รถไฟไทยถูกค่อนขอดเป็นวัตถุโบราณ ทั้งเก่า ล้าสมัย ช้า เหม็น สกปรก ทั้งๆที่ประเทศไทยมีรถไฟตั้งแต่สมัยล้นเกล้าฯ รัชกาลที่ 5 ถือว่าทันสมัยที่สุดในอาเซียน แต่ผ่านไปร้อยกว่าปีคุณภาพ รถไฟไทยแทบไม่ได้พัฒนา กลายเป็นรั้งท้ายอาเซียนไปแล้ว ขณะเดียวกัน การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) มีหนี้สะสมถึง 2.3 แสนล้านบาท รายจ่ายมากกว่ารายรับ แถมการใช้จ่ายงบประมาณมีรูรั่วที่ไม่เคยถูกอุด อย่างไรก็ตาม วันนี้ รฟท.เริ่มเห็นแสงสว่างบ้างแล้ว หลังจากคุณวีริศ อัมระปาล มาเป็นผู้ว่าการ รฟท.ได้ 6 เดือน มีการจัดระเบียบใหม่ ตรวจสอบการใช้งบฯอย่างคุ้มค่าโปร่งใส สร้างโอกาสเพิ่มรายรับ และมุ่งเพิ่มประสิทธิภาพรถไฟไทย
รฟท.ได้ร่วมกับ สถาบันวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีระบบราง (สทร.) ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) “ส่งเสริมและสนับสนุนการผลิตและพัฒนาบุคลากร พัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรม และพัฒนาอุตสาหกรรมระบบราง” โดยจะร่วมกันพัฒนาและผลิตต้นแบบรถจักร รถโดยสาร รถสินค้า รวมถึงชิ้นส่วนและอุปกรณ์ต่างๆ เพื่อรองรับการขนส่งระบบรางอย่างมีประสิทธิภาพ
ความร่วมมือดังกล่าวมีทั้งระดับ ในประเทศ และ ระดับนานาชาติ โดยระดับในประเทศเริ่มจาก ปรับปรุงรถไฟโดยสารชั้น 3 แบบพัดลม ให้เป็นระบบปรับอากาศที่ทันสมัย สถาบันวิจัยฯจะพัฒนารถต้นแบบ 1 คัน ด้วยการออกแบบทางวิศวกรรมและสถาปัตยกรรมจากเทคโนโลยีและนวัตกรรมการผลิตชิ้นส่วนรถไฟชั้นนำคุณภาพส่งออก เพื่อให้ รฟท.นำไปใช้ปรับปรุงรถไฟพัดลม 130 คันที่มีอายุเฉลี่ย 37-40 ปีแล้ว
เมื่อ รฟท.ได้รถต้นแบบมาแล้ว จะนำไปประมูลจ้างเอกชนมาดำเนินการปรับปรุงรถในช่วงปลายปี เฟสแรก 40 คัน คาดว่าส่งมอบรถคันแรกได้ในเดือน เม.ย.69 นำมาวิ่งให้บริการได้ทันที
นอกจากนี้ สถาบันวิจัยฯ จะปรับปรุงรถไฟท่องเที่ยว เพื่อเพิ่มความสมบูรณ์ของขบวนรถ รองรับผู้โดยสารทางไกลแบบค้างคืน โดยทำรถต้นแบบ ให้ รฟท.ประกอบด้วย รถนอนหรู 3 คัน มีทั้งแบบชั้นหนึ่ง ชั้นธุรกิจ ชั้นพรีเมียม รถห้องอาหาร 1 คัน มีครัวระดับไฟน์ไดนิง และรถสันทนาการ 1 คัน
...
สำหรับความร่วมมือระดับนานาชาติ รฟท.กับสถาบันวิจัยฯจะร่วมทำ แผนการรับถ่ายทอดเทคโนโลยีการออกแบบและผลิตรถไฟ เพื่อพัฒนาต้นแบบด้วยเทคโนโลยีชั้นนำระดับโลก รวมถึงการถ่ายทอดทรัพย์สินทางปัญญา ที่ประเทศไทยสามารถผลิตและต่อยอดได้ด้วยตนเอง เพื่อลดการสั่งซื้อจากต่างประเทศที่พึ่งพาการบำรุงรักษามากกว่า 25 ปี ทำให้สามารถผลิตและให้บริการในประเทศได้เองในราคาที่ถูกลง สร้างผู้ประกอบการไทย ยกระดับขีดความสามารถสู่การผลิตเพื่อส่งออกมาตรฐานสากล
โดยในปี 2569 จะร่วมพัฒนาต้นแบบ 3 รุ่น คือ หัวรถจักรไฮบริด (Hybrid Locomotive) ตู้รถไฟโดยสาร (Passenger Coach) รถไฟขนสินค้า (Freight Wagon) ปี 2570 จะมีต้นแบบรถชุดดีเซลรางไฟฟ้า (Hybrid Diesel Multiple Unit)
เราได้ยินแนวคิดสร้างรถไฟใช้เองมาหลายสิบปีแล้ว เพิ่งมีครั้งนี้ที่มีการดำเนินการเป็นรูปธรรม หากได้รับการสนับสนุนอย่างเต็มที่จากรัฐบาล นอกจากก่อเกิดการจ้างงาน ยังดึงดูดการลงทุนจากต่างชาติ อาจเปลี่ยนโฉมประเทศจากที่เคยผลิตรถยนต์อย่างเดียว และร่วมเป็นห่วงโซ่ในการผลิตรถไฟในระดับโลกด้วย
ที่ผ่านมา รฟท.ไม่เพียงมีหนี้สะสมมหาศาล ทั้งยังเป็นหนึ่งในรัฐวิสาหกิจที่มักถูกตั้งคำถามเรื่อง ความโปร่งใส คุณวีริศจึงได้แต่งตั้ง คุณพิศิษฐ์ ลีลาวชิโรภาส อดีตผู้ว่าการการตรวจเงินแผ่นดิน มาเป็นประธานคณะทำงาน มีหน้าที่ศึกษา รวบรวม วิเคราะห์ข้อมูล กระบวนการคำสั่ง และขั้นตอนการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุ เพื่อให้การใช้จ่ายงบฯของ รฟท.เกิดประโยชน์สูงสุด
ผู้ว่าการ รฟท.ยังมีนโยบายให้การจัดซื้อจัดจ้างทั้งหลายใช้วิธี อี–บิดดิ้ง เป็นหลัก ส่วนแผนงานโครงการต่างๆที่เสนอมาพิจารณา หากมีความผิดพลาดเรื่องตัวเลข หรือคำจำกัดความ จะถูกตีกลับไปแก้ไขใหม่ โดยลงวันที่รับเรื่องทุกครั้งเพื่อตามเช็กย้อนหลังได้
หากจะชุบชีวิตรถไฟไทยให้สดใสอีกครั้ง ก็ต้องอาศัยผู้นำที่เอาจริงเอาจังแบบนี้แหละครับ.
ลมกรด
คลิกอ่านคอลัมน์ “หมายเหตุประเทศไทย” เพิ่มเติม