ตร.คาดวูบหัวทิ่ม-แต่เมียไม่ปักใจ

สิ้น “ศุภกิจ บุญญฤทธิพงษ์” อดีตผู้ว่าฯหลายจังหวัด หลังออกวิ่งจ๊อกกิ้งตอนเช้าแล้วพบกลายเป็นศพลอยน้ำในคลองชลประทานที่บ้าน อ.โพธาราม จ.ราชบุรี สันนิษฐานเกิดอาการวูบเป็นลมหมดสติ หน้าผากกระแทกผนังคอนกรีตก่อนกลิ้งตกคลองจมน้ำเสียชีวิต ขณะที่ภรรยาไม่เชื่อว่ามาจากอาการเจ็บป่วยเพราะสามีเป็นคนแข็งแรง เกรงจะถูกทำร้ายเพื่อประสงค์ต่อทรัพย์ ตำรวจเร่งส่งศพให้แพทย์ผ่าพิสูจน์หาสาเหตุการตายที่แท้จริง

อดีตผู้ว่าฯหลายจังหวัด เป็นลมหน้ามืดวูบตกคลองชลประทานดับอนาถรายนี้ แต่เมียยังข้องใจสงสัยอาจถูกฆาตกรรม เปิดเผยเมื่อเวลา 07.45 น.วันที่ 1 เม.ย. ร.ต.อ.ศุภชัยณกร เปี่ยมลาภ พนักงานสอบสวน สภ.โพธาราม จ.ราชบุรี รับแจ้งพบศพคนจมน้ำเสียชีวิตภายในคลองชลประทาน เขตเทศบาลเมืองโพธาราม ไปตรวจสอบพร้อมด้วยแพทย์เวร รพ.โพธาราม และมูลนิธิสว่างราชบุรี ที่เกิดเหตุเป็นคลองชลประทานขนาดใหญ่ห่างจากโรงพักประมาณ 500 เมตร พบศพชายลอยอยู่ในน้ำ จึงให้เจ้าหน้าที่มูลนิธิฯนำขึ้นมาตรวจพิสูจน์บนฝั่ง

ทราบชื่อนายศุภกิจ บุญญฤทธิพงษ์ อายุ 65 ปี อดีตผู้ว่าราชการหลายจังหวัด อยู่บ้านเลขที่ 200/16 หมู่ 4 ต.บ้านเลือก อ.โพธาราม สวมเสื้อยืดกีฬาสีฟ้า ทับเสื้อยืดสีเหลือง นุ่งกางเกงขาสั้นลายทางสีฟ้าขาว รองเท้าผ้าใบ มีบาดแผลแตกบริเวณหน้าผาก และรอยถลอกที่ข้อศอก-หัวเข่า ส่วนผนังพื้นคลองที่เป็นซีเมนต์ฝั่งตรงข้ามมีรอยเลือดไหลเป็นทาง จึงรายงานให้ พ.ต.อ.อนุรักษ์ พรพุทธศรี ผกก.สภ.โพธาราม นายอำนาจ แย้มศิริ นอภ.โพธาราม มาร่วมตรวจสอบที่เกิดเหตุ เบื้องต้นคาดว่าผู้ตายวิ่งออกกำลังกายมาถึงริมคลองชลประทานบริเวณดังกล่าว จู่ๆเกิดมีอาการวูบเป็นลมหน้ามืด ล้มหน้าคะมำศีรษะไปกระแทกกับขอบคันคลองหน้าผากแตก ก่อนกลิ้งตกลงไปในน้ำเสียชีวิต

...

ต่อมานางปริญดา บุญญฤทธิพงษ์ อายุ 60 ปี ภรรยาของผู้ตาย เดินทางมาดูศพในที่เกิดเหตุ พร้อมให้การว่า สามีจะวิ่งออกกำลังกายทุกเช้า โดยออกจากบ้านในเวลาประมาณ 05.00 น. ใช้เส้นทางเลียบคลองชลประธาน ปกติผู้ตายมีสุขภาพแข็งแรง เพิ่งจะไปบริจาคโลหิตมาเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ไม่เชื่อว่าสามีจะเป็นลมวูบตกคลองจนเสียชีวิต เกรงอาจถูกทำร้ายเพื่อมุ่งหวังต่อทรัพย์ เจ้าหน้าที่จึงนำศพส่งผ่าพิสูจน์ที่ รพ.ศูนย์ราชบุรี เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงอีกครั้ง

สำหรับประวัติ นายศุภกิจ บุญญฤทธิพงษ์ เป็นอดีต ผวจ.ชัยภูมิ ผวจ.นครสวรรค์ ผวจ.ลำปาง ตำแหน่งสุดท้ายเป็นผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย และเกษียณราชการเมื่อปี 2554