พบเด็กทารกแรกเกิดไม่มีกะโหลกศีรษะ ทั้งยังมีก้อนเนื้อปูดโปนเหมือนหงอนที่หน้าผาก แม่พาไปรักษาถึง 3 รพ. แต่หมอพูดเหมือนกันว่า เด็กไม่ได้ป่วย แต่ก็ให้ทำใจ เพราะโรคนี้ไม่มีทางหาย พ้อแค่อยากให้ลูกได้รับการรักษาบ้าง
เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 23 ธ.ค. ผู้สื่อข่าว จ.ฉะเชิงเทรา ได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่า พบเด็กทารกแรกเกิดร่างกายผิดปกติ ไม่มีกะโหลกศีรษะ พ่อแม่ฐานะทางบ้านยากจน ไม่มีเงินรักษา อยู่ที่บ้านเลขที่ 413 บ้านนายาว หมู่ 15 ต.ท่ากระดาน อ.สนามชัยเขต จ.ฉะเชิงเทรา จึงเดินทางไปตรวจสอบ
พบบ้านหลังเล็ก ปลูกในลักษณะกระท่อมหลังคามุงจาก อยู่ข้างบ้านเลขที่ดังกล่าว ซึ่งเป็นที่อาศัยของ น.ส.ทวินันท์ พันวงษา อายุ 27 ปี และนายวัฒนา บุติพรรคา อายุ 23 ปี สามีภรรยา กำลังเลี้ยงทารกแรกเกิดเพศชายชื่อ ด.ช.ณัฐวัฒน์ บุติพรรคา อายุ 1 เดือน 10 วัน จากการตรวจดูทารกพบว่า บริเวณศีรษะตั้งแต่เหนือคิ้วขึ้นไปไม่มีกะโหลก มีเพียงหนังศีรษะและเส้นผม ตรงกลางศีรษะ มีลักษณะนิ่มยุบตัวได้ และกลางหน้าผากมีก้อนเนื้อเหมือนหงอนปูดโปนออกมา มีรู 2 รู และมีน้ำซึมออกมาตลอดเวลา อย่างไรก็ตาม ทารกแข็งแรงดีเหมือนเด็กทั่วไป ทั้งยังร้องไห้เสียงดัง
น.ส.ทวินันท์ พันวงษา แม่ของทารกน้อย กล่าวว่า ตนกับสามีที่ไม่ได้จดทะเบียนสมรส มีอาชีพทำไร่มันสำปะหลังและรับจ้างทั่วไป โดยก่อนหน้านี้ตนตั้งครรภ์ แต่ด้วยฐานะทางบ้านยากจน จึงไม่ได้ไปฝากครรภ์กับทางโรงพยาบาล กระทั่งตั้งครรภ์ได้ 6 เดือนเศษ และใกล้คลอด ตนจึงไปฝากครรภ์ที่ รพ.วังน้ำเย็น จ.สระแก้ว หลังจากนั้นแพทย์ได้ทำอัลตราซาวนด์ให้ และแจ้งกับตนว่า ทารกในครรภ์ผิดปกติ คือไม่มีกะโหลกและสมอง ให้ทำใจโดยอาจจะเสียชีวิตก่อนคลอด หรือถ้ายังไม่เสียชีวิต จะอยู่ใด้ไม่เกิน 24 ชั่วโมง
กระทั่งวันที่ 10 พ.ย.57 เวลา 19.30 น. ตนจึงคลอดบุตรชายที่ รพ.วังน้ำเย็น และออกจากโรงพยาบาลในวันต่อมา กลับมาเลี้ยงลูกอยู่ที่บ้าน แต่เมื่อเพื่อนบ้านมาเห็นหน้าผากเด็กที่เป็นหงอนปูดโปน เกรงว่าแผลจะติดเชื้อ เนื่องจากตนใช้พลาสเตอร์ยาปิดแผลไว้ จึงนำลูกไปรักษาที่ รพ.สระแก้ว เมื่อวันที่ 14 พ.ย.ที่ผ่านมา แต่แพทย์ตรวจแล้วให้กลับบ้านได้ เนื่องจากพบว่าเด็กปกติ ไม่เจ็บป่วย ตนจึงเดินทางกลับ
...
ทั้งนี้ น.ส.ทวินันท์ ผู้เป็นแม่ กล่าวด้วยว่า ต่อมาเมื่อวันที่20 พ.ย.57 ตนได้นำลูกไปรักษาที่ รพ.สนามชัยเขต จ.ฉะเชิงเทรา ก็ได้รับการยืนยันเหมือนเดิมว่าเด็กปกติไม่เป็นอะไร และให้กลับบ้านได้ จนลูกชายอายุได้ 1 เดือนเศษ เมื่อวันที่19 ธ.ค. ตนจึงพาไปที่ รพ.สนามชัยเขต อีกครั้งเพราะอยากให้แพทย์ส่งตัวลูกไปรักษาในเมือง แพทย์ได้เรียกตนไปคุย พร้อมทั้งมีใบส่งตัวให้ไปรักษาที่ รพ.พระพุทธโสธร อ.เมืองฉะเชิงเทรา ตนนำจึงใบส่งตัวพร้อมลูกชายไปพบแพทย์ที่ รพ.พระพุทธโสธร เมื่อวันที่ 22 ธ.ค.ที่ผ่านมา แพทย์ได้นำเด็กไปชั่งน้ำหนัก และตรวจร่างกายแล้ว ก็ยืนยันเหมือนเดิมว่า ลูกตนปกติให้กลับบ้านได้ ซึ่งตนพาลูกไปรักษาถึง 3โรงพยาบาล แต่แพทย์ก็พูดแบบเดียวกันหมด พร้อมกับแจ้งว่าไม่มีทางรักษาให้หายได้ ให้ทำใจอย่างเดียว ซึ่งคำพูดดังกล่าวของแพทย์เหมือนกับปัดความรับผิดชอบ
"ตั้งแต่ลูกเกิดมาร่างกายก็แข็งแรงเหมือนเด็กคนอื่นๆ กินข้าวได้ กินนมได้ และส่งเสียงร้องเหมือนทารกทั่วไป การที่พาลูกไปรักษา เพราะอยากจะทราบว่า ตรงหน้าผาก หรือหัวคิ้วของลูกเป็นอะไร เกรงว่าแผลจะติดเชื้อ แต่แพทย์ก็ไม่ยอมรักษา ถึงแม้ว่าจะมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่นาน แต่ก็อยากจะให้ได้รับการรักษาจากแพทย์บ้าง และอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยเหลือ เพราะฐานะทางครอบครัวยากจน" น.ส.ทวินันท์ กล่าว
ด้าน นายจิระวัชร มัฎฐารักษ์ ปลัด อบต.ท่ากระดาน รักษาการแทน นายก อบต.ท่ากระดาน กล่าวว่า เรื่องนี้นางแม้น ละมุล อายุ 53 ปี ส.อบต.หมู่ 15 ต.ท่ากระดาน เจ้าของพื้นที่ได้รายงานให้ตนทราบแล้ว และตนได้รายงานให้ นางวราภณณ์ ศิริวงศ์ นายอำเภอสนามชัยเขต ทราบตามขั้นตอนแล้วเช่นกัน ที่ผ่านมาได้สั่งการให้พัฒนาชุมชนเข้าไปดูแลครอบครัวนี้หลายครั้ง พร้อมกับประสานเจ้าหน้าที่บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดฉะเชิงเทรา นำเงินสงเคราะห์ผู้มีรายได้น้อยฯ มามอบให้เบื้องต้นจำนวน 2 พันบาท รวมถึงสิ่งของเครื่องอุปโภคบริโภค และจะได้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาดูแลต่อไป.