บริษัทไชน่ากินรวบ 2 หมื่นล้าน 29 โครงการรัฐ ยังลุ้นปาฏิหาริย์กู้ซากตึก สตง.ถล่ม (คลิป)

สุดอึ้ง เปิด 29 โครงการรัฐที่ บ.ไชน่าฯคว้าไป มีตั้งแต่วงเงิน 100 ล.ขึ้น มากสุดคือโครงการรถไฟความเร็วสูงกรุงเทพฯ-โคราช วงเงิน 9 พันกว่าล้านบาท ขณะที่ตึก สตง.ที่ถล่มพบว่าต่ำกว่าราคากลางที่ตั้งไว้ 2,500 ล้านบาท ด้าน “ทวี” มั่นใจหลังดีเอสไอรับเป็นคดีพิเศษ เร่งล่า 3 คนไทย กรรมการผู้ถือหุ้นมาสอบปากคำ ตั้งปมไม่พบว่ามีอาชีพรับเหมา ก่อสร้าง ยันทำคดีเร็ว บนพยานหลักฐานยอมรับยังขาด การบูรณาการทางกฎหมาย ส่วนการค้นหาผู้ติดใต้ซาก ทีมกู้ภัยเร่งรื้อโครงเหล็กเส้นเปิดทางหาโพรงพร้อมสอดท่ออากาศหายใจเข้าไปในจุดที่ได้ยินเสียงตอบรับของผู้หญิงขอความช่วยเหลือก่อนหน้า เผยทีมกู้ภัย นานาชาติบางส่วนถอนตัวแล้ว “ชัชชาติ” ระบุไม่กระทบ ภารกิจ เพราะพูดคุยกันทุกคืนเชื่อมั่นกู้ภัยไทยทำงานได้ พร้อมปรับแผนรื้อขนย้ายซากอาคารควบคู่ไปกับการค้นหา เผยพบอีก 2 ศพ ถูกซากตึกทับ ด้าน “ก้อง ห้วยไร่” เล่นกีตาร์ร้องเพลงให้กำลังใจญาติผู้ประสบภัย ขณะที่มีศิลปินต่อแถวร่วมเป็นจิตอาสา

จากเหตุอาคารก่อสร้างสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) 30 ชั้น ย่านถนนกำแพงเพชร เขตจตุจักร กทม. ถล่มฝังทั้งเป็นคนงานร่วมร้อยคนเป็นผลพวงมาจากการเกิดเหตุแผ่นดินไหว ใกล้เมืองมัณฑะเลย์ ประเทศเมียนมา เมื่อวันที่ 28 มี.ค. เจ้าหน้าที่หลายหน่วยงานอยู่ระหว่างเร่งช่วยเหลือผู้ที่ติดค้างอยู่ใต้ซากปรักหักพังที่กองเป็นภูเขาปูนลูกย่อมๆอย่างเร่งด่วน ล่าสุดทีมกู้ภัยทั้งไทยและต่างประเทศที่ร่วมช่วยค้นหาพบแล้ว 15 ศพ เป็นชาย 8 ราย หญิง 7 ราย ยังลุยค้นหาที่สูญหายอีก 79 ชีวิต หวังปาฏิหาริย์โดยเฉพาะที่โซนบีเมื่อทีมกู้ภัยได้ยินเสียงขอความช่วยเหลือจากผู้ติดใต้ซากตึกเป็นหญิง กลางดึกวันที่ 2 เม.ย.ทีมช่วยเหลือเร่งเจาะแผ่นปูนหาทางเข้าไปจนกระทั่งทั้งวันต่อมายังไปไม่ถึงตัวแต่ไร้เสียงตอบรับแล้ว ด้าน รมว.พาณิชย์เผยผลตรวจ 2 บริษัท “ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10-ซิน เคอ หยวน สตีล” เกี่ยวข้องสร้างตึก สตง. พบ 2 บริษัทมีเครือข่ายรวม 37 บริษัท ส่งข้อมูลให้ดีเอสไอสาวต่อ จี้ตรวจสอบ 29 โครงการรัฐที่ 2 บริษัทและเครือข่ายก่อสร้างมูลค่ากว่า 1 หมื่นล้านบาท ป้องกันความเสียหาย ขณะที่ดีเอสไอเดินหน้าสอบคดีนอมินี สรรพากรโร่แจ้ง บ.เหล็ก SKY ปลอมใบกำกับภาษี 58-60 ตามที่เสนอข่าวไปนั้น

ใช้ท่อส่งอากาศเข้าโพรง

ความคืบหน้าในการช่วยเหลือผู้ติดใต้ซากตึกก่อสร้าง สตง.ถล่ม ต่อมาเวลา 22.30 น. วันที่ 3 เม.ย. ทีมกู้ภัยอิสราเอลมุดเข้าไปตรวจสอบหลังพบโพรงข้างบันไดหนีไฟในพื้นที่โซน B จุดที่ถูกระบุว่าได้ยินเสียงตอบโต้เป็นเสียงผู้หญิง เมื่อคืนวันที่ 2 เม.ย. ทีมกู้ภัยได้ส่งท่ออากาศเข้าด้านในโพรงที่อยู่ลึกลงไป เพื่อให้ผู้ประสบภัยที่คาดว่ายังมีชีวิตอยู่มีอากาศหายใจ ขณะเดียวกันยังคงใช้เครื่องมือเดินเท้าเจาะทะลวงแผ่นปูนและตัดเหล็กเส้นเพื่อให้เข้าไปถึงโพรงดังกล่าวให้ได้คาดหวังว่าจะพบผู้รอดชีวิต ภาพรวมตอนนี้พบประมาณ 3-4 โพรงแล้ว ยังไม่สามารถระบุได้ว่าจะเชื่อมหากันหรือไม่และมีสัญญาณชีพภายในโพรงหรือไม่ อุปสรรคคือเศษซากอาคารที่ทรุดกีดขวางทางรวมทั้งเศษปูนที่ร่วงลงมาเป็นระยะๆเป็นฝุ่นละอองในพื้นที่ที่ส่งผลต่อเจ้าหน้าที่เอง แต่ยังไม่พบปัญหาซากอาคารทรุดตัว

“ชัชชาติ” ระบุยังไปไม่ถึงต้นเสียง

ต่อมาเวลา 09.00 น.วันที่ 4 เม.ย. ที่กองอำนวยการร่วม สน.บางซื่อ ห้างสรรพสินค้า JJ mall นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม. รศ.ทวิดา กมลเวชช รองผู้ว่าฯ กทม. นางวันทนีย์ วัฒนะ ปลัด กทม. น.ส.ภัทร์กร สินสุข ผู้อำนวยการเขตจตุจักร และนายสุริยชัย รวิวรรณ ผอ.สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ร่วมแถลงความคืบหน้า โดยนายชัชชาติกล่าวว่า เจ้าหน้าที่ยังเข้าไม่ถึงจุดที่คาดว่าจะมีสัญญาณผู้ที่ติดค้างอยู่ได้เพราะแม้จะขุดลึกไปมากเพียงใดยังเจออุปสรรคเป็นเหล็กและโพรงแคบ

พบอีก 2 ศพ ถูกซากตึกทับ

ผู้ว่าฯ กทม.กล่าวต่อว่า เมื่อวานเจ้าหน้าที่พบโพรงขนาดใหญ่ที่จุด C ด้านขวาหลัง เป็นโพรงที่คาดว่าจะเป็นโถงลิฟต์ ได้ส่งทีมเข้าไปพบร่างผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 2 ร่างยังนำออกมาไม่ได้ เพราะอุปสรรคคือพบโครงสร้างทับร่างของผู้เสียชีวิต ยืนยันทุกคนไม่เสียกำลังใจแม้จะยังไม่สามารถช่วยเหลือผู้ติดค้างได้เพิ่มเติม

น.1 ประชุมร่วม พฐ.เก็บหลักฐาน

ไล่เลี่ยกันที่กองอำนวยการร่วม สน.บางซื่อ ห้างสรรพสินค้า JJ mall ใกล้อาคาร สตง.ถล่ม พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผบช.น. พล.ต.ต.วาที อัศวุตมางกุร ผบก.พฐก. ประชุมเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง เจ้าหน้าที่ สพฐ.กลาง เพื่อตรวจสอบและเก็บรวบรวมพยานหลักฐานที่ได้จากซากสร้างอาคาร ทั้งเหล็กเส้น แท่นปูน เสาปูน นำไปเป็นวัตถุพยานในการตรวจสอบหาสาเหตุอาคารถล่ม โดยมาร์กจุดให้ทีมรื้อถอนนำวัตถุพยานจากจุดนั้นๆส่งมอบให้กับเจ้าหน้าที่

“ก้อง ห้วยไร่” ดีดกีตาร์กล่อมญาติ

เวลา 15.00 น. นายอัครเดช ยอดจำปา หรือก้อง ห้วยไร่ ศิลปินนักร้องชื่อดัง เดินทางมาที่เต็นท์พักคอยญาติผู้ประสบภัยอาคาร สตง.ถล่ม ข้างห้างเจเจมอลล์ จตุจักร ร้องเพลงสร้างกำลังใจให้ญาติผู้ประสบภัยที่พักผ่อนอยู่ด้านในอย่างมีความหวัง พร้อมกล่าวว่า อยากมาให้กำลังใจตั้งแต่วันแรก แต่ยังไม่อยากจะเข้ามารบกวนการทำงานของเจ้าหน้าที่ มองว่าตอนนี้เจ้าหน้าที่ต้องสู้กับหลายอย่าง ทั้งเรื่องของการแข่งกับเวลาและมลภาวะ วันนี้เลยอยากจะเข้ามาเล่นกีตาร์มาร้องเพลงให้กับครอบครัวผู้ประสบภัยได้ฟังคลายความกังวลใจ ให้พวกเขาได้ใช้ชีวิตต่ออย่างมีความหวังได้ รู้สึกเป็นสิ่งที่อยากจะทำมากๆในสถานการณ์แบบนี้ แล้วเงินทุนต่างๆที่เอามาช่วยเหลือได้รับการสนับสนุนจากแฟนๆหน้าเวที รวมถึงพลังใจจากแฟนคลับทางบ้าน และรู้สึกชื่นชมในการทำงานจิตอาสาของ “กัน จอมพลัง” วันนี้เลยอยากจะมาเป็นลูกสมุนตัวเล็กๆ ที่จะช่วยเยียวยาจิตใจของครอบครัวผู้ประสบภัยได้

เผยกู้ภัยต่างชาติถอนตัว

ต่อมาเวลา 16.00 น. วันที่ 4 เม.ย. นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม. เปิดเผยว่า ภารกิจวันนี้ยังคงดำเนินอย่างต่อเนื่อง แต่ทีมนานาชาติจะถอนตัว เนื่องจากมีการกำหนดภารกิจแบบมีระยะเวลา อาจมีบางส่วนที่ยังอยู่ตามภารกิจที่จำเป็น เหตุผลเนื่องจากต้องไปช่วยภารกิจทั่วโลกเพราะเป็นการทำงานแบบเซอร์วิสในหลายประเทศ ภารกิจหลักๆเป็นภารกิจช่วยชีวิต ภารกิจนี้ทีมนานาชาติไม่ได้มองว่ายาก มองว่ามีความซับซ้อนมาก ทุกคนถูกฝึกมาให้ปฏิบัติภารกิจแบบเต็มที่ ก่อนถอนภารกิจได้มอบหมายและรีบนำข้อมูลต่างๆให้กับทีมกู้ภัยของไทย

ยังเชื่อน่าจะมีปาฏิหาริย์

นายชัชชาติกล่าวต่อว่า ส่วน 2 ร่างผู้สูญหายที่ยังนำออกมาไม่ได้ ยังอยู่ระหว่างดำเนินการ ไม่ได้อยู่ลึกมากแต่ติดอุปสรรคโครงสร้างมีแผ่นคอนกรีตทับอยู่ ส่วนเรื่องของเสียงยังมีหวังแต่ตอนนี้ที่สัญญาณเสียงหายไปผู้สูญหายอาจอยู่ในภาวะอ่อนแอหรือสลบ ส่วนตัวหวังว่าแรงงานน่าจะมีกระติกน้ำหรืออุปกรณ์อะไรที่จะสามารถประทังชีวิตอยู่ได้ เชื่อว่าน่าจะมีปาฏิหาริย์ที่ผู้สูญหายอาจมีชีวิตรอดอยู่ได้นานทุกอย่างเกิดขึ้นได้ ดังนั้น แต่ละช่วงเวลารื้อถอนและกู้ชีพจะต้องทำควบคู่กันไป

เหมือนรถถังกับทหารราบ

ผู้ว่าฯ กทม.กล่าวต่อว่า ตลอดทั้งวันเน้นการใช้เครื่องมือหนักเพื่อดูว่ายังมีผู้สูญหายอยู่ในจุดไหน หากเจอสัญญาณกู้ภัยจะเข้าตรวจสอบ “จะทำงานเหมือนรถถังกับทหารราบ” ทำแบบนี้สลับกันไปดูโซนลำดับความสำคัญว่าจุดไหนมีความเสี่ยงถล่มลงมาน้อยที่สุดและมีความหวังว่าจะเจอผู้สูญหายมากที่สุดจะเริ่มทำในจุดนั้นเป็นหลัก ส่วนการปรับแผนใช้เครื่องจักรหนักอยู่ระหว่างดำเนินการ มีการเก็บหลักฐานควบคู่กันไปซึ่งตอนนี้ได้ให้เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเก็บหลักฐานบางส่วน หากครบแล้วหรือเพียงพอจะเดินหน้าเครื่องจักรใหญ่ต่อไป

ขอบคุณทีมกู้ภัยนานาชาติ

ต่อมาเวลา 17.30 น. เจ้าหน้าที่กู้ภัยนานาชาติ ประเทศอิสราเอล ถอนกำลังออกจากพื้นที่ มีผู้ว่าฯ กทม.เดินทางออกมาขอบคุณ และส่งเดินทางกลับ สำหรับทีมกู้ภัยนานาชาติ อาทิ ประเทศอิสราเอล ได้เข้ามาปฏิบัติภารกิจ ส่งผู้เชี่ยวชาญเข้ามาตั้งแต่วันแรก ซึ่งอยู่ปฏิบัติภารกิจรวมประมาณ 1 สัปดาห์ ส่วนจะกระทบกับภารกิจที่จะดำเนินการต่อหรือไม่ นายชัชชาติยืนยันว่า ไม่กระทบ ตลอดภารกิจได้พูดคุยกันทุกคืน ในแต่ละวันทีมผู้เชี่ยวชาญจะบอกว่าจะดำเนินการในส่วนไหนอย่างไร

“ทวี” จี้ดีเอสไอสอบหาเหตุถล่ม

ส่วนการสอบสวนหาเบื้องหลังสาเหตุอาคารก่อสร้างตึก สตง.ถล่ม เมื่อเวลา 09.00 น. วันเดียวกัน ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม เผยหลังเป็นประธานประชุมวางแนวทางการสอบสวนสืบสวนคดีพิเศษที่ 32/2568 ครั้งที่ 1 ว่า ถือเป็นโศกนาฏกรรมครั้งยิ่งใหญ่ พื้นที่ประเทศไทยมี 320 ล้านไร่ แต่กลับต้องโฟกัสพื้นที่ในอาคาร สตง. ประมาณ 11 ไร่ เป็นเรื่องที่ต้องรวบรวมพยานหลักฐานและพิสูจน์ข้อเท็จจริงว่าสาเหตุเกิดจากอะไร เมื่อได้สาเหตุแท้จริงแล้วจะดูต่อได้ว่าทำผิดกฎหมายอะไรบ้าง ปกติแล้วพนักงานสอบสวนจะทำงานเกี่ยวข้อง 3 เรื่อง คือ 1.พยานบุคคล 2.พยานเอกสาร และ 3.พยานวัตถุ ทั้งนี้ ด้วยความที่ไม่ได้มีใครเก่งไปทั้งหมด ต้องใช้พยานผู้เชี่ยวชาญ ที่สำคัญกฎหมายมาแบ่งเป็นอาณานิคมของกฎหมายใครกฎหมายมัน เวลาเกิดเหตุขึ้น การบริหารจัดการมีความยาก ทุกหน่วยงานมีอาณา นิคมตัวเอง การทำงานของพนักงานสอบสวนในวันนี้เป็นเรื่องที่ท้าทาย

บุกบ้าน “ประจวบ” หุ้นอำพราง

พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ อธิบดีดีเอสไอ กล่าวว่า นอกจากความผิดคดีนอมินีที่ดีเอสไอรับเป็นคดีพิเศษ ยังมีความผิดอื่นพิจารณาควบคู่คือ ความผิดว่าด้วยการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ (ฮั้วประมูล) ต้องดูในส่วนคนไทยที่ไปถือหุ้นต้องพิสูจน์ว่าถือหุ้นโดยอำพรางหรือไม่ จากการตรวจสอบเบื้องต้น ได้ไปที่บ้านพักนายประจวบ ศิริเขตร ใน อ.โพนทราย จ.ร้อยเอ็ด แต่ไม่พบเจอเพียงภรรยาให้ข้อมูลว่า นายประจวบทำงานรับจ้างก่อสร้าง ได้เงินเดือนหมื่นกว่าบาท อีกทั้งกลับมาถึงบ้านก็ไม่ได้พูดคุยถึงเรื่องตึก สตง. ถล่มให้ฟังว่าเกี่ยวข้องอย่างไร ก่อนออกจากบ้านไป 2-3 วันก่อนหน้านี้ โดยไม่ได้แจ้งว่าไปที่ไหนอย่างไร ดูแนวโน้มเบื้องต้น ไม่สอดคล้องกับการที่ไปถือหุ้นในนิติบุคคลหลายๆ แห่ง นี่เป็นสิ่งบ่งชี้ที่น่าเชื่อได้ว่าเป็นการถือหุ้นอำพรางหรือนอมินี นอกจากนี้ ในกรณีกรรมการผู้ถือหุ้นชาวไทยอีก 2 ราย ที่เหลือ คือ นายโสภณ มีชัย และนายมานัส ศรีอนันท์ เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างติดตามตัวเช่นเดียวกัน

โฟกัสคดีนอมินีเป็นหลัก

อธิบดีดีเอสไอกล่าวอีกว่า คณะพนักงานสอบสวนได้จัดทำโครงสร้างรายชื่อกิจการร่วมค้าที่ บ.ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 (ประเทศไทย) จำกัด ที่ไปเข้าร่วมกับนิติบุคคลหลายแห่ง แต่ช่วงแรกจะโฟกัสไปที่กิจการร่วมค้าที่ไปร่วมกับ บ.อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) ผู้ชนะในการแข่งขันราคากรณีก่อสร้างตึก สตง. ยังอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน ส่วนสัญญาที่บริษัท ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 (ประเทศไทย) จำกัด เข้าร่วมค้าและได้รับงานจากภาครัฐ ตั้งแต่ปี 2562-2567 จำนวน 29 สัญญา อยู่ระหว่างตรวจสอบ ตอนนี้ยังโฟกัสที่คดีนอมินีเป็นหลัก

ดูเส้นทางเหล็กจาก โรงงาน–บริษัทสร้างตึก

อธิบดีดีเอสไอเผยอีกว่า ส่วนกรณีบริษัท ซิน เคอ หยวน สตีล จำกัด (Xin Ke Yuan Co., Ltd.) ดีเอสไอจะตรวจสอบถึงประเด็นที่เป็นผู้จำหน่ายเหล็กให้กับบริษัทที่เกิดเหตุ เนื่องจากกระทรวงอุตสาหกรรมไปตรวจสอบแล้วพบสินค้าบางรายการที่ไม่ได้คุณภาพตามมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (มอก.) ส่วนเรื่องฝุ่นแดงของเหล็ก เป็นความผิดเกี่ยวกับการออกใบกำกับภาษีปลอม เป็นเรื่องที่ต้องไปดำเนินการขั้นตอนต่อไป

รวบรวมข้อพิรุธไว้ในสำนวน

ปัจจุบันทราบว่าที่ทำการของบริษัท ไชน่า เรลเวย์ฯ มีการใช้ที่อยู่เดียวกันในหลายที่ อย่างที่อาคารในซอยพุทธบูชา 44 แขวงบางมด เขตทุ่งครุ กทม. ดีเอสไอไปตรวจสอบพบว่านอกจากบริษัท ไชน่า เรลเวย์ฯ จะใช้เป็นสำนักงานแล้ว ยังมีอีก 4-5 นิติบุคคลที่มาใช้เป็นสำนักงานด้วยเช่นกัน สิ่งนี้เป็นข้อพิรุธที่รวบรวมไว้ในสำนวนการสอบสวน ส่วนสำนักงานที่แท้จริงของ บ.ไชน่า เรลเวย์ฯ จะอยู่ที่ใดนั้น ขอตรวจสอบให้ครบถ้วน ทั้งนี้ ในส่วนของเอกสารต่างๆที่ตำรวจได้ยึดไว้เกี่ยวกับโครงการก่อสร้าง สตง. จะต้องประสานเรื่องเอกสาร เพราะเมื่อรับเป็นคดีพิเศษแล้ว จะต้องโอนเอกสารทั้งหมดที่เกี่ยวข้องในคดีให้ดีเอสไอ ตอนนี้ดีเอสไอยังไม่เห็นเอกสารเกี่ยวกับโครงการก่อสร้าง คาดว่าสัปดาห์หน้า จะออกหมายเรียกพยานกลุ่มแรกมาสอบปากคำได้ แต่ขอเวลาได้ตรวจสอบสักระยะ

3 คนไทยถือหุ้นไม่ได้ทำรับเหมา

น.ส.กนกไรวินท์ บุรินทร์นันท์ ผู้เชี่ยวชาญด้านการตรวจสอบบัญชี กล่าวว่า จากการติดตามผู้ถือหุ้นชาวไทยทั้ง 3 ราย คือ นายประจวบ นายโสภณ และนายมานัส พบว่าเป็นผู้ถือหุ้นและผู้ก่อตั้งตั้งแต่มีการก่อตั้งนิติบุคคลเกิดขึ้น กรณีนายมานัส ในช่วงแรกของการก่อตั้งนิติบุคคล เคยถือหุ้นถึง 360,000 หุ้น แต่ได้โอนไปให้นายโสภณ ทำให้เหลือหุ้นเพียง 0.0003 ดีเอสไออยู่ระหว่างติดตามว่าการโอนหุ้นระหว่างสองคนนี้เป็นการซื้อขายหุ้นแท้จริงหรือไม่ ประกอบกับบุคคลทั้งสามที่เป็นผู้ถือหุ้น เท่าที่ทราบยังไม่เคยประกอบอาชีพในเรื่องของการรับเหมาก่อสร้างมาก่อน แล้วเข้ามาเป็นผู้ถือหุ้นของบริษัทขนาดใหญ่ ทั้งยังรับงานภาครัฐ รวมไปถึงนายโสภณยังเป็นผู้บริหารงานร่วมกับชาวจีนอีกหนึ่งราย ดีเอสไออยู่ระหว่างตรวจสอบเอกสารเพิ่มเติม

อึ้งคว้างานรัฐ 29 โครงการ

ร.ต.อ.สุรวุฒิ รังไสย์ รองอธิบดีดีเอสไอ กล่าวว่า สำหรับพฤติการณ์การเป็นนอมินีแล้วผันตัวไปเป็นกิจการร่วมค้า เป็นการแสดงเอกสารอันเป็นเท็จเพื่อจะเข้าประมูลงานของภาครัฐหรือไม่ ประเด็นนี้ยังเป็นประเด็นน่าสงสัย เพราะตรวจสอบพบว่าบริษัท ไชน่า เรลเวย์ฯ ประมูลงานของภาครัฐได้ 29 โครงการ เป็นเงินรวม 22,000 ล้านบาทในโครงการตามสัญญา เราสามารถพิสูจน์ได้ทั้งหมด มันจะทำให้เห็นความชัดเจน เนื่องจากเขาได้มีการแสดงเอกสารว่าเป็นคนไทย และเป็นคนไทยที่ยังไม่เคยมีประสบการณ์ทางด้านการประมูลงาน แต่ได้มาร่วมค้ากับคนไทยที่มีประสบการณ์ทางด้านการประมูลงานมาก่อน

รถไฟเร็วสูงวงเงิน 9 พัน ล.ด้วย

ร.ต.อ.สุรวุฒิกล่าวอีกว่า ที่ต้องตรวจสอบว่าคนไทยเหล่านี้รู้เห็นเป็นใจหรือไม่ จะพยายามค้นหา ความจริงทั้งหมด เพราะท้ายสุดแล้วโครงการทั้ง 29 โครงการนี้ ล้วนได้ก่อสร้าง เพราะโครงการสุดท้าย โครงการที่ 29 พบว่าเป็นโครงการก่อสร้างรถไฟความเร็วสูง กรุงเทพฯ-นครราชสีมา วงเงิน 9,348 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม ขอเวลาในการตรวจสอบข้อเท็จจริงทั้งหมดไม่เกินสองเดือน เพราะรายละเอียดค่อนข้างเยอะ แต่จะทำให้ต่อจิ๊กซอว์ได้ว่าเหตุใดต้องเป็นต่างด้าวแล้วมาอำพรางเป็นคนไทย แล้วทำไมต้องเข้ามาเป็นกิจการร่วมค้าในประเทศไทย เหตุใดจึงไม่เข้าร่วมประมูลโครงการด้วยตัวเอง ทั้งที่กล่าวอ้างว่าเป็นคนไทย แล้วทำไมต้องมาร่วมประมูลกับบริษัทที่มีชื่อเสียง เพื่อให้รัฐเชื่อมั่นในเรื่องของการประมูล จนเกิดเหตุ ทั้งยังเป็นอาคารก่อสร้างเพียงแห่งเดียวที่อยู่ห่างจากจุดแผ่นดินไหว และเป็นอาคารสูงที่สุดแล้วเกิดถล่มลงมา

ตึก สตง.เสนอต่ำกว่าราคากลาง

เมื่อถามว่าพฤติการณ์บริษัท ไชน่า เรลเวย์ฯ ที่ผ่านมายอมขาดทุนในโครงการประมูลงานภาครัฐเพื่อที่จะสะสมผลงาน สร้างความน่าเชื่อถือจนเข้าสู่การประมูลโครงการรัฐขนาดใหญ่ใช่หรือไม่ ร.ต.อ.สุรวุฒิกล่าวว่า โครงการก่อสร้าง สตง.ราคากลางพบว่า 2,500 ล้านบาท แต่ประมูลได้ราคา 2,136 ล้านบาท อยู่ในเกณฑ์ 15% ไม่เลยกฎเกณฑ์ที่ไทยกำหนด แต่ภาษานักก่อสร้างเรียกว่าเป็นการฟันงานเพื่อจะบีบตัวเองลงมา ทั้งที่จริงๆแล้วราคากลางของการก่อสร้างตึก สตง.เข้มข้นมาก ราคา 2,500 ล้านบาท ถือเป็นมาตรฐานเกณฑ์ขั้นต่ำแล้ว แต่ทำไมยังดีดราคาลงมาได้ถึง 300-400 ล้านบาท เป็นสิ่งที่ต้องค้นหาความจริงว่าบริษัทนำความอันเป็นเท็จหรือแสดงข้อเท็จจริงอย่างไรที่ทำให้รัฐหลงผิด สำหรับ 11 กิจการร่วมค้าที่ได้ไปร่วมกับ บ.ไชน่า เรลเวย์ฯ จะถูกตรวจสอบ สอบสวนด้วยเช่นกัน เพราะถ้าพบความผิด แล้วผิดคนเดียวก็จะเป็นเรื่องยาก ยืนยันว่ากรรมการในบริษัทอื่นๆเหล่านี้ยังไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง เพียงแต่แสดงให้เห็นว่ามีแผนประทุษกรรมในลักษณะนี้

เปิด 29โครงการรัฐในมือ

ส่วนรายชื่อโครงการก่อสร้างที่บริษัท ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 (ประเทศไทย) จำกัด ได้ประมูลก่อสร้างอาคารภาครัฐ 29 โครงการ ประกอบด้วย 1.อาคารพักอาศัยสูง 32 ชั้น ชุมชนดินแดง การเคหะแห่งชาติ กรุงเทพมหานคร วงเงิน 807 ล้านบาท 2.ศูนย์เรียนรู้และพัฒนาสุขภาวะผู้สูงอายุแบบครบวงจร โรงพยาบาลรามาธิบดี กรุงเทพมหานคร วงเงิน 563 ล้านบาท 3.เปลี่ยนระบบสายไฟฟ้าอากาศเป็นสายไฟฟ้าใต้ดิน ถนนอรุณอมรินทร์-บรมราชชนนี-พรานนก การไฟฟ้านครหลวง กรุงเทพมหานคร วงเงิน 1,261 ล้านบาท 4.อาคารที่ทำการสถานีตำรวจ สน.สุทธิสาร กรุงเทพมหานคร วงเงิน 139 ล้านบาท

5.อาคารบ้านพักส่วนกลาง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ลือชา) กรุงเทพมหานคร วงเงิน 231 ล้านบาท 6.อาคารที่ทำการศาลแรงงานกลาง สำนักงานศาลยุติธรรม กรุงเทพมหานคร วงเงิน 467 ล้านบาท 7.ระบบรวบรวมน้ำเสียเพิ่มเติม ริมคลองแสนแสบ กรุงเทพมหานคร วงเงิน 541 ล้านบาท 8.วางท่อประปาและงานที่เกี่ยวข้อง การประปานครหลวง กรุงเทพมหานคร วงเงิน 347 ล้านบาท 9.อาคารที่ทำการศาลแพ่งมีนบุรีและศาลอาญามีนบุรี สำนักงานศาลยุติธรรม กรุงเทพมหานคร วงเงิน 782 ล้านบาท 10.หอพักนักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต จังหวัดภูเก็ต วงเงิน 129 ล้านบาท

กวาดเรียบวงเงิน 100–1,000 ล้าน

11.ทาวน์โฮมสองชั้น โครงการเคหะชุมชนและบริการชุมชนจังหวัดภูเก็ต วงเงิน 343 ล้านบาท 12.อาคารการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจังหวัดภูเก็ต วงเงิน 210 ล้านบาท 13.อาคารชุดพักอาศัยข้าราชการตุลาการศาลอุทธรณ์ภาค 9 จังหวัดสงขลา วงเงิน 386 ล้านบาท 14.อาคารผู้ป่วยนอกและอุบัติเหตุโรงพยาบาลสงขลา วงเงิน 424 ล้านบาท 15.อาคารที่พักผู้โดยสารหลังใหม่ท่าอากาศยานนราธิวาส วงเงิน 639 ล้านบาท 16.งานเสริมเสถียรภาพและป้องกันน้ำท่วมตามแนวคลองประปาจังหวัดปทุมธานี วงเงิน 194 ล้านบาท 17.ระบบป้องกันน้ำท่วมบริเวณโดยรอบสถานีสูบน้ำดิบสำแล จังหวัดปทุมธานี วงเงิน 372 ล้านบาท 18.สำนักงานทรัพยากรน้ำ แห่งชาติ (สนทช.) จังหวัดนนทบุรี วงเงิน 716 ล้านบาท 19.อาคารคลังพัสดุสถาบันการแพทย์จักรีนฤบดินทร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี กรุงเทพมหานคร วงเงิน 146 ล้านบาท 20.อาคารกองบังคับการกรมพลาธิการทหารเรือ กรุงเทพมหานคร วงเงิน 179 ล้านบาท

รถไฟเร็วสูงเฉียด 1 หมื่นล้าน

21.สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (แห่งใหม่) กรุงเทพมหานคร วงเงิน 2,136 ล้านบาท 22.อาคารเรียนและสิ่งปลูกสร้างของโรงเรียนวัดอัมรินทราราม กรุงเทพ มหานคร วงเงิน 160 ล้านบาท 24.อาคารสถาบันวิชาการ (PEA ACADEMY) การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค จังหวัดนครปฐม วงเงิน 606 ล้านบาท 25.ศูนย์ราชการจังหวัดแพร่ วงเงิน 540 ล้านบาท 26.การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) วงเงิน 608 ล้านบาท 27.แขวงทางหลวงชนบทสุพรรณบุรี วงเงิน 10.7 ล้านบาท 28.แขวงทางหลวงชนบทสุพรรณบุรี วงเงิน 9.9 ล้านบาท 29.รถไฟความเร็วสูง กรุงเทพมหานคร-นครราชสีมา จ.นครราชสีมา วงเงิน 9,348 ล้านบาท

ตามล่า 3 กก. ถือหุ้นคนไทย

มีรายงานว่า หลังจากที่อธิบดีดีเอสไอได้รับคดีนอมินีเป็นคดีพิเศษ ได้มุ่งเป้าไปที่ประเด็น 3 กรรมการผู้ถือหุ้นชาวไทยในบริษัท ไชน่า เรลเวย์ฯ ได้แก่ นายโสภณ มีชัย ถือหุ้น 40.7997 เปอร์เซ็นต์ นายประจวบ ศิริเขต ถือหุ้น 10.2 เปอร์เซ็นต์ และ นายมานัส ศรีอนันท์ ถือหุ้น 0.0003 เปอร์เซ็นต์ เจ้าหน้าที่ดีเอสไอลงพื้นที่ติดตามตัวกรรมการคนไทยบางรายไปยังภาคตะวันออกเฉียงเหนือแล้ว เพื่อเตรียมเรียกสอบสวนปากคำตามขั้นตอน

เปิดรายชื่อกิจการร่วมค้า บ.ไชน่าฯ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษได้จัดทำแผนผังโครงสร้างรายชื่อกิจการร่วมค้าที่ บจก.ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 (ประเทศไทย) จำกัด เข้าร่วมก่อสร้างโครงการของรัฐ ดังนี้ 1.กิจการร่วมค้า AKC 2.กิจการร่วมค้า RCH 3.กิจการร่วมค้า ซีไอเอส 4.กิจการร่วมค้า ดับบลิว จี ซี 10 คอนสตรัคชั่น 5.กิจการร่วมค้า ดีวายซีอาร์ คอนสตรัคชั่น 6.กิจการร่วมค้า ทีพีซี 7.กิจการร่วมค้า อาร์เเอลจี 8.กิจการร่วมค้า เอ จี ซี 10 คอนสตรัคชั่น 9.กิจการร่วมค้า เอ ซี คอนสตรัคชั่น 10.กิจการร่วมค้า ไอทีดี ซีอาร์อีซี และ 11.กิจการร่วมค้า เอ็นซีอาร์อีซี

ทูตจีนยัน บ.ไชน่าทำตาม TOR

วันเดียวกัน โฆษกสถานเอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทยตอบคำถามสื่อมวลชน ต่อกรณีการวิพากษ์วิจารณ์บริษัทจีนในประเทศไทยถึงเหตุการณ์อาคารถล่ม ซึ่งบริษัท ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 (ประเทศไทย) มีส่วนร่วมในการก่อสร้าง ระบุว่า อาคารที่บริษัท ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 (ประเทศไทย) มีส่วนร่วมในการก่อสร้างเกิดถล่มเนื่องจากแผ่นดินไหว ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บ เหตุการณ์นี้ได้รับการจับตามองอย่างกว้างขวางจากสังคมไทย และรัฐบาลไทยกำลังสอบสวนหาสาเหตุของการถล่มดังกล่าว ทั้งนี้ กลุ่มกิจการร่วมค้า ไอทีดี-ซีอาร์อีซี นัมเบอร์เทน (ไทย) ซึ่งบริษัท ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 (ประเทศไทย) มีส่วนร่วม ยืนยันว่า การจัดซื้อวัสดุและการก่อสร้างอาคารดังกล่าวได้ดำเนินการตามข้อกำหนดในสัญญาโครงการ (TOR) กฎหมายที่เกี่ยวข้อง มาตรฐานทางวิศวกรรม และหลักปฏิบัติทางวิศวกรรมที่ดีอย่างเคร่งครัด เพื่อให้มั่นใจในคุณภาพและความปลอดภัยของโครงการ ขณะนี้กลุ่มกิจการร่วมค้า ไอทีดี-ซีอาร์อีซีนัมเบอร์เทน (ไทย) ได้ให้ความร่วมมือในการสอบสวนอย่างเต็มที่กับรัฐบาลไทยเชื่อว่าจะได้ข้อสรุปที่เป็นวิทยาศาสตร์และยุติธรรม รวมทั้งสนับสนุนให้มีการตรวจสอบและดำเนินคดีกับพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมของบางบริษัทตามกฎหมาย และคัดค้านการใส่ร้ายป้ายสีและบิดเบือนข้อเท็จจริงกับบริษัทจีน

ยูเอ็นชี้พม่ากระทบกว่า 17 ล.คน

วันเดียวกัน สถานีวิทยุและโทรทัศน์เมียนมาเผยยอดผู้เสียชีวิตจากแผ่นดินไหวรุนแรงเมื่อวันที่ 28 มี.ค. เพิ่มขึ้นเป็นอย่างน้อย 3,145 ราย บาดเจ็บ 4,589 คน และยังสูญหาย 221 คน ขณะที่กรมอุตุนิยมวิทยาและอุทกวิทยาเมียนมารายงานว่าเกิดอาฟเตอร์ช็อกในเมียนมาเมื่อวันที่ 3 เม.ย. รวม 66 ครั้ง มีขนาดความรุนแรงตั้งแต่ขนาด 2.8 ถึง 7.5 ด้านนายอันโตนิโอ กูเตร์เรส เลขาธิการองค์การสหประชาชาติ เรียกร้องให้นานาชาติให้ความช่วยเหลือแก่เมียนมาเพิ่มเติม หลังจากสำนักงานเพื่อการประสานงานด้านมนุษยธรรมแห่งสหประชาชาติ (OCHA) ประเมินว่ามีประชาชนในเมียนมาได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหวครั้งนี้มากกว่า 17 ล้านคน ในจำนวนนี้เผชิญความเสียหายร้ายแรงที่สุดเกือบ 9 ล้านคน

อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่