บริเวณพรมแดนไทย-กัมพูชา โดยเฉพาะพื้นที่ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว และเมืองปอยเปต ประเทศกัมพูชา ได้กลายเป็น “ศูนย์กลางอาชญากรรมไซเบอร์ข้ามชาติ” ซึ่งมี “แก๊งอาชญากรจีน” เป็นผู้บงการ...ประกอบธุรกิจบาปอย่างเปิดเผย

ประเด็นสำคัญมีว่า “แก๊งคอลเซ็นเตอร์” ในพื้นที่นี้ไม่ได้เป็นเพียงแค่กลุ่มมิจฉาชีพธรรมดา แต่เป็นเครือข่ายอาชญากรรมที่เชื่อมโยงกับการค้ามนุษย์ การฟอกเงิน การพนันออนไลน์ และอาชญากรรมข้ามชาติ

คำถามสำคัญมีว่า ทำไม? พื้นที่พรมแดนไทย-กัมพูชาจึงกลายเป็นศูนย์กลางของขบวนการอาชญากรรม จนได้ชื่อว่าเป็น “แดนสวรรค์คอลเซ็นเตอร์”

จับตา 4 เมืองฝั่งเขมร สวรรค์ใหม่แก๊งคอลเซ็นเตอร์

ภารกิจ “SEE TRUE” ทีมข่าวสืบสวนสอบสวน “ไทยรัฐทีวี 32” บุกเขมร ฉายภาพ “ผึ้งแตกรัง” ปฏิกิริยาแก๊งคอลเซ็นเตอร์หนีเอาตัวรอด หลังทางการไทยจ่ายยาแรง ตัดเส้นทางหากินเมียวดี-ปอยเปต พบบอสจีนทั้งหลายไม่เข็ด แม้ตัวยังอยู่ในคุก

ขยายอีก 4 เมืองใหม่ “กำปอต–เกาะกง–เมืองไพลิน– พนมเปญ”

...

ประกอบธุรกิจบาปอย่างเปิดเผย กัมพูชากำลังได้ชื่อว่าเป็น “เมืองสวรรค์สแกมเมอร์ อาณานิคมใหม่จีนเทา” ทบทวนมาตรการปราบคอลเซ็นเตอร์ไทยเพียงพอหรือยัง

“กำปอต” ที่เปลี่ยนไป...“เคยมีคนพยายามหนีจากที่นี่ แต่หนีออกมาได้ไม่ไกลก็โดนจับ เพราะพื้นที่อยู่บนภูเขาล้อมรอบไปด้วยป่าหนาทึบ โดยคนที่หนีถูกยิงทิ้งต่อหน้าคนอื่นๆ เพื่อไม่ให้ใครกล้าคิดหนีอีก”

ทีม SEE TRUE มุ่งหน้าลงใต้สุด จ.กำปอต ประเทศกัมพูชา ไปยัง “ภูเขาโบโกร์” อุทยานแห่งชาติที่นับว่าเป็นสวรรค์บนยอดเขา แต่วันนี้กลายเป็นสวรรค์ของเหล่าอาชญากร ที่กระทำการทารุณอำมหิต ฆ่าข่มขวัญ กลางป่า อีกทั้งเหยื่อยังหมดสิ้นหนทางหนี โดยอาณาจักรสแกมเมอร์นี้มีทั้งหมด 30 อาคาร

หลายอาคารกำลังก่อสร้าง...มีคนกว่า 20,000 ชีวิตอยู่ที่นี่

น่าคิดว่า “ใคร” ที่อนุญาตให้กลุ่มธุรกิจจีนสีดำทุนหนาพวกนี้ รุกคืบเข้ามาตั้งฐานในพื้นที่อุทยานแห่งชาติได้?

พุ่งเป้าไปที่ “เกาะกง-ไพลิน-พนมเปญ” แดนสวรรค์แก๊งคอลเซ็นเตอร์

จับตา 4 เมืองฝั่งเขมร สวรรค์ใหม่แก๊งคอลเซ็นเตอร์

แม้ตัวยังถูกคุมขังในเรือนจำคลองเปรม แต่ “เฉอ จื้อเจียง” เจ้าพ่อแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ยังคงเร่งขยายฐานที่ตั้ง เมืองดาราสกอร์ จ.เกาะกง ประเทศกัมพูชา ที่ดินตรงนี้ถูกเช่าโดยทุนจีนเป็นเวลา 99 ปี โดยทีม SEE TRUE ยังคงมุ่งหน้าต่อไปที่ เรียบชายหาดเกาะกง ประชิดชายแดน จังหวัดตราด พาไปดูตึกสูงราว 10 ชั้น

ภาพที่เห็นตรงหน้า...หลายตึกตั้งอยู่ในทำเลทองถูกโอบล้อมด้วยทะเล ซึ่งเป็นแหล่งกบดานของพวกแก๊งคอลเซ็นเตอร์ แล้วก็พาดูต่อไปยัง “เมืองไพลิน” ติดชายแดนจังหวัดจันทบุรี

น่าสนใจว่าดินแดนแห่งนี้ที่ว่ามาทั้งหมดนั้น เป็นเมืองที่ไม่เคยมีใครขอความช่วยเหลือเพราะคนทำงานที่นี่ “สมัครใจ” และมี “รายได้” ทั้งหมด

ไม่เว้นแม้แต่เมืองหลวงอย่าง “กรุงพนมเปญ” ตึกสูงใจกลางเมือง ถูกใช้สำหรับพักอาศัยและประกอบธุรกิจสแกมเมอร์ ส่วนใหญ่เช่าโดยคนจีน มีการรักษาความปลอดภัยอย่างดี รวมถึง “สีหนุวิลล์”...เสิ่นเจิ้น 2 ที่กัมพูชาหวังสร้างเป็นเมืองท่องเที่ยวระดับโลก ซึ่งเคยมีการกวาดล้างแก๊งคอลเซ็นเตอร์ไปเมื่อปี 2562

แต่...ทุกวันนี้พวก “ทุนจีน” หวนกลับมาที่นี่อีกครั้ง หลังถูกตัดช่องทางหากินที่ “เมียวดี”

ถึงตรงนี้เป็นเวลากว่าหนึ่งเดือนแล้วที่ทางการไทยประกาศสงครามกับเหล่าแก๊งคอลเซ็นเตอร์ทั้งตัดไฟ-ตัดสัญญาณ หมายมั่นว่า...จะทำให้ฐานทัพใหญ่เมืองสแกมเมอร์อย่าง “ปอยเปต” สั่นคลอน

แต่เมื่อทีม SEE TRUE ลงพื้นที่ปอยเปตอีกครั้ง ปรากฏว่า “ทางหมาลอด” หรือช่องทางธรรมชาติ ระหว่างพรมแดน อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว กับเมืองปอยเปต ยังคงถูกใช้ลักลอบพาผู้คนเข้า-ออก

จับตา 4 เมืองฝั่งเขมร สวรรค์ใหม่แก๊งคอลเซ็นเตอร์

...

เพื่อไปเปิดบัญชีม้าและทำงานสแกมเมอร์

สถานการณ์ตรงหน้าพบเห็นหลายตึกอยู่ระหว่างการก่อสร้าง เพื่อรองรับเครือข่ายธุรกิจจีนสีดำทุนหนา คาดว่า...อีกไม่ช้าคงได้เห็นเมืองสแกมเมอร์เจนใหม่ผุดขึ้นมาอีก

ตอกย้ำชัดเจนว่า...“ทางหมาลอด” ชายแดนอรัญฯ-ปอยเปต ยังเปิดใช้งานชนิดที่เรียกได้ว่าเดินกันจนป่าหญ้าเตียนราบ

“แดนสวรรค์คอลเซ็นเตอร์ อาณานิคมใหม่ของแก๊งอาชญากรจีน” สะท้อนภาพชัดเจนไม่พร่ามัวชนิดโกยผลประโยชน์แบบเต็มเม็ดเต็มหน่วย โดยผู้มีอำนาจอยู่เบื้องหลัง

น่าสนใจว่าสิ่งเหล่านี้กำลังทำให้ “กัมพูชา” ถูกมองในแง่ลบจากสายตานานาชาติและคงต้องทบทวนกันต่อถึงนโยบายปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์ของไทยที่ผ่านมาอาจยังไม่เพียงพอและจำเป็นต้องบูรณาการอย่างเต็มกำลังร่วมกับประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อกำจัดแก๊งอาชญากรเหล่านี้อย่างถาวร

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า ปัจจัยที่ทำให้พื้นที่นี้เป็นฐานปฏิบัติการของ “แก๊งอาชญากรจีน” ขยายฐานอาณาจักรได้ขนาดนี้คือการสัญจรที่สะดวก ทำให้การเคลื่อนย้ายบุคคลและทรัพยากรเป็นไปได้ง่าย

“แดนสวรรค์คอลเซ็นเตอร์” ในปอยเปตเป็นมากกว่าศูนย์กลางของแก๊งคอลเซ็นเตอร์จีน แต่มันคืออาณานิคมใหม่ของ “อาชญากรรมไซเบอร์ข้ามชาติ” ที่เชื่อมโยงกับการฟอกเงินและการค้ามนุษย์

ทางการไทยและกัมพูชาต้องร่วมมือกันอย่างจริงจังเพื่อทำลายเครือข่ายนี้ มิฉะนั้น ภูมิภาคนี้จะยังคงเป็นแหล่งอาชญากรรมที่ไม่มีที่สิ้นสุด เราจะปล่อยให้พรมแดนไทย-กัมพูชากลายเป็น “ศูนย์กลางอาชญากรจีน” หรือไม่?...ทางเลือกอยู่ในมือของ “รัฐ” และ “ประชาชนไทย” ทุกคน.

คลิกอ่านคอลัมน์ “สกู๊ปหน้า 1” เพิ่มเติม

...