ผมยังฝังใจจำ ฝีปากคุณภูมิธรรม ชี้แจงในสภาฯ สี่ทุ่มคืนวันเสาร์อยู่ครับ กรณีมุกคำสแลง “กีกี้” ที่คุณวิโรจน์เล่นลิ้นกับ สส. นักประท้วง....คุณภูมิธรรมปักใจว่าเปิดกูเกิลดูแล้วเป็นคำ “หยาบ”
อ๊ะ! หยาบตรงไหน งานนี้คอการเมือง...หลายคนตามคุณวิโรจน์ทัน...กีกี้เป็นคำเรียกลิ่วล้อที่ดาหน้าตายแทนนาย ก่อนจะสู้กับไอ้มดแดง...เท่านั้นนี่นา!
แต่ก็เอาล่ะ สำหรับคนแก่รุ่นผม เก่าพ้นสมัยรุ่นไอ้มดแดง ไปอีก มีเรื่องเล่าทำนองเดียวกัน เก่าพ้นสมัยผมไปถึงสมัย ร.4 จะขอเอามาเล่าสู่กันฟัง
ก็ตามเคย ต้องอาศัยอาจารย์ ส.พลายน้อย (เกร็ดภาษาหนังสือไทย ฉบับปรับปรุง พิมพ์คำ พิมพ์ครั้งที่ 9 พ.ศ.2560) ครั้งนั้น เจ้านายผู้ใหญ่ท่านหนึ่ง ท่านทักว่า คำว่า “งาปิ” ที่ใช้เรียกแทน “กะปิ” ที่คนไทยใช้เรียกกันเป็นคำหยาบ
หยาบตรงไหน อย่างไร ยังไม่พูดกัน ก็พอดีรัชกาลที่ 4 โปรดให้มีประกาศออกมาฉบับหนึ่ง
“ด้วยพระรัตนโกษา รับพระบรมราชโองการใส่เกล้าฯ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯสั่งว่า...คำที่เรียกว่า งาปินั้น รูปไม่เหมือนงา ไม่ควรจะเรียก แต่นี้ไปถ้าจะกราบบังคมทูลกรุณา และเขียนบัญชีเรื่องราวต่างๆให้เรียกว่า “เยื่อเคย”
อย่าให้เรียกว่า “งาปิ” เป็นอันขาดทีเดียว”
ต่อมา มีคำประกาศออกตามมาอีกฉบับ ด้วยหลวงนายสิทธิ มหาดเล็ก รับพระบรมราชโองการใส่เกล้าฯ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ สั่งว่า
ซึ่งมีหมายให้ป่าวร้องอาณาประชาราษฎรแต่ในจังหวัดกรุงเทพฯ ให้เรียกกะปิว่า เยื่อเคย ให้เรียกน้ำปลาว่า น้ำเคย แต่ก็หารู้กันไม่ ราษฎรเรียก กะปิ น้ำปลา เสมออยู่ตามคำบุราณเดิม
คนที่เป็นพาลแอบอ้าง เที่ยวข่มเหงข่มขู่ขอเอาเงินกับอาณาประชาราษฎรชุกชุมเป็นหลายราย
...
ตั้งแต่นี้สืบไปภายหน้าให้อาณาประชาราษฎร เรียกกะปิ น้ำปลา ตามคำบุราณแต่เดิม
แต่ข้าทูลละอองพระบาท ผู้ใหญ่ ผู้น้อย กราบบังคมทูล พระกรุณานั้น ให้กราบทูลพระกรุณาว่า เยื่อเคย น้ำเคย ตามหมายประกาศครั้งก่อน
แลให้มหาดไทย กลาโหม กรมพระสัสดี หมายบอกให้นายอำเภอป่าวร้องราษฎรให้รู้กันจงทั่วรับสั่ง
พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าฯ ทรงเป็นนักประชาธิปไตย ไม่ทรงใช้อำนาจบังคับจนเกินเหตุ
ส.พลายน้อยบอกว่า ในส่วนคำว่า น้ำเคย อาจจะเป็นเหตุให้บางท่านสงสัย เพราะเท่าที่รู้กัน น้ำปลาก็ทำจากปลาหมัก การเรียกน้ำปลาจึงถูกต้องตามลักษณะที่เป็นจริง เป็นภาษาไทยดีอยู่แล้ว ไม่น่าจะเปลี่ยนเป็นน้ำเคย ซึ่งหมายถึงน้ำที่ได้จากกุ้งเคย
ส่วนคำว่างาปิ เป็นคำพม่า พม่าเรียกน้ำพริกว่างาปิ ส่วนคำกะปิ ผู้รู้บอกว่าเป็นคำผสมมอญพม่า ภาษามอญเรียกปลาว่า กะ พม่ามีคำว่าปิ แปลว่า ทับ ในชั้นเดิมพม่าคงทำกะปิด้วยปลากับเกลือมาโขลกแล้วทับไว้
ที่เรียกงาปิ งา=ปลา ปิ=ทับ เมื่อมอญเอามาใช้ จึงกลายเป็นกะปิ ไทยเราคุ้นกับมอญมากกว่าพม่าจึงเรียกกะปิตามอย่างมอญ
แต่บังเอิญมีอีกคำคือ “ปิ๊” ที่แปลว่าอวัยวะเพศหญิง...คำนี้เป็นที่มาให้เกิดความรังเกียจว่า คำกะปิ หยาบคาย ความพยายามที่จะเรียกเป็นเยื่อเคย น้ำเคย น่าจะมาเพราะความรังเกียจคำว่า ปิ คล้ายเสียงปิ๊ นี่เอง
“ปิ๊” คำที่รังเกียจกันในสมัย ร.4 นี่แหละครับ ผู้รู้รุ่นใหม่บอกว่า ความหมายเดียวกับคำว่า “กี” ของฟิลิปปินส์ กะเทยไทย นิยมเอามาใช้เรียกกัน เหตุที่คุณภูมิธรรมไม่ชอบใจ เข้าใจว่า เป็นคำหยาบ ก็เพราะเรื่องนี้ล่ะกระมัง.
กิเลน ประลองเชิง
คลิกอ่านคอลัมน์ “ชักธงรบ” เพิ่มเติม