โอ๊ต-ภาดา บัวขาว คนสนิทของ "กิตติศักดิ์ มัทธุจัด" ที่เกี่ยวข้องกับคดีโกง สจล. ชี้แจงข้อเท็จจริง ยัน ไม่มีส่วนพัวพันคดีทุจริตเงินกว่า 1 พันล. ขณะพนักงานสอบสวนกองปราบปราม ขออนุมัติหมายจับผู้เกี่ยวข้องเพิ่มอีกหลายราย
เมื่อวันที่ 9 ม.ค. พันตำรวจเอก จิรภพ ภูริเดช ผู้กำกับการกอง 1 กองบังคับการปราบปราม เปิดเผยว่า ตำรวจได้ดำเนินการยื่นศาลขออนุมัติหมายจับผู้ต้องหาอีก 2 คนแล้วในเช้าวันนี้ หลังจากตรวจสอบเส้นทางการเงินแล้วพบว่า เป็นผู้รับโอนเงิน 50 ล้านบาท จากบัญชีของ นายจิรวัฒน์ สหพรอุดมการ หนึ่งในผู้ต้องหา ขณะที่ผู้ต้องหาอีกคนไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเอกสารทางการเงินมากนัก แต่มีหลักฐานชี้ว่าเป็นผู้ดำเนินการยักย้ายถ่ายโอนทรัพย์สิน ซึ่งพันตำรวจเอกจิรภพ ระบุว่า ทันทีที่ศาลอนุมัติออกหมายจับ ก็ดำเนินการจับกุมทันที เพราะได้ส่งชุดสืบสวนสอบสวนติดตามตัวอย่างใกล้ชิดแล้ว
ขณะที่เมื่อวันที่ 8 ม.ค. นายภาดา บัวขาว หรือ โอ๊ต ที่ปรากฏชื่อเป็นคนสนิทของ นายกิตติศักดิ์ มัทธุจัด ได้เดินทางมาที่ไทยรัฐทีวี เพื่อชี้แจงข้อเท็จจริง เกี่ยวกับกระแสข่าวว่า เข้าไปมีส่วนพัวพันกับคดีทุจริตเงินกว่าพันล้านบาทของสถาบัน และจนถึงวันนี้ตัวเองก็ยังไม่เห็นหมายเรียกจากตำรวจ แต่ความเป็นจริงก็ตกเป็นจำเลยของสังคมในโลกโซเชียลมีเดียไปแล้ว ซึ่งนาย ภาดา ยืนยันว่า รู้จักกับนายกิตติศักดิ์ มาเพียง 1 ปีเศษ และทราบเพียงว่า เปิดบริษัททำธุรกิจประมาณ 4-5 แห่ง แต่ไม่เคยถามในเชิงลึกว่า นายกิตติศักดิ์ทำธุรกิจเกี่ยวกับอะไร
โดยในช่วงที่ผ่านมา นายกิตติศักดิ์ ได้ชักชวนให้ นายภาดา เข้ามาช่วยบริหารจัดการธุรกิจสถานบันเทิงแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ จึงได้มีความสนิทสนมมากขึ้น แต่ก็ยืนยันว่า ธุรกิจส่วนตัวของนายภาดา ทั้งสถานบันเทิง โรงแรม ที่จังหวัดภูเก็ต ได้ดำเนินการมาก่อนที่จะรู้จักกับนายกิตติศักดิ์
...
ส่วนกรณีการซื้อขายรถหรู ของนักแสดงหนุ่มชื่อดัง บอย ปกรณ์ ฉัตรบริรักษ์ นายภาดา ระบุว่า ทำหน้าที่เป็นนายหน้าติดต่อซื้อขายให้นายกิตติศักดิ์เท่านั้น เนื่องจากตัวเองรู้จักคนเยอะ และที่ผ่านมาก็ไม่เคยเข้าไปยุ่งเกี่ยวเรื่องเงินของนายกิตติศักดิ์อีกด้วย
ด้าน พ.ต.อ. ณษ เศวตเลข รองผู้บังคับการปราบปราม เปิดเผยถึง ความคืบหน้าการดำเนินคดี กับเครือข่ายยักยอกเงินของ สถาบันเทคโนโลยีเจ้าคุณทหาร ลาดกระบัง กว่า 1,494 ล้านบาท โดยวันนี้ พนักงานสอบสวนได้นำพยานหลักฐานไปขอศาลอาญาอนุมัติ ออกหมายจับ 2 คน คือ นายภาดา บัวขาว คนสนิทของ นายกิตติศักดิ์ มัทธุจัด ผู้ต้องหารายสำคัญที่ยังหลบหนีอยู่ในต่างประเทศ
จากการสืบสวนตำรวจพบว่า นายภาดา เป็นผู้นำเงินที่ยักยอกมาได้ไปฟอกเงิน และมีความเชื่อมโยงเรื่องการซื้อขายรถยนต์ ของนายกิตติศักดิ์ ส่วนอีกคน คือ นายธวัชชัย (ยังไม่ทราบนามสกุล) พบว่า มีเงินเข้าบัญชีส่วนตัวมากกว่า 40-50 ล้านบาท ซึ่งตำรวจมีหลักฐานการกระทำผิดของทั้งสองคนชัดเจน จึงขออนุมัติหมายจับ
อย่างไรก็ตาม ยังพบว่า มีผู้ร่วมเครือข่ายอีกเป็นจำนวนมาก ส่วนใหญ่เป็นบุคคลใกล้ชิดกับ นายกิตติศักดิ์ ซึ่งยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบว่า คนใดมีส่วนเกี่ยวข้องหรือรู้เห็นกับการยักยอกเงินของสถาบันฯ หรือไม่ และหากพบว่า มีหลักฐานการกระทำผิดชัดเจนจะขอศาลอนุมัติหมายจับ ต่อไป