เป็นก้าวประวัติศาสตร์ เป็นครั้งแรกในการดำเนินคดีแก๊งคอลเซ็นเตอร์ข้อหาที่หนัก มีโทษจำคุกถึง 15 ปี ปิดช่องว่างกฎหมาย ไม่ให้กลุ่มคนไทยขายชาติอาศัยช่องว่างกฎหมาย อ้างเป็นเหยื่อการค้ามนุษย์
ดำเนินคดีข้อหา “องค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ” กลุ่มคนไทย 115 คนจากทั้งหมด 119 คน ถูกกัมพูชาทลายแก๊งคอลเซ็นเตอร์คนไทยที่ปอยเปต ข้อหารุนแรง อั้งยี่ ซ่องโจร ร่วมกันฉ้อโกง และนำเข้าข้อมูลเป็นเท็จ
ยึดทรัพย์สิน
เป็นมาตรการดำเนินการภายใต้ข้อมูลสืบสวนของ พล.ต.อ.ธัชชัย ร่วมกับ พล.ต.อ.ณัฐธร เพราะสุนทร กสทช. เปิดปฏิบัติการ “ตัดสัญญาณอินเตอร์เน็ต” เครือข่ายคอลเซ็นเตอร์ตั้งฐานฝั่งชายแดนประเทศเพื่อนบ้าน
แนวทางสืบสวนพบเครือข่ายคนไทยขายชาติอีกมากร่วมแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกคนไทย นำมาสู่การตั้งทีมทำงานร่วมกันคัดแยกเหยื่อคนไทยร่วมแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ถูกกัมพูชาจับกุมส่งกลับไทย อ้างเป็นเหยื่อค้ามนุษย์
ไม่ต้องถูกดำเนินคดีในไทย
ทำให้มีคนไทยลักลอบข้ามแดนไทย-กัมพูชา ตั้งแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่ฝั่งกัมพูชา หลบเลี่ยงข้อกฎหมายไม่ให้ถูกดำเนินคดี กลุ่มคนไทย ขายชาติหลอกเฉพาะคนไทยไม่หลอกคนกัมพูชา เมื่อถูกกัมพูชาจับข้อหาหลบหนีเข้าเมืองหรือทำงานไม่ได้รับอนุญาต มีโทษที่น้อยมากเพราะไม่ได้หลอกคนกัมพูชา ความผิดไม่เกิดที่กัมพูชา
ส่งกลับไทยอ้างถูกบังคับทำงาน อ้างเหยื่อค้ามนุษย์ ไม่ต้องรับโทษ แต่วันนี้ความจริงโครงข่ายคอลเซ็นเตอร์ที่มีคนไทยร่วมขายชาติอยู่ร่วมขบวนการถูกเปิดโปง ปิดช่องโหว่กฎหมาย ตัดรากถอนโคนเครือข่ายให้สิ้นซาก
พล.ต.อ.ธัชชัย รับมอบหมายจาก นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร.หารือสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตรวจคนเข้าเมือง กสทช. ประเทศกัมพูชา แลกเปลี่ยนข้อมูลแก๊งคอลเซ็นเตอร์คนไทยลักลอบอยู่ฝั่งกัมพูชา ปราบปรามและส่งตัวคนไทยเหล่านี้มาดำเนินคดีในไทย
...
เป้าหมายกวาดล้างให้หมดไปภายในปีนี้.
“เพลิงพยัคฆ์”
pluengpayak@thairath.co.th
คลิกอ่านคอลัมน์ “เลขที่1 วิภาวดีฯ” เพิ่มเติม