หวั่นป่วน‘วาเลนไทน์’
คดีวางระเบิดไปป์บอมบ์กลางกรุงอืด ผ่านมาเกือบ 10 วัน ยังไม่รู้ว่ามือวางระเบิดเป็นใคร มีเพียงรูปจากกล้องวงจรปิดเป็นหลักฐานตั้งแต่วันแรก “ศรีวราห์” เผยรายวัน รู้จุดที่มือระเบิดไปป์บอมบ์ขึ้นรถตู้เดินทางเข้ามาก่อเหตุแล้ว แถมรู้เส้นทางหลบหนีของคนร้ายด้วย แต่ยังไม่ขออนุมัติหมายจับใครเพิ่ม ส่วนผลการรื้อคดีที่เกี่ยวกับระเบิดไปป์บอมบ์ในกรุงเทพฯ พนักงานสอบสวน สน.บางเขน ขอศาลอนุมัติหมายจับ 2 ผู้จ้างวานให้วัยรุ่นขนระเบิดไปป์บอมบ์และอาวุธอีกเพียบไปส่งตามใบสั่งย่านสะพานใหม่แล้ว แต่ศาลอนุมัติหมายจับให้เพียงคนเดียว เร่งตรวจสอบว่าเป็นเครือข่ายเดียวกับที่ก่อเหตุที่ห้างสยามพารากอนหรือไม่ ด้าน “สมยศ” สั่งตำรวจทุกพื้นที่คุมเข้มช่วงเทศกาลวาเลนไทน์ หวั่นเกิดเหตุร้ายซ้ำอีก
กรณีคนร้าย 2 คนก่อเหตุเขย่าขวัญคนกรุงขนระเบิดไปป์บอมบ์ 2 ลูกวางบริเวณทางเชื่อมระหว่างสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสสยามสแควร์กับห้างสรรพสินค้าสยามพารากอนเมื่อคืนวันที่ 1 ก.พ.จนเกิดระเบิดเสียงดังสนั่นหวั่นไหว มีประชาชนได้รับบาดเจ็บ 1 คน เบื้องต้นชุดสืบสวนตำรวจนครบาลตรวจสอบภาพวงจรปิดพบภาพคนร้าย 2 คน เดินป้วนเปี้ยนอยู่บริเวณที่เกิดเหตุก่อนการระเบิด จึงให้พนักงานสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานขอศาลอนุมัติหมายจับตามภาพไว้ก่อน เบื้องต้นมุ่งไปที่กลุ่มคนร้ายที่ต้องการสร้างสถานการณ์เพื่อหวังผลทางการเมือง จากการวิเคราะห์พฤติกรรมและรูปแบบของระเบิดพบว่า คล้ายคลึงกับเหตุระเบิดที่สมานเมตตา แมนชั่น จ.นนทบุรี และเหตุระเบิดในพื้นที่มีนบุรี ล่าสุด ชุดการสืบสวนคืบหน้าไปกว่า 70% แล้ว
ความคืบหน้าจากกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 10 ก.พ. พล.ต.ท.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล ผบช.น. พล.ต.ต.ชาญเทพ เสสะเวช รอง ผบช.น. พล.ต.ต.สมบัติ มิลินทจินดา ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.ธัมรงค์ วงศ์แป้น รอง ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.ชาญ แสงเสียงฟ้า รอง ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.สราวุธ เอี่ยมสำราญ รอง ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ ผกก.3 บก.สส. พ.ต.อ.นพรัตน์ สินมา ผกก.4 บก.สส.บช.น. พ.ต.อ.จิรภพ ภูริเดช ผกก.1 บก.ป. พ.ต.อ.กำธร อุ่ยเจริญ ผกก.กลุ่มงานเก็บกู้และตรวจพิสูจน์วัตถุระเบิด บก.สปพ. ชุดสืบสวน กก.สส.บก.น.6 และ สน.ปทุมวัน ร่วมประชุมสรุปความคืบหน้าคดีคนร้ายวางระเบิดแสวงเครื่อง 2 ลูก บริเวณทางเชื่อมสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสและศูนย์การค้าสยามพารากอน เหตุเกิดเมื่อคืนวันที่ 1 ก.พ.ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง
...
พล.ต.ท.ศรีวราห์กล่าวว่า ขณะนี้คดีคืบหน้าค่อนข้างเยอะ สอบปากคำผู้เกี่ยวข้องกับคดีไปหลายปากแล้ว เป็นข้อมูลเกี่ยวกับผู้ต้องสงสัยและผู้ต้องหาที่ออกหมายจับตามภาพกล้องวงจรปิด ส่วนที่มีข้อมูลว่า คนร้ายเดินทางมาจากปริมณฑลขณะนี้ตรวจสอบเพิ่มเติมอยู่ แต่ไม่เหมาะที่จะเปิดเผย การแจ้งเบาะแสคนร้ายขณะนี้พอมีแต่ไม่ได้ประโยชน์มาก การตรวจสอบข้อมูลกับฐานข้อมูลคดีเก่ายังคงต้องรอกองพิสูจน์หลักฐาน ถามถึงกรณีมีทหารพรานฉายาดราก้อนเกี่ยวข้องด้วย พล.ต.ท.ศรีวราห์กล่าวว่า มีการดำเนินการในคดีที่เกี่ยวเนื่องขออนุมัติศาลออกหมายจับ แต่บางส่วนยังไม่ให้ ส่วนการตรวจสอบเส้นทางหลบหนีเพิ่มเติมจากจุดที่พบครั้งสุดท้ายตรงข้ามห้างมาบุญครองขณะนี้ไปไกลกว่านั้นมากแล้ว มีภาพชัดเจน แต่อยู่ในสำนวนยังเปิดเผยไม่ได้ ส่วนการออกหมายจับเพิ่มเติมอยู่ระหว่างดำเนินการ ภาพจากกล้องวงจรปิดมีเพียงผู้ต้องสงสัย 2 คน ชื่อยังไม่ได้ระบุลงไปเพราะต้องชัดเจนกว่านี้ จึงจะขออนุมัติหมายจับศาลเพิ่มเติมได้ ส่วนเป็นอดีตทหารหรือไม่ คงพูดแบบนั้นไม่ได้ แต่คดีมีคืบหน้าไปแล้วกว่า 70 เปอร์เซ็นต์
ถามว่าขอหมายจับเพิ่มกี่คน พล.ต.ท.ศรีวราห์ กล่าวว่า ขออนุมัติศาลออกหมายจับบุคคลที่เกี่ยวเนื่องกับคดีอื่นๆที่เกี่ยวข้องอีก 2 คน ไม่ใช่หมายจับตามภาพ ไม่ได้ออกหมายจับเพิ่มเติมในคดีระเบิดหน้าห้างสยามพารากอน คาดว่าภายหลังจากยื่นขออนุมัติศาลออกหมายจับแล้ว ศาลน่าจะอนุมัติหมายจับ แต่ต้องรอสอบสวนอะไรให้ชัดเจนก่อน ส่วนคนที่มารับรถแท็กซี่หรือรถตู้เกี่ยวข้องด้วยหรือไม่คงยืนยันไม่ได้ แต่มีการสอบสวนไว้เป็นพยานในเบื้องต้นก่อน บุคคลที่ถูกออกหมายจับอยู่ระหว่างดำเนินการให้ฝ่ายสืบสวนตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติม ถามว่า มีข้อมูลพบผู้ต้องสงสัยที่ก่อเหตุระเบิดกบดานอยู่ในภาคกลาง ผบช.น.กล่าวว่า ตอบไม่ได้ เพราะยิ่งตอบคำถามเดี๋ยวจะยิ่งหนีไปกันใหญ่
ส่วนการป้องกันเหตุช่วงเทศกาลวาเลนไทน์ที่จะถึงนี้ พล.ต.ท.ศรีวราห์ เผยว่า เพื่อให้เกิดความสงบเรียบร้อยในการดูแลความปลอดภัยให้ประชาชนมากที่สุด พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบ.ตร.สั่งยํ้าให้ดำเนินการเรื่องดังกล่าวโดยเร็วที่สุด ส่วนมาตรการคุมเข้มช่วงวันที่ 11-15 ก.พ. ก็ดำเนินการตามมาตรการกองทัพเป็นหลัก ดูแลบริเวณที่ชุมชนและแหล่งสุ่มเสี่ยงทุกจุด
มีรายงานว่า การออกหมายจับผู้ต้องหาเพิ่มเติมดังกล่าวสืบเนื่องมาจากคดีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.บางเขน จับกุมนายกฤษฎา หรือกุ้ง แซ่ภู่ อายุ 27 ปีและนายมงคล หรือแบงก์ ทัศน์ศรี อายุ 18 ปี เมื่อเวลา 01.30 น. วันที่ 22 ม.ค.57 ขณะเจ้าหน้าที่สายตรวจออกตรวจตราบริเวณหน้าวัดราษฎร์นิยมธรรม หรือวัดหนองผักชี ซอยพหลโยธิน 52 ทั้งคู่ขี่รถ จยย.ฮอนด้า สีเงินดำ ทะเบียน ขยว 182 ราชบุรี ผ่านด่านตรวจความมั่นคง ขณะขอตรวจค้นมีกล่องใส่ระเบิดตกพื้นกระจาย จากการตรวจสอบเป็นระเบิดไปป์บอมบ์จำนวน 23 ลูก ใช้เหล็กกลึงมาเป็นพิเศษโดยเฉพาะ เส้นผ่าศูนย์กลาง 4 ซม. ยาว 10.5 ซม. มีเกลียวสำหรับเปิดเพื่อจุดชนวน ภายในพบว่า บรรจุดินดำและเศษตะปูทำเป็นสะเก็ดระเบิด มีระยะในการทำลายล้าง 10-15 เมตร ปืนสั้นแบบไทยประดิษฐ์ขนาด .38 จำนวน 1 กระบอก พร้อมเครื่องกระสุนขนาด .38 จำนวน 35 นัด และ .45 มม. จำนวน 3 นัด มีดพับ และสนับมือ ตรวจสอบผู้ต้องหาทั้งคู่ไม่เคยมีประวัติคดีมาก่อน สอบสวนรับสารภาพว่า มีผู้จ้างวาน 5,000 บาท ให้เอาอาวุธดังกล่าวไปวางไว้ย่านสะพานใหม่ จากนั้นจะมีผู้มารับไปอีกทอดหนึ่ง มีรายงานว่า พนักงานสอบสวน สน.บางเขน ขยายผลขออนุมัติหมายจับผู้ต้องหาเพิ่มเติมอีก 2 คน โดยศาลอาญาอนุมัติหมายจับให้ 1 คนตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว
ที่ สตช. พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ ผู้ช่วย ผบ.ตร.และโฆษก ตร.กล่าวว่า จากกรณีเกิดเหตุระเบิดบริเวณใกล้เคียงศูนย์การค้าสยามพารากอน พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบ.ตร. มีคำสั่งให้ทุกหน่วยเพิ่มความเข้มในมาตรการด้านการข่าว การตรวจตราสถานที่สำคัญ และการตั้งจุดตรวจค้นบุคคล ยานพาหนะ และสิ่งของผิดกฎหมาย สถานการณ์ในภาพรวมพบว่า ยังคงมีความจำเป็นที่จะต้องติดตามเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิดและต่อเนื่อง เพื่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของพี่น้องประชาชน
...
พล.ต.ท.ประวุฒิกล่าวต่อไปว่า ตำรวจทำงานเชิงรุกเพิ่มความเข้ม ความถี่ และมาตรการเชิงรุกด้านสายตรวจทุกประเภทให้เข้มข้นมากยิ่งขึ้น โดย เฉพาะการจัดสายตรวจเดินเท้า การแสดงกำลังเป็นกลุ่มก้อน การจอดรถยนต์สายตรวจปฏิบัติหน้าที่ประจำจุดและเปิดสัญญาณไฟวับวาบ เพื่อป้องปรามลดแรงจูงใจและตัดโอกาสการกระทำความผิดในพื้นที่สำคัญที่มีประชาชนหรือนักท่องเที่ยวจำนวนมาก และอาจตกเป็นเป้าหมายการก่อเหตุหรือสร้างสถานการณ์ให้ทุกพื้นที่หน่วยปฏิบัติ รับผิดชอบศึกษาวิเคราะห์และกำหนดสถานที่เสี่ยง เพื่อวางแผนจัดกำลังเพิ่มความเข้มข้นการรักษาความปลอดภัยและการเฝ้าระวังเหตุร้ายที่อาจเกิดขึ้นได้ และการตั้งด่านเพิ่มจุดตรวจความมั่นคง เพื่อตรวจค้นบุคคล และยานพาหนะต้องสงสัย เป็นการสกัดกั้นสิ่งผิดกฎหมาย ยาเสพติด อาวุธสงคราม รวมทั้งการพกพาสะพายเป้และมีพิรุธ ขับขี่รถจักรยานยนต์ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ฯลฯ
พล.ต.ท.ประวุฒิกล่าวอีกว่า สำหรับการติดต่อสื่อสารให้จัดทำช่องทางการประสานงานอย่างเป็นระบบ บูรณาการการปฏิบัติกับหน่วยทหารในพื้นที่และฝ่ายปกครองอย่างใกล้ชิด ให้ทุกหน่วยของสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่ปฏิบัติงานอยู่ในพื้นที่ ขึ้นควบคุมทางยุทธการกับผู้บังคับการตำรวจ นครบาล 1 และผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดแล้วแต่กรณี รวมทั้งขอความร่วมมือจากมวลชนเฝ้าระวังเหตุและสิ่งผิดกฎหมาย หากพบเห็นสิ่งผิดปกติหรือประสบเหตุ กรุณาแจ้งได้ที่ 191 หรือ 1599 ตลอดเวลา