เมื่อหนังสือ “กลยุทธ์สามก๊ก” (ทองแถม นาถจำนง แปล แสงดาว พิมพ์ พ.ศ.2568) มาถึงมือ ผมก็ยิ่งแน่ใจ ครูผู้รู้เรื่องจีนแถวหน้าชื่อทองแถม นาถจำนง ยังไม่ได้จากเราไปไหน
หนังสือเล่มนี้ พิมพ์ครั้งแรก พ.ศ.2531 ไม่เพียงเป็นหนังสือขายดี ยังเป็นหนังสืออ่านประกอบหลักสูตร MBA และโรงเรียนเสนาธิการทหารบก ผมมีหนังสือสามก๊กแทบจะนับเล่มไม่ถ้วน แต่เล่มนี้ไม่มี แน่ละซี! ก็ต้องรีบอ่าน
ไม่นาน...ก็ถึงบทที่ 11 หัวข้อ ขวัญกำลังใจ
ทองแถม นาถจำนง วิจารณ์ลิโป้...ว่า ฝีมือกล้าแข็งห้าวหาญ แต่ไร้สติปัญญา ไม่รู้จักใช้พระเดชกับพระคุณให้เหมาะสมกลมกลืน ทหารลิโป้กลัวความโหดร้ายทารุณของลิโป้ จึงหลบหนีไปเป็นอันมาก
จุดจบของลิโป้เกิดจากผู้ใต้บังคับบัญชา (รุมจับตัวส่งโจโฉ ตอนเมา)
แต่อีกด้าน ก็ไม่อาจปฏิเสธวรยุทธ์ของลิโป้ไร้เทียมทาน ลิโป้จึงมั่นใจตัวเอง ตอนที่สนุกสนานมาก ลิโป้ห้ามทัพมิให้กิเหลงรบกับเล่าปี่ ลิโป้ให้ทหารปักทวนไว้ไกลระยะ 150 ก้าว แล้วแกล้งเสี่ยงทาย จะยิงปลายทวนถูกหรือไม่?
ถ้าลิโป้ยิงถูกกิเหลงก็ต้องเลิกทัพกลับ แต่ถ้าผิด ก็เชิญรบกันได้เลย ลิโป้จะไม่ยุ่งเกี่ยวเข้าไปช่วยเล่าปี่
อันกิเหลงนั้นอยากรบ ไม่เชื่อว่าระยะไกลขนาดนั้น ลิโป้จะยิงเกาทัณฑ์ถูกปลายทวน จึงรับคำ
ฝ่ายเล่าปี่ ไม่ต้องการรบ เพราะกำลังน้อยกว่าเสียเปรียบ จึงภาวนาขอให้ยิงถูก
ขณะที่สองฝ่ายผู้มีส่วนได้เสีย กำลังลุ้นไปคนละด้าน ตัวลิโป้เล่าปากบอกว่าแล้วแต่เทวดาฟ้าดินกำหนด แต่ใจจริงเจตนาช่วยเล่าปี่ ถ้าลิโป้ไม่มั่นใจในฝีมือตัวเอง ไหนเลยจะกล้าตั้งเงื่อนไขที่เป็นไปได้ยากขนาดนั้น
ยังไม่พอ...ก่อนยิงเกาทัณฑ์ ลิโป้ยังสั่งเหล้ามาเทเข้าปากเทเอาๆ
ทองแถม นาถจำนง บอกว่า ในสถานการณ์นี้ หลัวก้วนจง (ผู้แต่งนิยายสามก๊ก) บรรยายภาวะจิตใจได้ถึงสามแบบ หนังสือสามก๊กจึงอ่านออกรสดีนัก
...
คุณธรรมน้ำใจที่ลิโป้มีต่อเล่าปี่ อ่านแล้วเข้าใจได้ ลึกๆแล้วลิโป้มีส่วนดี แต่ภาวะจิตใจที่ออกจะประหลาดที่สุด ทองแถม นาถจำนง บอกว่ากรณี “เล่าอั๋น”
เล่าอั๋นเป็นพรานป่า เมื่อเล่าปี่แตกหนีลิโป้ไปตามทางในป่า ได้ขอเข้าอาศัยในบ้านเล่าอั๋น เล่าอั๋นฆ่าเมียตัวเองเอาเนื้อให้เล่าปี่กิน
จิตใจอย่างนี้ ไม่รู้จะใช้อะไรมาอธิบาย จะเอา“ความจงรักภักดี” เล่าปี่รึ! ตอนนั้นก็เป็นแค่ข้าหลวงประจำเมือง
ในนิยายสามก๊ก หลัวก้วนจงมิได้กล่าวชัดว่า ในบ้านเล่าอั๋นปราศจากเสบียง เพียงแต่บอกว่า “จะหาอาหารรสดี ก็หามิทัน” ถ้าอย่างนั้นจะเลี้ยงข้าวไปตามมีตามเกิดมิได้หรือ?
ไฉนต้อง“ฆ่าภรรยา แล้วเอาเนื้อที่ลำแขนผัดคั่วเป็นเครื่องกับข้าว ยกออกมาให้เล่าปี่กิน”
เมื่่อเล่าปี่มารู้ความตอนเช้า เล่าปี่ให้เอาเงินร้อยตำลึงสมนาคุณแก่เล่าอั๋น จากนั้นก็มิได้กล่าวถึงเล่าอั๋นอีก
สามก๊กตอนลิโป้ยิงเกาทัณฑ์ช่วยเล่าปี่ ผมอ่านแล้วก็ซึ้ง ส่วนตอนเล่าปี่เจอเล่าอั๋น ผมอ่านแล้วก็อึ้ง
จนมาอ่านคำนำที่คุณทองแถมเขียน...หนังสือเล่มนี้อ่านสนุก เพราะตัวอย่างที่ยกมาอธิบายประกอบหลักบริหารนั้น ยกมาจากนิยายอิงประวัติศาสตร์เรื่องสามก๊ก
นิยายสามก๊กเป็นเรื่องจริง 30 เปอร์เซ็นต์ เป็นเรื่องแต่ง 70 เปอร์เซ็นต์ ตัวอย่างที่ยกมาเป็นอุทาหรณ์เท่านั้น
ดังนั้น แม้จะรู้ว่านิยายสามก๊กเป็นเรื่องโม้ แต่ก็มิได้บั่นทอนแก่นองค์ความรู้ที่จะได้รับแต่อย่างใด
เป็นอันเข้าใจได้ตรงกัน...สามก๊กทั้งตอนที่ผมอ่านแล้วซึ้ง ตอนที่ผมอ่านแล้วอึ้ง เป็นเรื่องที่หลัวก้วนจง“โม้”
แต่เรื่องที่ต้องรู้ต่อ แม้เป็นเรื่องโม้...ก็ใช้เป็นตัวอย่างการบริหารจัดการคนได้ เรื่องโม้ทำนองนี้นักการเมืองบ้านเมืองใกล้ๆ ดูเหมือนจะใช้กันเป็น.
กิเลน ประลองเชิง
คลิกอ่านคอลัมน์ “ชักธงรบ” เพิ่มเติม