เชียงใหม่จมฝุ่นหนัก หมอเล่านาทีช็อก โพรงจมูกคนไข้เต็มไปด้วยเขม่าควันจากไฟป่า

เชียงใหม่จมฝุ่นหนัก PM 2.5 พุ่งสูง คุณหมอเล่านาทีช็อก ส่องกล้องตรวจโพรงจมูกคนไข้แล้วเต็มไปด้วยเขม่าควันจากไฟป่า ชี้เสี่ยงมะเร็งปอด

วันที่ 30 มี.ค. 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คุณภาพอากาศที่จังหวัดเชียงใหม่วิกฤตหนัก ปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 พุ่งสูงไม่หยุด โดยในช่วงสายฝุ่น PM 2.5 ที่ ต.ปิงโค้ง อ.เชียงดาว วัดได้ถึง 866 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร เป็นตัวเลขค่าฝุ่นรายชั่วโมงที่สูงที่สุดของฤดูฝุ่นปีนี้ ส่วนพื้นที่อื่นๆ จมฝุ่นหนาด้วยเช่นกัน ตัวเมืองเชียงใหม่ขาวโพลนไปด้วยหมอกควันตลอดทั้งวัน คุณภาพอากาศย่ำแย่ ค่าฝุ่น PM 2.5 เกินมาตรฐานหลายเท่าอยู่ในระดับสีแดงที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ ทัศนวิสัยการมองเห็นตามท้องถนนลดต่ำลงอย่างชัดเจน

ขณะที่แพทย์หูคอจมูกเผยภาพน่าตกใจ ซึ่งเป็นภาพจากการส่องกล้องตรวจโพรงจมูกของผู้ป่วยชาวอำเภอเชียงดาวที่เต็มไปด้วยคราบสีดำจากเศษเขม่าที่สะสมจากการหายใจในพื้นที่ไฟป่าหมอกควัน ซึ่งภาพที่เห็นทำให้แพทย์ผู้ตรวจถึงกับตกใจเพราะไม่เคยเห็นแบบนี้มาก่อน

ทางด้านแพทย์หญิงธันยธร ธีรนรเศรษฐ์ แพทย์หูคอจมูก คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เจ้าของภาพนี้เผยว่า คนไข้รายนี้อายุประมาณ 50 ปี มีประวัติเป็นโรคภูมิแพ้และมีการนัดตรวจดูอาการเป็นระยะ 3-4 เดือนครั้ง ซึ่งครั้งที่ผ่านๆ มาก็ไม่พบอะไรผิดปกติ แต่ครั้งนี้พบว่าในโพรงจมูกเต็มไปด้วยคราบสีดำขี้เถ้าจากควันไฟป่า ซึ่งเป็นเพียงบางส่วนที่ขนจมูกกรองได้

ทั้งนี้ เชื่อว่าเขม่าควันจากไฟป่าที่เป็นฝุ่นขนาดใหญ่จะเข้าสู่ปอดของผู้ป่วยรายนี้ด้วย ไม่นับรวมฝุ่นพีเอ็ม 2.5 ที่เป็นฝุ่นขนาดเล็กที่มองไม่เห็นที่หายใจเข้าไปทุกวัน ส่วนสาเหตุมาจากผู้ป่วยรายนี้อยู่ในพื้นที่ที่มีการเผาและมีฝุ่นควันจากป่าเป็นจำนวนมากและไม่ได้สวมหน้ากากอนามัยป้องกัน

อย่างไรก็ตาม ฤดูกาลฝุ่นควันปีนี้ สังเกตเห็นว่าคนเชียงใหม่สวมหน้ากากอนามัยป้องกันกันน้อยมาก จึงนำคลิปมาโพสต์ให้ทุกคนตระหนักถึงการป้องกันตัวเองให้มากขึ้น ด้วยการสวมหน้ากากอนามัยป้องกันและหลีกเลี่ยงทำกิจกรรมกลางแจ้งในช่วงคุณภาพอากาศไม่ดี เพราะฝุ่นควันที่หายใจเข้าไปส่งผลต่อสุขภาพเป็นอย่างมาก หากเข้าสู่ปอดมากๆ จะทำให้เกิดอาการไอเรื้อรังและเสี่ยงเป็นมะเร็งปอดได้ในอนาคต.