หากจะย้อนรอยคดีใหญ่ในปี 2555 คดียิงกัน เมื่อวันที่ 21 สิงหาคมในปีที่แล้ว ก็นับว่าเป็นคดีใหญ่ที่สังคมให้ความสนใจ สืบเนื่องจากผู้เสียชีวิตคารถป้ายแดง คือลูกชายผู้กว้างขวาง "ชาดา ไทยเศรษฐ์" ส.ส.อุทัยธานี พรรคชาติพัฒนา เพราะถูกกระสุนพุ่งเข้าที่กกหู จากนั้นรถก็เสียหลักพุ่งชนเสาไฟฟ้าข้างทาง

เหตุยิงกันดังกล่าวเกิดขึ้น บนถนนสายเขาใหญ่-วังน้ำเขียว หมู่ 6 ต.หมูสี อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา โดยรถยนต์ 2 คัน ได้ใช้อาวุธปืนยิงสาดใส่กันราวกับในหนัง และมีการขับรถปาด เปิดไฟสูงใส่กัน หลังสิ้นเสียง ควันปืนจางหาย ก็พบศพ "ฟารุต ไทยเศรษฐ์" ลูกชายผู้กว้างขวางถูกกระสุนปืนเสียชีวิต และรถเสียหลักชนข้างทาง นอกจากนี้ ภายในรถและนอกรถ ยังพบปลอกกระสุนปืนหลายชนิดอีกกว่า 10 ปลอก

...


หลังเกิดเหตุ ตำรวจตั้งข้อสันนิษฐานว่าเกิดจากเหตุ "ซึ่งหน้า" ที่รถทั้งสองคันเปิดไฟสูงใส่กัน จึงเกิดความโมโห และมีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเปิดฉากยิงใส่ก่อน อีกฝ่ายจึงมีการชักปืนยิงต่อสู้กันบนท้องถนน อย่างไรก็ตาม ตำรวจพยายามสืบสวนหาคู่กรณี ก็ยังตามหาไม่พบ จนกระทั่ง เย็นวันที่ 30 ส.ค. หลังเกิดเหตุเกือบ 10 วัน นายมั่น พูลทรัพย์ อายุ 41 ปี ชาว จ.ราชบุรี เป็นผู้รับเหมาโครงการก่อสร้างหมู่บ้าน ก็ได้เข้ามอบตัว พร้อมอ้างว่าถูกยิงก่อน จึงได้ชักปืนยิงต่อสู้ โดยไม่คิดว่าจะยิงถูกใครเสียชีวิต


"ไม่รู้ว่าผู้ตายเป็นใคร ไม่มีเรื่องโกรธเคืองมาก่อน โมโหที่ถูกขับรถปาดหน้าเปิดสปอตไลต์ใส่ จึงขับรถตามไปปาดคืน แต่ก็ถูกไล่ยิงใส่ก่อนก็ต้องยิงสู้"
ผู้รับเหมาก่อสร้างหนุ่ม กล่าว

อย่างไรก็ตาม ประเด็นการยิงกันครั้งนี้ สังคมยังคงมีความเคลือบแคลงสงสัย เนื่องจากไม่มีการชันสูตรผู้ตาย เพราะผู้เป็นบิดา คือนายชาดา ไม่อนุญาต โดยระบุว่าต้องนำร่างในฟารุตทำพิธีการทางศาสนาอิสลาม ถึงแม้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะเคยร้องขอชันสูตร 

กระทั่ง เมื่อวันที่ 27 มี.ค. 2556 ศาลจังหวัดสีคิ้ว อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา ได้มีการอ่านคำพิพากษา หลังจาก นายนิทน เกตุลูนสงค์ พนักงานอัยการจังหวัดสีคิ้ว เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายมั่น พูลทรัพย์ ผู้เป็นจำเลย ในข้อหาฆ่าผู้อื่นตายโดยเจตนา-พยายามฆ่าผู้อื่น และพกพาอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต ขณะเดียวกัน ก็ได้มีการยื่นฟ้อง นายสุริยา ไทยเศรษฐ์ พี่ชายนายฟารุต ข้อหาพยายามฆ่าผู้อื่นและพกพาอาวุธปืนไปในที่สาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต


ทั้งนี้ ศาลได้ตัดสินจำคุกนายมั่น เป็นเวลา 20 ปี แต่จำเลยให้การเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณาคดี จึงลดโทษเหลือจำคุก 12 ปี 24 เดือน ส่วนนายสุริยา พี่ชาย นายฟารุต ถูกพิพากษาตัดสินจำคุก 6 ปี

แม้วันนี้ จะล่วงเลยมานานครบ 1 ปี เชื่อว่าทางญาติก็ยังคงอาลัยกับการสูญเสียสมาชิกในครอบครัวที่จากไปไม่มีวันกลับ สาเหตุส่วนหนึ่งอาจจะมาจากอารมณ์ชั่ววูบ อีกส่วนหนึ่งมาจาก "ทูตมรณะ" ในมือ ก็คืออาวุธปืน หากมีสติเลือกใช้อย่างถูกวิธี ก็จะสามารถนำมาใช้ "ปกป้อง" ดีกว่าใช้ "ประหัตประหาร" กัน