‘สุวัฒน์ ผลอุดม’ คนดัง พันคดีฆ่าผู้พันกระทิง ปมขัดธุรกิจ-ท้องถิ่น
กระหน่ำยิงอุกอาจ ส.จ.คนดังบ้านโป่ง จ.ราชบุรี คาลานจอดรถร้านขายของฝากชื่อดังเพชรบุรี คนร้ายฉวยโอกาสตอนที่เหยื่อเดินมาหยิบเงินในรถเพื่อจะนำไปให้แฟนสาวซื้อของฝากในร้าน ระเบิดกระสุนยิงใส่ไม่ยั้งร่างพรุนล้มทั้งยืนข้างรถคู่ชีพ หลังเกิดเหตุ ตำรวจสกัดจับรถของ ส.ท.ราชบุรี ผู้ต้องสงสัยที่ขับรถหนีด่าน สุดท้ายกลับโอละพ่อกลายเป็นหนีตำรวจเพราะขนพม่าเข้าเมือง ส่วนปมสังหาร ส.จ.พุ่งเป้าล้างแค้นส่วนตัว ขัดแย้งในธุรกิจและการเมืองท้องถิ่น
กระหน่ำยิง ส.จ.ชื่อดังเมืองโอ่งรายนี้ เปิดเผยเมื่อเวลา 13.00 น.วันที่ 6 มี.ค. พ.ต.ท.อนุรักษ์ สิงห์สังข์ พนักงานสอบสวน สภ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี รับแจ้งเหตุยิงกันตายบริเวณร้านจำหน่ายขนมหม้อแกงและของที่ระลึก “แม่กิมไล้” สาขาคลองชลประทานสาย 1 ริมถนนเพชรเกษม ฝั่งขาเข้า กทม. หมู่ 10 ต.ท่ายาง รีบรายงานผู้บังคับบัญชาทราบไปสอบสวนที่เกิดเหตุพร้อม พ.ต.อ.พีระพจน์ ระหว่างบ้าน ผกก.สภ.ท่ายาง เจ้าหน้าที่มูลนิธิสว่างสรรเพชรธรรมสถานจังหวัดเพชรบุรี แพทย์พยาบาลโรงพยาบาลท่ายางและชุดสืบสวน
บริเวณลานจอดรถหน้าร้าน พบรถยนต์อีซูซุรุ่นมิวเอ็กซ์ สีดำ หมายเลขทะเบียน กบ 8047 นครปฐม จอดอยู่ บนพื้นข้างรถฝั่งขวาพบเหยื่อฆาตกรรมเป็นชายถูกยิงนอนหงายจมกองเลือดทราบชื่อนายสุวัฒน์ ผลอุดม อายุ 33 ปี สมาชิกองค์การบริหารส่วนจังหวัดราชบุรี เขต 5 (ส.อบจ.ราชบุรี เขต 5) อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี ตรวจสอบพบถูกยิงด้วยกระสุนไม่ทราบขนาดเข้าที่แขนขวา 1 นัด ไหล่ขวา 1 นัด หน้าอกขวา 1 นัด กลางหลัง 1 นัด และท้ายทอยอีก 1 นัด ใกล้กันพบหัวกระสุนทองแดง 2 หัวกับเศษกระสุนที่แตกกระจายจำนวนหนึ่ง นอกจากนี้กระจกมองข้างฝั่งซ้ายรถของผู้ตายมีรอยถูกยิงทะลุ 1 รู กระจกข้างรถฝั่งซ้ายมีรอยถูกกระสุนทะลุอีก 1 รู
...
สอบปากคำ น.ส.รัศมี ผลงาม อายุ 30 ปี แฟนสาวของผู้ตาย ที่นั่งรถมาด้วยกันให้การว่า ก่อนเกิดเหตุผู้ตายพร้อมตนเดินทางกลับจากสัมมนาเรื่องการปกครองท้องถิ่นที่ อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี มุ่งหน้ากลับบ้านที่ จ.ราชบุรี ระหว่างทางได้จอดแวะซื้อของฝากที่ร้านแม่กิมไล้ หลังซื้อของเสร็จปรากฏว่าเงินไม่พอ นายสุวัฒน์เลยเดินมาที่รถเพื่อหยิบเงินไปให้ตนที่รออยู่ในร้าน สักพักมีเสียงปืนดังขึ้นหลายนัด และมีเสียงคนตะโกนดังโหวกเหวก เลยวิ่งออกไปดูพบนายสุวัฒน์ถูกยิงเสียชีวิตข้างรถ
อย่างไรก็ตาม จากการสอบปากคำพยานระบุว่า มือปืนที่ก่อเหตุไม่ทราบจำนวน ขับรถกระบะโตโยต้า วีโก้ 4 ประตู สีบรอนซ์ทอง ไม่ทราบทะเบียน หลบหนีไปทางถนนเพชรเกษมมุ่งหน้ากรุงเทพฯ หลังทราบดังนั้น พ.ต.อ.พีระพจน์ ระหว่างบ้าน ผกก.สภ.ท่ายาง ได้ประสานท้องที่ใกล้เคียงและในพื้นที่ตามสกัดรถคันดังกล่าว ต่อมาเวลา 13.40 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจพบรถกระบะวีโก้ 4 ประตู สีบรอนซ์ทอง หมายเลขทะเบียน ศช 1877 กรุงเทพมหานคร ลักษณะตรงกับรถของผู้ต้องสงสัยขับรถย้อนกลับมุ่งหน้าลงภาคใต้ ชุดสืบสวน สภ.ท่ายาง ขับรถตามสกัดได้บริเวณหน้าตลาดกลางการเกษตรหนองบ้วย ห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 6 กม.
สอบถามคนขับทราบชื่อนายสหรัช ชะนิ่ม อายุ 36 ปี อยู่บ้านเลขที่ 54/6 หมู่ 3 ต.บ้านสิงห์ อ.โพธาราม จ.ราชบุรี และเป็นสมาชิกสภาเทศบาลตำบลบ้านสิงห์ เจ้าหน้าที่จึงเชิญตัวไปสอบสวนที่ สภ.ท่ายาง และตรวจหาเขม่าดินปืน ผลปรากฏว่าไม่พบรอยเขม่าดินปืนแต่อย่างใด เบื้องต้นนายสหรัชให้การว่า ก่อนเกิดเหตุขับรถไปที่ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ และรับคนงานชาวพม่ามา 1 คนชื่อนายเหม่ง เพื่อจะพาไปทำงานที่บ้าน จ.ราชบุรี ระหว่างทางพบด่านตรวจที่ อ.บ้านลาด ด้วยความกลัวจึงรีบกลับรถเพื่อหลบหนี และได้นำนายเหม่งไปทิ้งไว้ที่ลานจอดรถห้างสรรพสินค้าเทสโก้โลตัส อ.ท่ายาง กระทั่งมาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัวและไม่รู้เรื่องที่มีเหตุยิงกันตายที่ร้านแม่กิมไล้แต่อย่างใด
หลังการสอบปากคำเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ท่ายางได้พาตัวนายสหรัชไปตามตัวนายเหม่งที่ปล่อยลงลานจอดรถห้างเทสโก้ โลตัส พบนายเหม่งยังยืนเคว้งอยู่ที่เดิมเลยนำตัวมาสอบสวนและให้การสอดคล้องกันกับนายสหรัชและไปตรวจหาเขม่าดินปืนแต่ไม่พบเช่นกันเชื่อว่าทั้งสองไม่มีส่วนรู้เห็นในคดีสังหารนายสุวัฒน์แต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นพนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อหานายสหรัชมีต่างด้าวไว้โดยไม่ได้รับอนุญาตและลักลอบนำพาชาวต่างด้าวเข้าราชอาณาจักร ส่วนนายเหม่งจะได้ผลักดันกลับประเทศต่อไป
ส่วนปมสังหาร ส.จ.คนดังรายนี้ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่สันนิษฐานมาจากเรื่องล้างแค้นคดีเก่า ขัดผลประโยชน์ในธุรกิจบางอย่างและเรื่องขัดแย้งการเมืองท้องถิ่น จากการตรวจสอบประวัติทราบว่า นายสุวัฒน์ผู้ตายตกเป็นผู้ต้องหาคดีร่วมกันฆ่า พ.ต.อ.วิฑูรย์ พรมประวัติ หรือที่ชาวบ้านเรียกกันว่า “ผู้พันกระทิง” วัย 78 ปี อดีตรองผู้บังคับการสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบในวงราชการและเคยเป็นอาจารย์สอนหนังสือของ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ อดีต ผบ.ตร.เหตุเกิดเมื่อวันที่ 27 พ.ย.57 ที่ผ่านมา บนถนนสายบ้านโป่ง-คุ้งพะยอม หมู่ 3 ต.คุ้งพะยอม อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี หลังถูกจับได้ขอประกันตัวในชั้นศาลเพื่อสู้คดีแต่ยังไม่ทันที่ศาลจะตัดสินคดีกลับถูกยิงตายเสียก่อน