"หากฉันเลือกสถานที่ตายได้ ฉันขอตายใต้ต้นซากุระและสายลม" คำกล่าวจาก นายโกกิ อะกิ หนุ่มแดนปลาดิบ พูดถึงพฤติกรรมคนไทยที่จับดอกและกิ่งต้นซากุระเพื่อถ่ายรูป โดยขอร้องให้คนไทยเคารพในความหมาย และให้เกียรติความเชื่อของชาวญี่ปุ่น...
จากเหตุการณ์นักแสดง ซีรีส์ "ฮอร์โมน" ก่อพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม โดยการเปิดเพลงเสียงดัง พร้อมกับเต้นในท่าทางที่ไม่สมควรบนรถไฟใต้ดิน และจับดอกซากุระถ่ายรูปลงสื่อสังคมออนไลน์ ขณะเดินทางไปถ่ายทำการแสดงที่ประเทศญี่ปุ่น จนเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์จากสังคมไทย เกี่ยวกับพฤติกรรมและวัฒนธรรมของสังคมญี่ปุ่นที่ต้องรักษามารยาทในการใช้ระบบขนส่งมวลชน จนเป็นเหตุให้ต้นสังกัดอย่าง GTH ต้องออกแถลงการณ์ขอโทษต่อสังคม และหลังจากนั้น 1 วัน นักแสดงกลุ่มดังกล่าวได้โพสต์ข้อความขอโทษสังคมกับกรณีที่เกิดขึ้น แต่กระแสการวิพากษ์วิจารณ์กลับไม่ได้ลดลงเลย เนื่องจากมีอีกกระแสจากนักวิชาการที่แสดงความคิดเห็นว่า คำขอโทษของกลุ่มนักแสดงดังกล่าวถูกสร้างขึ้นโดยกลุ่มประชาสัมพันธ์ของต้นสังกัด เพราะข้อความขอโทษดังกล่าวมีลักษณะคล้ายกันแทบทุกคน
...
ชาวญี่ปุ่น มอง แก๊งเต้นบนรถไฟเป็นพฤติกรรมไร้เดียงสา ชู มารยาท-สามัญสำนึก ดำรงชีวิต
ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ ขอไขปมสงสัยเกี่ยวกับพฤติกรรมและมารยาทในการท่องเที่ยวที่ประเทศญี่ปุ่นกับ นายโกกิ อะกิ (Koki Aki) นักธุรกิจนำเข้าเสื้อผ้าไทย-ญี่ปุ่น อีกทั้งยังเป็นคนญี่ปุ่นที่เคยโพสต์ข้อความวิจารณ์แท็กซี่ในสนามบินสุวรรณภูมิ และเคยออกมาแสดงความคิดเห็นต่อกรณีของกลุ่มนักแสดงดังกล่าวเมื่อวันที่เกิดเหตุการณ์ ซึ่งให้สัมภาษณ์กับทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์เป็นแห่งแรก
นายโกกิ เปิดเผยว่า กรณีที่มีคลิปของกลุ่มนักแสดงจากประเทศไทยไปเต้นและมีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมกับดอกซากุระนั้น ถือเป็นพฤติกรรมที่ดูไร้เดียงสาของเด็ก ถึงแม้ว่าพฤติกรรมนั้นจะดูไม่สมควรบนพื้นที่สาธารณะก็ตาม แต่ก็ยังรู้สึกเสียใจแทนคนไทยที่มีพฤติกรรมที่ดีขณะมาเที่ยวที่ญี่ปุ่น แต่ต้องมามีภาพลักษณ์ที่ไม่ดี หรือแย่ลงเพราะเด็กกลุ่มเดียว
"คนญี่ปุ่นให้ความสำคัญกับเรื่องมารยาท และสามัญสำนึกเป็นสิ่งแรกๆ ในการดำเนินชีวิตและความคิด ดังนั้น ผมหวังว่าคนไทยจะไม่ใช่คนที่อยู่ในคลิปวิดีโอดังกล่าว" นักธุรกิจหนุ่ม ระบุ
วัฒนธรรมญี่ปุ่น มองการใช้มือถือในระบบขนส่งสาธารณะไม่เหมาะสม
นายโกกิ กล่าวต่อว่า การใช้เครื่องมือสื่อสารบนรถไฟหรือระบบขนส่งสาธารณะถือเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสมและไม่สมควรเป็นอย่างมาก เพราะจะไปรบกวนเครื่องอิเล็กทรอนิกส์ของคนป่วยโรคหัวใจ ถึงแม้ว่าญี่ปุ่นจะพัฒนาระบบอิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ ไปมากแล้ว แต่คนส่วนใหญ่ยังคงเคร่งครัดในเรื่องดังกล่าวเป็นอย่างมาก และยังสร้างความรำคาญให้กับผู้ใช้บริการโดยรอบอีกด้วย ยกตัวอย่างกรณีการใส่หูฟังเพื่อฟังเพลง ก็ไม่สมควรเป็นอย่างมาก ถ้าหากเปิดเพลงเสียงดัง และเสียงเพลงดังกล่าวยังดังออกมาจากอุปกรณ์หูฟัง เพราะถือเป็นการรบกวนสิทธิ์และสร้างความรำคาญให้กับผู้อื่น
...
ทั้งนี้ ในประเทศญี่ปุ่นการใช้โทรศัพท์มือถือบนพื้นที่ขนส่งสาธารณะ ถือเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสมเป็นอย่างมาก เพราะเด็กชาวญี่ปุ่นจะถูกสอนมาว่า การใช้เครื่องมือสื่อสารบนระบบขนส่งสาธารณะ จะไปรบกวนการทำงานของระบบอิเล็กทรอนิกส์ของคนป่วยโรคหัวใจ เนื่องจากญี่ปุ่นเป็นสังคมผู้สูงอายุ อีกทั้งการแสดงพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมอย่างเปิดเพลง และพูดเสียงดังในที่สาธารณะ ยังเป็นมารยาทที่ไม่ดีสำหรับคนญี่ปุ่น
...
หนุ่มยุ่น เชื่อ คนไทยนิสัยดีมีมารยาท พร้อมอยากให้มาเที่ยวกันอีกมาก
ผู้สื่อข่าวได้ถามต่อว่า หลังจากมีกระแสคลิปวิดีโอดังกล่าวออกมา ภาพลักษณ์ของคนไทยที่ญี่ปุ่นมองจะเป็นอย่างไรต่อไป นายโกกิ ตอบว่า สำหรับเขา คนไทยยังเป็นประเทศมิตรที่ดีเสมอมา และจะดีตลอดไป ซึ่งการกระทำของกลุ่มเด็กเหล่านั้นเขาต้องได้รับบทเรียน และห้ามไปทำพฤติกรรมแบบนี้ที่ไหนอีก นอกจากพื้นที่สาธารณะที่จัดไว้ให้เพื่อการแสดงออก แต่อย่างไรก็ตาม เพื่อนอย่างประเทศญี่ปุ่น ยังคงมองคนไทยเป็นเพื่อนที่นิสัยดี และยังอยากให้คนไทยเข้ามาเที่ยวในประเทศญี่ปุ่นอีกมาก เพราะคนญี่ปุ่นชอบและรักคนไทยเวลามาเที่ยว
สำหรับภาพลักษณ์ของคนไทยในประเทศญี่ปุ่น ถือว่าอยู่ในระดับที่ดี อาทิ ในเมืองฮอกไกโด เพราะเมืองฮอกไกโด เป็นเมืองที่คนไทยไปเที่ยวมากที่สุดหลังจากเปิดวีซ่าให้คนไทยเข้าประเทศได้อิสระ 15 วัน อีกทั้งพฤติกรรมของคนไทยก็ไม่เคยที่จะส่งเสียงดังรบกวนนักท่องเที่ยวจากประเทศอื่นๆ หรือแม้แต่คนญี่ปุ่นเอง
"การที่มีคนไทยมาเที่ยวประเทศญี่ปุ่นเป็นจำนวนมากนั้น ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี เพราะคนไทยมาเที่ยวแบบมีมารยาท สังเกตได้จากร้านอาหาร คนไทยจะรับประทานอาหารได้เงียบและมีมารยาทเป็นอย่างมาก ไม่ส่งเสียงดังเหมือนชาติอื่นๆ แต่หากคนไทยจะแสดงอาการมีความสุข หรือหัวเราะเสียงดัง คนญี่ปุ่นก็ยังมองว่าถือเป็นการแสดงความเป็นมิตร เพราะคนไทยยังเป็นเพื่อนที่ดีกับญี่ปุ่นเสมอมา" หนุ่มแดนซากุระ กล่าวชื่นชม
...
'ซากุระ' เปรียบดั่งหัวใจของคนญี่ปุ่น
นอกจากนี้ ผู้สื่อข่าวยังถามถึงกรณีการที่นักแสดงกลุ่มดังกล่าวจับดอกและกิ่งต้นซากุระเพื่อถ่ายรูปนั้น นายโกกิ เปิดเผยอย่างสั้นๆ ว่า ต้นซากุระ เป็นหัวใจของคนญี่ปุ่น มีประเพณี และวัฒนธรรมสืบต่อกันมา ตนจะให้ความหมาย เพื่อให้นักท่องเที่ยวตีความว่าสำคัญแค่ไหน จากบทกวี "願はくは 花の下（もと）にて春死なむ そのきさらぎの 望月のころ" โดยสามารถแปลได้ว่า "หากฉันเลือกสถานที่ตายได้ ฉันขอตายใต้ต้นซากุระและสายลม" โดยอยากขอร้องให้คนไทยเคารพในความหมายสิ่งนี้ และให้เกียรติความเชื่อของชาวญี่ปุ่นด้วย
เมื่อถามถึงกรณีที่ส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ประเทศไทยนั้น นายโกกิ เปิดเผยว่า ประเทศญี่ปุ่นมีการทำข่าวเกี่ยวกับคนไทยหนีเข้ามาทำงานในประเทศญี่ปุ่นเป็นจำนวนมาก ซึ่งกรณีดังกล่าวจะถูกทำให้ประเทศไทยโดนยกเลิกฟรีวีซ่าก็เป็นได้ ในขณะที่ สิ่งหนึ่งที่คนญี่ปุ่นไม่เคยลืมในน้ำใจของคนไทยก็คือ ความช่วยเหลือกรณีเหตุแผ่นดินไหวที่เมืองฟูกุชิมะ ที่ประเทศไทยเข้ามาช่วยเหลือ และคนญี่ปุ่นจะไม่มีวันลืมน้ำใจและมิตรภาพเหล่านี้เป็นอันขาด
นายโกกิ ฝากถึงคนไทยว่า ต้องการให้คนไทยเดินทางเข้ามาเที่ยวประเทศญี่ปุ่นเพิ่มขึ้นอีกมากๆ เพราะคนญี่ปุ่นชอบคนไทย เนื่องจากโดยภาพรวมของคนไทยยังถือเป็นเพื่อนและมิตรที่ดี รวมถึงยังอยากให้คนไทยอภัยให้กับกลุ่มนักแสดงดังกล่าวด้วย เพราะเขาได้แสดงความขอโทษไปแล้ว และรับผิดชอบต่อการกระทำ ซึ่งมองว่าเด็กเหล่านั้นอาจจะไม่มีงาน ถ้าคนไทยยังไม่ให้อภัย และหากคนไทยต้องการจะแสดงออกถึงความสุข หรือความสามารถของตนเอง อยากให้มาแสดงออกได้ที่ สวนสาธารณะ Ueno (อูเอโนะ) ในวันหยุดของสัปดาห์ โดยเฉพาะการแสดงรำไทย ที่ไม่ใช่ท่าเต้นแบบในคลิปวิดีโอ เพราะคนญี่ปุ่นชอบชมการเต้นรำไทยเป็นอย่างมาก
ฟังทัศนะจากปากชาวแดนอาทิตย์อุทัย คิดเห็นอย่างไรกับการเต้นบนรถไฟ ?
ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ย่านทองหล่อและพระราม 9 เพราะมีคนญี่ปุ่นอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก เพื่อสอบถามความรู้สึกของคนญี่ปุ่นในประเทศไทยต่อกรณีที่มีกลุ่มวัยรุ่นเต้นบนรถไฟฟ้า ซึ่งส่วนใหญ่ระบุเป็นเสียงเดียวกันว่า การกระทำดังกล่าวของเหล่าวัยรุ่นไทยไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง และเป็นการไม่เคารพสิทธิ์ของคนอื่นๆ บนรถไฟฟ้า โดยหญิงชาวญี่ปุ่นไม่ขอระบุชื่อ เผยว่า พฤติกรรมดังกล่าวถือเป็นการไม่ให้เกียรติสถานที่ และไม่เคารพคนรอบข้าง รวมถึงยังขอร้องคนไทยอย่ากระทำพฤติกรรมดังกล่าวอีก เนื่องจากคนญี่ปุ่นจะเคร่งครัดในเรื่องของการเคารพสิทธิ์ผู้อื่นเป็นอย่างมาก
ด้าน นายไคจิ ชีโร่ ชายชาวญี่ปุ่นที่ทำงานในประเทศไทยมากว่า 18 ปี เปิดเผยว่า รู้สึกเสียใจที่กลุ่มนักแสดงได้มีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมอีกทั้งยังเปิดเสียงเพลงดังรบกวนผู้อื่น เพราะตามมารยาทของคนญี่ปุ่นจะไม่ทำกัน และตามวัฒนธรรมคนญี่ปุ่นจะถูกสอนมาตั้งแต่เด็กว่าให้เคารพสิทธิ์ผู้อื่น และการให้เกียรติถือเป็นเรื่องสำคัญ รวมถึงกลุ่มนักแสดงยังเป็นคนสาธารณะ ก็ควรที่จะมีสามัญสำนึกให้มากกว่านี้
นายไคจิ กล่าวต่อว่า กรณีภาพของนักแสดงสาวหน้าตาน่ารักไปจับกิ่งและดอกของซากุระ ถือเป็นเรื่องที่ไม่สมควรทำ เพราะดอกซากุระ เป็นสิ่งสำคัญของคนญี่ปุ่น ดังนั้น การไปท่องเที่ยวในช่วงฤดูซากุระ ควรมีมารยาทในการชม และอย่าไปแตะต้องดอกซากุระ นอกจากนี้ ยังมองว่าถ้าเรื่องดังกล่าวจบลงแบบให้อภัยก็ถือเป็นทางออกที่ดีให้กับกลุ่มนักแสดง และไม่ควรกระทำพฤติกรรมแบบนั้นอีก เพราะประเทศญี่ปุ่นมีพื้นที่การแสดงออกอย่างมากมาย และการไปท่องเที่ยวไม่ใช่เฉพาะประเทศญี่ปุ่น แต่การไปเที่ยวต่างประเทศ ก็ควรที่จะศึกษาประเพณีและวัฒนธรรมของประเทศเหล่านั้นให้ดีเสียก่อน
มุมมองคนไทยที่อาศัยในญี่ปุ่น เผย เต้นบนรถไฟก่อความเสียหายต่อภาพลักษณ์มาก
ขณะที่มุมมองของ หญิงชาวไทยที่ทำงานในประเทศญี่ปุ่นกว่า 10 ปี เผยว่า รถไฟในญี่ปุ่นถือเป็นพื้นที่สาธารณะ และการขึ้นรถไฟ คนญี่ปุ่นจะไม่ใช้โทรศัพท์ เพราะถือเป็นการรบกวนสิทธิ์ผู้อื่น
"การกระทำดังกล่าวสร้างความเสียหายให้กับภาพลักษณ์คนไทยเป็นอย่างมาก ยิ่งหนักไปกว่านั้นการไปเต้นแร้งเต้นกาบ้าบอ เปิดเพลงเสียงดัง เป็นการกระทำที่ไร้มารยาทมากที่สุด และต่อให้ทำในประเทศไทย ก็จะโดนกระแสวิพากษ์วิจารณ์เหมือนกัน ดังนั้น อย่าเอาคำว่าเด็กมาเป็นข้ออ้าง เพราะหลายคนในคลิปวิดีโอก็อายุเกิน 20 ปีแล้วทั้งนั้น" หญิงชาวไทย กล่าว
จากการแสดงทัศนะของคนญี่ปุ่น จะเห็นได้ว่าเรื่องมารยาทในการใช้ระบบขนส่งสาธารณะเป็นเรื่องที่สำคัญ และสามัญสำนึกของคนญี่ปุ่นก็ยังเป็นอันดับแรกๆ ที่เขามี และถูกสอนมาตั้งแต่เด็ก แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดของคนญี่ปุ่น ต่อกรณีวัยรุ่นนักแสดงซีรีส์ฮอร์โมนกระทำไปนั้น ควรให้อภัย และเดินหน้าต่อไป พร้อมกับนำความผิดเหล่านั้นมาปรับปรุง และเป็นบทเรียนให้กับนักท่องเที่ยวที่เดินทางไปญี่ปุ่นหรือประเทศอื่นๆ เช่นกัน อย่างไรก็ตาม คนญี่ปุ่นยังมองว่าคนไทยเป็นมิตรประเทศที่ดี และอยากสนับสนุนให้คนไทยเดินทางมาเที่ยวในประเทศญี่ปุ่นเพิ่มมากขึ้น...คนญี่ปุ่นยินดีต้อนรับ.