หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเมืองกาญจนบุรี ลงพื้นที่สั่งล่าพรานยิงช้างป่า หลังช้างเดินหนีตายออกจากป่า เหมือนจะมาขอความช่วยเหลือที่หน่วยพิทักษ์ป่าสลักพระ จนท.พุ่ง 2 ประเด็น ฝีมือพรานป่า หรือชาวบ้านที่ช้างไปกินพืชไร่ 

เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 5 ม.ค.58 นายไพฑูรย์ อินทรบุตร หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระ ต.วังด้ง อ.เมือง จ.กาญจนบุรี เปิดเผยกรณีการช่วยเหลือช้างป่าที่ได้รับบาดเจ็บจากการถูกนายพรานยิงแล้วเดินทางออกมาจากป่าจนมาพบเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่า ว่า จากการที่เมื่อคืนวันที่ 27 ธ.ค. 2557 ที่ผ่านมา พบว่ามีช้างป่าสีดอ เพศผู้อายุ ประมาณ 25 ปี สูง 3 เมตร หนัก ประมาณ 3 ตัน โดนยิงได้รับบาดเจ็บงวงและข้างแก้ม ได้เดินมาที่ หน่วยพิทักษ์ป่าสลักพระ หมู่ 11 ต.วังด้ง อ.เมืองกาญจนบุรี ซึ่งทางหน่วยฯสลักพระได้รายงานมาให้ตนทราบ

นายไพฑูรย์ เปิดเผยต่อว่า จากนั้นตนได้เดินทางไปที่ที่หน่วยดังกล่าว พบช้างมีอาการบาดเจ็บและซึม ดังนั้นจึงรีบรายงานให้กรมอุทยานฯและประสานสัตวแพทย์จากกรมอุทยานฯ และโรงพยาบาลปศุสัตว์และสัตว์ป่า ม.มหิดล วิทยาเขตไทรโยค เพื่อเดินทางมาร่วมตรวจสอบและร่วมกันวางแผนในการรักษาช้างตัวดังกล่าว พบว่าช้างตัวดังกล่าวน่าจะถูกยิงด้วยอาวุธปืนบาดเจ็บที่งวงและแก้มขวา มีรอยอักเสบ ซึ่งทางสัตวแพทย์ได้ทำการช่วยให้ยาฆ่าเชื้อและยาแก้อักเสบ

นายไพฑูรย์ เปิดเผยอีกว่า โดยทางเจ้าหน้าที่เขตฯสลักพระได้ระดมหาต้นกล้วยมาให้ช้างเพื่อกินเป็นอาหาร ซึ่งการดูแลรักษาใช้เวลา 3 วันในช่วงวันแรกช้างก็สามารถฟื้นตัวได้เองและแข็งแรงเพียงพอโดยเขาได้เดินออกไปหากินด้วยตนเองได้ แต่ทางเขตฯสลักพระก็ส่งเจ้าหน้าที่และสัตวแพทย์ติดตามไปเพื่อคอยระวังและเตรียมให้ความช่วยเหลือ พอวันที่สองช้างเริ่มฟื้นตัวและเริ่มมีแรงจึงเดินเข้าป่าเพื่อใช้ชีวิตตามปกติ ในวันที่สามคณะเจ้าหน้าที่ก็ไม่สามารถเดินติดตามช้างดังกล่าวได้เพราะช้างได้หายจากอาการบาดเจ็บและกลับคืนสู่สภาพปกติ ไม่ให้ใครติดตามและเข้าใกล้ตามสัญชาตญาณของสัตว์ป่าทั่วไป

...

นายไพฑูรย์ เปิดเผยด้วยว่า ในส่วนของการตรวจอาการบาดเจ็บของช้าง สัตวแพทย์ลงความเห็นว่าช้างสามารถจัดการกับบาดแผลของตนเองได้ตามธรรมชาติ แต่ทางเขตสลักพระก็ไม่ได้นิ่งนอนใจยังคงจัดกำลัง จนท.ลาดตระเวนคอยติดตามหรือสังเกตร่องรอยช้างตัวดังกล่าวต่อไป หลังจากนั้นยังได้ส่งกำลังเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าเพิ่มความเข้มข้นในการเดินลาดตระเวนเชิงคุณภาพ และส่งชุดมวลชนลงพื้นที่ชุมชนใกล้แนวเขตป่าเพื่อทำการสืบหาข้อเท็จจริงในหลายๆ ด้านจากการที่ช้างได้รับบาดเจ็บมาจากฝีมือคนกลุ่มใดกันแน่

"เบื้องต้นสืบทราบว่าน่าจะเป็นการกระทำของคนสองกลุ่มหลัก กลุ่มแรกคือพรานป่า ส่วนอีกประเด็นอาจจะเกิดจากการที่ช้างตัวดังกล่าวออกไปกินพืชไร่ชาวบ้าน ทั้งนี้ อยากประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนและชุมชมให้ทราบว่า ช้างป่าถือเป็นสมบัติของประเทศชาติและคนไทยทุกคนดังนั้นจึงอยากขอให้ช่วยกันดูแลรักษาเพื่ออนุรักษ์ไว้ให้ชนรุ่นหลังต่อไป และใครทราบเบาะแสขบวนการล่าสัตว์ป่าก็สามารถแจ้งให้แก่เจ้าหน้าที่กรมอุทยานฯ หรือกรมป่าไม้ได้ทุกแห่งเพื่อทางเราจะได้ดำเนินการปราบปรามติดตามจับกุมดำเนินคดีอย่างเข้มงวดต่อไป" นายไพฑูรย์ กล่าว