เมื่อช่วงสายๆ (ประมาณ 09.30 น.) ของวันเสาร์ที่ผ่านมากรมอุตุนิยมวิทยาได้ออกประกาศฉบับที่ 2 เรื่องอากาศแปรปรวนบริเวณประเทศไทยตอนบน ฝนตกหนักบริเวณภาคใต้ และคลื่นลมแรงบริเวณอ่าวไทยตอนล่าง ซึ่งจะมีผลกระทบบางพื้นที่ในช่วงระหว่างวันที่ 16–20 มีนาคมนี้
สำหรับบริเวณประเทศไทยตอนบนซึ่งหมายถึงภาคเหนือ ภาคอีสานและภาคกลางบางส่วนนั้น กรมอุตุนิยมวิทยาบรรยายว่า “พายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง ลูกเห็บตก รวมถึงอาจจะมีฟ้าผ่าเกิดขึ้นได้ในบางพื้นที่ระหว่าง 16-17 มี.ค. (เมื่อวานกับวันนี้)
ท่านยังบอกอีกว่า “หลังจากนั้นอุณหภูมิของภาคตะวันออกเฉียงเหนือจะลดลง 5-8 องศาเซลเซียส ส่วนภาคอื่นๆจะลดลง 2-4 องศาเซลเซียส ทั้งนี้ เพราะบริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังค่อนข้างแรงจากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้
ในประเด็นหลังว่าด้วยอุณหภูมิจะลดลงนี้เอง มีการแชร์ข้อความตัวแดงไปทั่วโซเชียลว่า “เตรียมหนาวกลางฤดูร้อน 17-22 มี.ค.นี้ โคราช 17 องศา กุรงเทพฯ 19 องศา” จริงไม่จริงอย่างไรเดี๋ยวก็รู้?
หลังจากกรมอุตุนิยมวิทยาออกประกาศฉบับที่ 2 ในวันเสาร์ที่ 15 มีนาคมไปเพียงชั่วโมงก็มีหนังสือ “ด่วนที่สุด” จากรองนายกฯและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย คุณอนุทิน ชาญวีรกูล ในฐานะผู้บัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติถึงผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัดสั่งให้ “เตรียมพร้อม” รับมือและช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบภัยพายุฤดูร้อนนับตั้งแต่บัดนี้
ก็ต้องขอขอบคุณทั้งกรมอุตุนิยมวิทยาและทั้งกระทรวงมหาดไทยที่แจ้งเตือนพวกเราประชาชนให้ระมัดระวังตัวล่วงหน้าและให้หน่วยราชการที่เกี่ยวข้องเตรียมช่วยเหลือล่วงหน้าดังกล่าว
แม้จะคาดเดาไม่ถูกว่าจะหนักเบาแค่ไหน? จังหวัดไหน? อำเภอไหน? หรือหมู่บ้านไหน?...แต่การเตรียมตัวล่วงหน้าไว้ก็ถือเป็นเรื่องของความไม่ประมาททำให้เรามีสติมีปัญญาและมีขวัญมีกำลังใจที่จะสู้กับสถานการณ์
...
นอกจากนี้ ตามที่ผมนั่งอ่านพาดหัวข่าวของสำนักข่าวออนไลน์ และหนังสือพิมพ์อีกหลายๆฉบับเมื่อวันเสาร์ก็รู้สึกว่าไม่ใช่ “พายุมรสุมฤดูร้อน” อย่างเดียวเสียแล้วที่จะโหมกระหน่ำใส่คนไทย
ยังมี “พายุ” อื่นๆอีกมากมายหลายๆลูก เช่น “พายุอุยกูร์” กรณีเราส่งผู้ลี้ภัยชาวอุยกูร์กลับไปประเทศจีน ซึ่งก็เริ่มมีฟ้าแลบแปล๊บปล๊าบระคนเสียงฟ้าร้องครืนๆขึ้นแล้ว
จากการที่ที่ประชุมรัฐสภายุโรปได้ผ่านมติประณามรัฐบาล ไทยที่ส่งผู้ลี้ภัยอุยกูร์กลับไปประเทศจีน และกล่าวหาว่าเราละเมิดหลักการประชาธิปไตยและสิทธิมนุษยชนนั่นแหละครับ
กล่าวหาอย่างเดียวไม่พอยังเรียกร้องให้คณะกรรมาธิการยุโรปใช้การเจรจาการค้าระหว่างประเทศกดดันเราเสียอีกด้วย
ต่อมาอีกวัน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ นายมาร์โก รูบิโอ ก็ออกมาประกาศระงับวีซ่าเจ้าหน้าที่รัฐบาลไทยและครอบครัวที่เกี่ยวพันกับการส่งผู้ลี้ภัยอุยกูร์กลับจีน ซึ่งถือเป็นมาตรการคว่ำบาตรประเทศไทยเราในเบื้องต้น
เริ่มจากเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องก่อน จากนั้นก็อาจขยายขอบข่ายเพิ่มขึ้นและที่สำคัญทุกกระทรวงเขาโยงถึงกันหมดจึงน่าเป็นห่วง อย่างมากสำหรับการขึ้นภาษีเล่นงานสินค้าไทยที่สหรัฐฯจะประกาศในต้นเดือนเมษายน
ที่กล่าวมานี้ยังไม่ได้รวมพายุทางการเมืองเรื่องการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลในวันที่ 24-25 มีนาคม ตามที่เป็นข่าวในขณะนี้นะครับ
แต่เพียงแค่นี้ก็เหนื่อยใจแทนพี่น้องชาวไทยละครับก็ขอให้ใจเย็นๆตั้งสติให้ดีๆ เตรียมรับ “พายุ” ทุกลูกอย่างสงบ
อย่าลืมสวดมนต์ไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ทุกท่านนับถือก่อนนอนด้วยนะครับ จะได้หลับสบายๆ อะไรจะเกิดก็ให้มันเกิดดังที่ปฏิบัติกันมาจนชินเสียแล้วในช่วง 50–60 ปี ที่ผ่านมานี้.
“ซูม”
คลิกอ่านคอลัมน์ “เหะหะพาที” เพิ่มเติม