คู่โต้ในสภาประเด็นอุยกูร์ ระหว่าง คุณภูมิธรรม เวชยชัย ฝ่ายรัฐบาลกับ คุณกัณวีร์ สืบแสง ฝ่ายค้าน สี่ทุ่มวันเสาร์ สำหรับผม เป็นมวยถูกคู่ คุ้มค่าเวลาคอย
สุ้มเสียงท่วงท่าเนื้อหาที่คุณอ้วนชี้แจง คนอุยกูร์ กลับไปอยู่บ้านอย่างสบายๆไม่ได้ถูกส่งกลับไปติดคุกไปตาย ทำให้ข้อเคลือบแคลงเดิม
ทำไม?เมื่อทำอย่างสุจริตใจ ต้องมุบมิบรวบรัดสะบัดพล ทำแบบปิดๆบังๆก็ค่อยๆคลี่คลาย
ก็พอเข้าใจล่ะครับ...เมื่อสหรัฐฯกดดันเราล่วงหน้าถึงขนาดนั้น... เราจึงต้องทำอย่างนั้น และเมื่อทำแล้วปฏิกิริยาจากสหรัฐฯที่ตามมา เราก็ต้องกล้ารับ
จะตัดสินว่าไทยเราเอาใจจีนเลือกข้างจีน ก็ต้องมีวิธีพูดจากันต่อไป
ประเทศเล็กๆอย่างเราเพื่อความอยู่รอดจะประกาศตัว “กร่าง เป็นกลาง” เต็มปากเต็มคำเหมือนประเทศพี่ใหญ่ๆเขาก็คงไม่ได้
ข้อชี้แจงรองนายกฯภูมิธรรมที่ผมจับใจก็คือ เหตุผลของความมีหัวใจมนุษย์ครับ...โทษลักลอบเข้าเมืองความผิดติดคุกสองปีก็เต็มที่ แต่นี่เราต้องให้เขาอยู่ในคุกเราตั้งสิบปี...
สำหรับมนุษย์ด้วยกันโหดร้ายเกินไป
แต่เมื่อมีแต่ประเทศที่ห่วงใยเห็นใจ แต่ไม่มีประเทศที่สามใดเลย เสนอตัวรับ...เอาล่ะ!ฟังได้
เมื่อเราตัดสินใจแม้ว่าจะช้า...ช้ามาก ส่งเขาไปแล้ว และตอนนี้ ก็แน่ใจแล้วพวกเขาอยู่สบายๆ (สบายกว่าชีวิตธรรมดาคนไทยด้วยซ้ำ)แล้ว
คนไทยเราด้วยกันก็ควรจะสบายใจไปด้วยกัน
แต่สำหรับบทบาทฝ่ายค้าน สำหรับคุณกัณวีร์ สืบแสง กลับตรงกันข้าม
ผมชื่นชมคุณกัณวีร์มานาน ชอบทั้งท่าที ชอบทั้งวิธีพูดที่จริง ก็ชอบตลอดมาไม่ว่าปัญหาสามจังหวัดใต้หรือเรื่องสิทธิมนุษยชนของคนอุยกูร์
ตอนที่ชอบก็งงไปด้วยเพราะความชอบนี้นี่หว่า ทำให้คนอุยกูร์ อยู่ในคุกเราสิบปี
ตอนฟังคุณภูมิธรรมเกทับฝ่ายค้านที่เรียกร้องสิทธิมนุษยชน แต่ทนให้คนอุยกูร์อยู่ในคุกทำนองเป็นความคิด แบบเด็กเอ๋ยเด็กน้อย ผมก็เคลิ้มตามเต็มที่
...
งานนี้คุณอ้วนเล่นบทรุ่นพี่ได้ดี แล้วก็เผลอคิดว่างานนี้ฝ่ายเด็กน้อยน่าจะรู้สึกตัว
แต่กติกาในสภายังมีเวลาให้ฝ่ายเด็กน้อยอย่างคุณกัณวีร์
ได้บอกว่าเด็กน้อยที่พี่อ้วนว่าผ่านงานบริหารองค์กรต่างประเทศสำนักข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยมาหลายประเทศ ทั้งการศึกษาก็ถึงระดับปริญญาโท
ว่าแต่พี่อ้วนเถิดเรียนมาได้แค่ไหน?
ในเชิงของลีลาการแสดง...ในเชิงการโต้วาทีผมถึงว่า ไม่เสียเวลาคอยสมน้ำสมเนื้อ
เพียงแต่มีประเด็นค้างใจคุณกัณวีร์คิดยังไง? กับการมีส่วน ให้ปัญหา 40 ชีวิตอุยกูร์คาราคาซังในบ้านเมืองเรา คิดยังไง? เมื่อบทบาทต่อสู้เรียกร้องสิทธิมนุษยชนให้มนุษยชาติด้วยกัน
มีบางเหลี่ยมที่ซ้ำเติมให้พวกเขาตกที่นั่งทุกข์ยากลำบากกว่าเดิม
คำตอบที่คนมีเหตุผลหามาตอบได้ทำไปตามบทบาทหน้าที่
แต่เมื่อมีหน้าที่แล้วก็ต้องคิดต่อไปอีกว่าหน้าที่ที่ฝ่ายตัวเองทำนั้น สนองประโยชน์ให้กับฝ่ายตัวเองฝ่ายเดียวหรือไม่...หากหน้าที่ที่ทำนั้นมีผลเสียหายใหญ่หลวงให้กับบ้านเมืองเล่า?
การเมืองไทยเราเล่นกันเรื่อยมาอย่างนี้ เป็นฝ่ายรัฐบาล ก็คิดอย่างรัฐบาล เป็นฝ่ายค้านก็คิดอย่างฝ่ายค้าน...อย่าแปลกใจ วันนี้เราอยู่ในคิวรั้งท้ายของอาเชียน.
กิเลน ประลองเชิง
คลิกอ่านคอลัมน์ “ชักธงรบ” เพิ่มเติม