการจ่ายเงินเป็นเช็ค ลงชื่อ บริษัท ยูฟัน โดยตรง เเทนที่จะเป็นบริษัท ยูทีอาร์ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้อายัดเอกสารสำคัญต่างๆ เพื่อตรวจสอบอีกครั้ง พร้อมให้ทั้งสองบริษัทเข้าชี้เเจงความบริสุทธิ์ต่อไป หากไม่สามารถชี้เเจงได้ จะยึดทรัพย์เพื่อนำไปเยียวยาผู้เสียหายทั้งหมด
...
ต่อมาเวลา 18.00 น. ที่ห้องแกรนด์บอลลูม โรงแรมเมเปิล ถนนบางนา-ตราด นายเจษฎา จันทร์ดี ทนายความผู้รับมอบอำนาจจากดาโต๊ะ แดเนียล เท หรือ นายเท คิม เล็ง ผู้บริหารบริษัท ยูฟัน กรุ๊ป เปิดแถลงว่า วันนี้ตนและทีมทนายได้รับมอบเข้ามาตรวจสอบปัญหาของบริษัท ยูฟัน สโตร์ และต่อสู้คดีตามกฎหมายของประเทศไทย หลังจากนี้จะเริ่มตรวจสอบข้อเท็จจริงทั้งหมดที่ถูกทางการไทยกล่าวหา ว่ากระบวนการดังกล่าวมีการดำเนินการถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ ทั้งการออกหมายจับ และการเข้าตรวจค้น รวมทั้งการให้ข่าวที่ก่อให้เกิดความเสียหายกับบริษัทยูฟัน หากพบว่าไม่ถูกต้อง และมีการละเมิดสิทธิกับบริษัท จะมีการดำเนินการทางกฎหมายทันทีเพื่อปกป้องชื่อเสียงของบริษัท และยืนยันว่า การดำเนินการธุรกิจของบริษัท ยูฟัน สโตร์ ถูกต้องตามกฎหมาย ส่วนจะดำเนินการอย่างไร จะแจ้งสื่อมวลชนทราบในสัปดาห์หน้า โดยตนเป็นผู้ให้ข้อมูลเพียงผู้เดียว
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ในการแถลงข่าวครั้งนี้ มีสมาชิกของบริษัท ยูฟันฯ จำนวนมากมาร่วมฟังการแถลงข่าวด้วย
เย็นวันเดียวกันที่ จ.สระแก้ว นายกฤษฎา บุญราช อธิบดีกรมการปกครอง ได้ส่งเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบการทุจริตเพิ่มชื่อนายอาทิตย์ ปานแก้ว โดยให้นายแจ๊คกี้ ชาวมาเลเซียมาสวมชื่อเป็นคนไทย ที่ อ.วังน้ำเย็น จ.สระแก้ว โดยเข้าพบนายธีระชัย ลิ้มประสิทธิศักดิ์ นายอำเภอวังน้ำเย็น เพื่อตรวจสอบหลักฐานอย่างละเอียดอีกครั้ง เพื่อแยกแจ้งความดำเนินคดีเพิ่มเติมกับนายวิชัย โภคทรัพย์ อดีตปลัดอำเภอวังน้ำเย็น ที่ทุจริตเพิ่มชื่อนายอาทิตย์ ปานแก้ว ในทะเบียนราษฎรเพื่อให้นายแจ๊คกี้สวมชื่อเป็นคนไทย และแจ้งความดำเนินคดีกับนายแจ๊คกี้ที่ใช้เอกสารปลอมทำบัตรประจำตัวประชาชนเป็นคนไทย รวมทั้งข้อหาอื่นหากมีการตรวจสอบพบ