คดีเด่นที่สุดในรอบปี 2556 ทีมข่าวไทยรัฐทีวี ขอยกให้กับคดีการฆาตรกรรมเอ็กซ์-จักรกฤษณ์ พณิชย์ผาติกรรม นักกีฬายิงปืนทีมชาติไทยมือ 1 ของประเทศ เพราะความซับซ้อนซ่อนเงื่อนปมของคดีนี้ ทำให้แทบจะไม่มีใครคาดคิดเลยว่า การเสียชีวิตของเอ็กซ์ จักรกฤษณ์ จะมีคนใกล้ตัวเป็นผู้ที่อยู่บงการ “สั่งตาย” อยู่เบื้องหลัง เราจะไปประมวล-ย้อนลำดับเหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดของคดีนี้....

11 กรกฎาคม ชื่อของเอ็กซ์-จักรกฤษณ์ พณิชย์ผาติกรรม นักกีฬายิงปืนทีมชาติไทย ปรากฏเป็นข่าวอื้อฉาว หลังถูกมารดาแท้ๆ ของตัวเอง และ แพทย์หญิง นิธิวดี ภู่เจริญยศ หรือหมอนิ่ม ภรรยา เข้าแจ้งความกับตำรวจ สน.มีนบุรี ว่าถูกเขาทำร้ายร่างกายและใช้ปืนข่มขู่ เอ็กซ์ถูกตำรวจจับกุมโดยแจ้ง 8 ข้อหา และได้รับการปล่อยตัวชั่วคราว โดยมีเงื่อนไขห้ามพกปืน


ครั้งนั้นเป็นชนวนที่สังคมรับทราบถึงรอยร้าวในครอบครัวนี้

กระทั่ง 19 กันยายน ความสัมพันธ์ในครอบครัวดูเหมือนเริ่มกลับมาดีขึ้น

เมื่อเอ็กซ์นำดอกไม้ไปง้อและขอโทษหมอนิ่ม โดยมีนางปวีณา หงสกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เป็นคนกลางช่วยไกล่เกลี่ย

หมอนิ่มยอมให้อภัย แต่ยังไม่พร้อมที่จะกลับไปอยู่เป็นครอบครัว โดยขอให้เอ็กซ์ใช้เวลาพิสูจน์ตัวเอง

แต่แล้วค่ำของวันที่ 19 ตุลาคม เอ็กซ์ถูกคนร้ายปลิดชีพขณะเดินทางไปหาหมอนิ่มที่บ้านตามนัด

ย้อนเวลาวันสังหาร

...


บ่ายของวันที่ 19 ตุลาคม ยังไม่มีสัญญาณใดๆ ที่บ่งบอกว่าเป็นวันสุดท้ายในชีวิตของนักแม่นปืนทีมชาติ เพราะครอบครัวยังใช้เวลาร่วมกันตามปกติ โดยเอ็กซ์พาหมอนิ่มและลูกไปทานอาหารด้วยกันนอกบ้าน

และนัดทานข้าวเย็นด้วยกันพร้อมหน้าครอบครัวอีกครั้ง ที่บ้านของเขาในซอยรามคำแหง 174

ก่อนถึงเวลานัดไม่นานหมอนิ่มได้โทรศัพท์ขอเปลี่ยนจุดนัดหมายเป็นบ้านของเธอที่อยู่ในซอยรามคำแหง 166 กระทั่งเอ็กซ์ถูกสังหารระหว่างเดินทางมาที่บ้านหมอนิ่ม

หลังเกิดเหตุไม่กี่นาที หมอนิ่มปรากฏตัวพร้อมกับพยายามช่วยปฐมพยาบาลเอ็กซ์เบื้องต้น ก่อนที่จะนำตัวส่งโรงพยาบาล

การสืบสวนเพื่อคลายปมสังหาร


ตำรวจตั้ง 4 ประเด็นปมสังหาร คือ ยาเสพติด พระเครื่อง ความขัดแย้งสมาคมยิงปืน และปัญหาในครอบครัว

21 ตุลาคม หมอนิ่มเข้าให้ปากคำอีกครั้ง  ยืนยันไม่ทราบสาเหตุการสังหาร และไม่ติดใจการเสียชีวิตของสามี

โดยชี้แจงถึงสาเหตุที่ทำให้ไปถึงจุดเกิดเหตุเร็ว เพราะสาวใช้ที่นั่งมาในรถกับเอ็กซ์โทรศัพท์หา และบ้านของเธอกับจุดเกิดเหตุอยู่ไม่ไกลกัน

ตำรวจไม่สงสัยคำให้การของหมอนิ่มเพราะสอดคล้องกับคำให้การของสาวใช้

แต่ถัดมาเพียง 2 วัน ตำรวจก็ตัดประเด็นยาเสพติด // พระเครื่อง และปัญหาในสมาคมยิงปืนทิ้ง

ให้น้ำหนักไปที่ปัญหาความขัดแย้งภายในครอบครัว หลังพบข้อพิรุธหลายอย่าง

24 ตุลาคม หมอนิ่มถูกเรียกตัวมาสอบปากคำเป็นครั้งที่ 3 ข้อสงสัยอยู่ที่การใช้โทรศัพท์มือถือ ที่หมอนิ่มปกปิดว่ามี 2 เครื่อง


หมอนิ่มให้การว่า โทรศัพท์เครื่องที่  2  เป็นเบอร์ที่ใช้ส่วนตัว ไม่เคยเปิดเผยให้ใครทราบ แม้แต่คนใกล้ชิด

ชุดสืบสวนพบข้อมูลหลายอย่างที่แสดงให้เห็นถึงรอยร้าวของเอ็กซ์กับครอบครัวของหมอนิ่ม และพบว่าก่อนหน้าที่จะเสียชีวิต เพียงวันเดียว เอ็กซ์เตรียมที่จะแถลงข่าวเปิดโปงคนที่อยู่เบื้องหลังการนำทรัพย์สินออกจากตู้เซฟ

26 ตุลาคม พยานปากสำคัญให้ข้อมูลกับตำรวจ ว่าก่อนที่เอ็กซ์จะเสียชีวิตเพียง 4 วัน ได้มีปากเสียงกับหมอนิ่มอย่างรุนแรง และมีการพยายามจะทำร้ายหมอนิ่ม ซึ่งหมอนิ่มชี้แจงว่าเป็นเรื่องการหึงหวงที่เกิดจากความเข้าใจผิด และไม่ได้มีการใช้ความรุนแรง

ตำรวจเริ่มตั้งข้อสันนิษฐานว่า คนใกล้ตัวหมอนิ่มน่าจะเป็นผู้บงการ  เพราะทนกับพฤติกรรมของเอ็กซ์ ไม่ไหว

28 ตุลาคม ข้อมูลใหม่ที่ตำรวจพบ คือมือปืนที่ก่อเหตุยิงเอ็กซ์ ไม่ได้ขี่รถสะกดรอยตาม แต่กลับเป็นการส่งสัญญาณแล้วยิง

...


ซึ่งหมายความว่ามีคนในครอบครัวที่รู้ความเคลื่อนไหวของเอ็กซ์ เป็นผู้บอกข้อมูลให้กับคนร้าย

5 พฤศจิกายน ชุดสืบสวนพบเบาะแสผู้ต้องสงสัยที่คาดว่าเป็นทีมสังหาร จากหลักฐานสำคัญคือภาพวงจรปิดและการติดต่อระหว่างกันของผู้ต้องหา

ก่อนที่ตำรวจจะสามารถติดตามจับกุม นายจิรศักดิ์ กลิ่นคล้าย มือปืนที่ลอบสังหาร เอ็กซ์ ได้เป็นคนแรก

9 พฤศจิกายน จิรศักดิ์มือสังหารสารภาพว่า ร่วมกับนายธวัชชัย เพชรโชติ ยิงเอ็กซ์จริง โดยได้รับการว่าจ้าง จาก นายสันติ ทองเสน หรือทนายอี๊ด ซึ่งรับงานจัดหามือปืน มาจาก นางสาววรพรรณภูรี มนตรีอารีกุล หรือเจ๊แหม่ม คนสนิทครอบครัวหมอนิ่ม ที่ให้การซัดทอดว่านางสุรางค์ ดวงจินดา มารดาของหมอนิ่ม ว่าจ้างให้  “จัดการ”  กับเอ็กซ์ จักรกฤษณ์  ด้วยเงิน 1 ล้าน 2 แสนบาท

...

10 พฤศจิกายน ศาลจังหวัดมีนบุรี อนุมัติหมายจับแพทย์หญิงนิธิวดี และนางสุรางค์ ในข้อหาร่วมกันจ้างวานฆ่า ก่อนที่ทั้งคู่จะเดินทางเข้ามอบตัวในวันที่ 11 พฤศจิกายน นางสุรางค์ให้การรับสารภาพว่าเป็นผู้บงการสั่งฆ่าลูกเขยจริง เพราะความเจ็บแค้นที่ทำร้าย "หมอนิ่ม" ลูกสาวคนเดียวจนแท้งลูก

ตำรวจใช้เวลาแกะรอยเพียง 20 วัน ก็สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาได้เกือบทั้งหมด แม้ในครั้งแรกตำรวจเกือบที่จะหลงประเด็น เพราะความแนบเนียนของคนใกล้ตัวของผู้ตาย ที่มีการวางแผนอย่างรัดกุมแม้นางสุรางค์จะรับผิดเพียงผู้เดียว แต่ตำรวจมั่นใจในพยานหลักฐานที่หนาแน่น และ ชัดเจน ว่าจะสามารถดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้องในการกระทำผิดได้ทั้งหมด

ถือเป็น 1 ในคดีเด่น ของปี พ.ศ. 2556 ที่สะท้อนให้เห็นถึงปัญหาครอบครัว ที่เริ่มต้น และ จบลง ด้วยการใช้ความรุนแรง…แต่ที่สุดแล้ว ก็ไม่มีใครที่จะสามารถหลบหนีจากความผิดที่ตัวเองก่อไว้ได้


ชมคลิป


ทีมข่าวไทยรัฐทีวีรายงาน

...