ประมงประจวบฯ ร้อง งุบงิบลากเรือน้ำมันเฮนรี่เข้าฝั่งกลางดึก ทำลายแนวปะการังเทียม เครื่องมือประมงพื้นบ้าน คราบน้ำมันลอยหน้าหาด รองปลัด ทส. แนะชาวบ้านแจ้งความเอาผิด พร้อมส่ง ร.ล.นราธิวาส ตรวจสอบ ลั่นเร่งกู้ซาก หวั่นปัญหาบานปลาย

จากกรณีเรือบรรทุกน้ำมันชื่อ "เฮนรี่" จมหน้าอ่าวประจวบ จ.ประจวบคีรีขันธ์ ห่างจากฝั่ง 18 ไมล์ทะเล เมื่อเย็นวันที่ 15 ก.พ. และมีการลากเข้าหาฝั่ง ห่างจากหน้าหาดเพียง 1 ไมล์ทะเลโดยพลการ เมื่อคืนที่ผ่านมา จนทำให้เกิดคราบน้ำมันไหลเป็นแนวยาว ส่งกลิ่นเหม็นฉุนรุนแรงที่บริเวณหน้าหาด ที่สำคัญระหว่างเส้นทางน้ำ ซากเรือได้ทำลายแนวปะการังเทียม และอุปกรณ์หาปลาของเรือประมงพื้นบ้านจำนวนมาก ก่อนถูกลากไปไว้กลางทะเล ห่างจากฝั่ง 3 ไมล์ทะเล เพื่อเลี่ยงการต่อต้านจากชาวบ้านนั้น

วันที่ 17 ก.พ. นายสุพจน์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รองปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เผยว่า หลังจากร่วมประชุมกับทางจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พลังงานจังหวัด หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และตัวแทนชาวประมงอ่าวคั่นกระได เพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว ได้ข้อสรุปว่า เบื้องต้นได้ประสานงานไปยัง น.ท.พิพัฒน์ การจันดา ผู้บังคับการเรือรบหลวงนราธิวาส ให้ช่วยระงับเรืออวนลากทั้ง 3 ลำ ห้ามไม่ให้เคลื่อนย้ายเรือน้ำมันเฮนรี่ เพื่อรอการตรวจสอบผลกระทบจากการลากเข้าฝั่ง รวมถึงคราบน้ำมันที่ลอยอยู่ในทะเล จากนั้นต้องเร่งกู้เรือขึ้นโดยเร็ว เพื่อป้องกันผลกระทบในระยะยาว

...

"การเคลื่อนย้ายเรือน้ำมันเฮนรี่โดยพลการ ถือเป็นการทำผิดกฎหมาย ฉะนั้น ขอให้ชาวประมงพื้นบ้านทั้งหมดที่ได้รับผลกระทบ เครื่องมือทำมาหากินเสียหายจากการลากจูงเรือเข้าฝั่ง เข้าแจ้งความที่ สภ.อ่าวน้อย เพื่อดำเนินคดีและเรียกร้องค่าเสียหายกับเจ้าของเรือต่อไป" รองปลัด ทส. ระบุ

ด้านนายจิรศักดิ์ มีฤทธิ์ ชาวประมงพื้นบ้านคั่นกระได กล่าวว่า เครื่องมือประมงของชาวบ้านจำนวนมากได้รับความเสียหาย คิดเป็นมูลค่านับแสนบาท หลายคนกังวลว่าเจ้าของเรือจะไม่รับผิดชอบ เพราะจากการพูดคุยกับเรืออวนลาก ที่เข้ามาดำเนินการลากเรือน้ำมันเฮนรี่เข้าฝั่ง ได้พูดจาบ่ายเบี่ยงปัดความรับผิดชอบ ทั้งนี้ ชาวบ้านได้รวมกลุ่มกันเข้าแจ้งความกับสถานีตำรวจเรียบร้อยแล้ว

"สิ่งที่ชาวบ้านกังวลมากที่สุด คือ ผลกระทบทางด้านสิ่งแวดล้อม จากกรณีน้ำมันดีเซลรั่วไหลลงสู่ทะเล ที่จนถึงขณะนี้ ยังไม่สามารถยืนยันจำนวนน้ำมันที่รั่วไหลออกมาได้ว่า มีปริมาณเท่าไรกันแน่" นายจิรศักดิ์ กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เรือน้ำมันเฮนรี่ เป็นเรือที่จดทะเบียน โดยยื่นขออนุญาตจำหน่ายน้ำมัน ที่ความจุ 3.5 แสนลิตร ขนาดเรือยาว 22 เมตร น้ำหนัก 78.73 ตันกรอส เจ้าของเป็นคน จ.เพชรบุรี