“ซอกแซก” ชุด “ดุสิตธานีคืนชีพ” สัปดาห์ที่แล้วจบลงด้วยการเขียนถึง “9 อัตลักษณ์” อันเป็นจุดเด่นและภาพจำของโรงแรมดุสิตธานีในอดีตที่จะยังคงอยู่เคียงคู่โรงแรมแห่งนี้ไปอีกอย่างน้อย 67 ปี ตามสัญญาเช่าที่ดินกับสำนักทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ที่ได้ต่อออกไปเป็นที่เรียบร้อย

ผมได้เขียนถึงไปแล้ว 1 อัตลักษณ์ซึ่งถือว่าสำคัญที่สุดคือ “ยอดแหลม” หรือ “เสาสูงสีทอง” ที่อยู่บนยอดหลังคาชั้นสูงสุดของดุสิตธานี ซึ่งมีชื่อเรียกเป็นภาษาอังกฤษว่า “The Golden Spire” พร้อมกับทิ้งท้ายว่าคงไม่สามารถเขียนได้ครบอย่างละเอียดทุกอัตลักษณ์....แต่ย้ำว่าจะต้องเขียนอย่างน้อย 2 อัตลักษณ์ ได้แก่ “น้ำตก 9 ชั้น” และ “เสาหินเบญจรงค์” อย่างแน่นอน

เพราะประดิษฐกรรมทั้ง 2 ชิ้นนี้มิใช่เพียงแค่จะเป็น “อัตลักษณ์” ของดุสิตธานีดั้งเดิมเท่านั้น แต่เป็นถึง “จิตวิญญาณ” ของดุสิตธานีเลยทีเดียวในทัศนะของผม

เริ่มจากเป็นจิตวิญญาณของท่านผู้ให้กำเนิดโรงแรมแห่งนี้ ท่านผู้หญิงชนัตถ์ ปิยะอุย ผู้มีความเชื่อมั่น เชื่อถือและศรัทธาในความเป็นไทยมาตลอดชีวิตของท่าน

ด้วยเหตุนี้เมื่อท่านตัดสินใจสร้างโรงแรมแห่งนี้ขึ้น ท่านจึงถ่ายทอดจิตวิญญาณของท่านผสมผสานเข้ากับความใหม่และความทันสมัย อันเป็นสากลตามแนวทางการก่อสร้างโรงแรมยุคใหม่ได้อย่างลงตัว

ดุสิตธานีเมื่อ พ.ศ.2513 จึงเป็นโรงแรมทันสมัยในมาตรฐานสากลทุกกระเบียดนิ้วแต่ตกแต่งและประดับประดาไปด้วยศิลปะและความเป็นไทยในเกือบจะทุกจุดของตัวโรงแรม 

รวมทั้งในห้องอาหารไทยของโรงแรมที่ในช่วงแรกชื่อว่า “ห้องสุโขทัย” แต่มาเปลี่ยนเป็น “ห้องเบญจรงค์” ในภายหลัง

...

ในภาพจำของคนไทยที่เคยไปอุดหนุนห้องเบญจรงค์ในโอกาสสำคัญๆ บ้างบางครั้งจะนึกถึงการประดับตกแต่งด้วยไม้สักฉลุลายไทยๆตามจุดต่างๆ

นึกถึงถ้วยโถโอชามที่เรียกว่า “เบญจรงค์” บรรจุอาหารไทยๆมาวางบนโต๊ะ

ที่แน่ๆจะต้องนึกถึง “เสายักษ์” 2 ต้น ตั้งโดดเด่นอยู่ในห้องพุ่งขึ้นสู่เพดานชั้นบนโดยรอบๆ เสาหินทั้งคู่จะมีจิตรกรรมแบบไทยๆ ประดับประดา ประดิดประดอยตั้งแต่งโคนเสาไปจนถึงปลายเสา

นี่คือ “เสาเอก” ที่ทำหน้าที่ค้ำยัน โรงแรมดุสิตธานี เอาไว้ตลอดระยะเวลาเกือบ 60 ปี ก่อนที่จะรื้อถอนแปลงโฉมใหม่

โดยโครงสร้างใหม่ “ดุสิตธานีใหม่” ไม่จำเป็นต้องใช้ “เสาเอก 2 ต้น” นี้อีกแล้ว แต่ความสำนึกในศิลปะไทยๆที่คุณแม่ถ่ายทอดให้ตั้งแต่เล็กๆ ทำให้คุณชนินทธ์ตัดสินใจว่า “ไม่ว่าอย่างไรผมก็จะต้องเก็บไว้ ผมรู้ว่าคุณแม่รักเสาทั้ง 2 ต้น นี้มาก รักในจิตรกรรมไทยที่ตกแต่งและฉาบอยู่รอบๆเสามากที่สุด”

“ทั้งหมดเป็นฝีมือของ อาจารย์ ไพบูลย์ สุวรรณกูฏ ศิษย์เอกคนหนึ่งของท่าน อาจารย์ศิลป์ พีระศรี...อาจารย์ไพบูลย์ และลูกๆ หลานๆท่าน พร้อมด้วยลูกศิษย์ท่านจำนวนหนึ่งได้มานั่งและปีนบันไดประดิดประดอยลงลายเส้นลงสี นำแร่สีต่างๆมาบดมาผสมน้ำก่อนที่จะลงมือเขียน ลงมือวาด ลงมือระบาย จนกลายเป็นเสาที่สวยสดงดงามเพียบพร้อมด้วยวิธีการวาดแบบโบราณเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์” คุณชนินทธ์ โทณวณิก กล่าวอย่างภาคภูมิใจ

ณ นาทีนี้ “เสาเบญจรงค์” จากห้องอาหารเบญจรงค์ในอดีต มิได้ทำหน้าที่ค้ำยันตัวตึกโรงแรมดุสิตธานีอีกแล้ว แต่ยังคงทำหน้าที่เหมือน “เจ้าบ้าน” คอยยืนรับแขกที่จะมาเยือนและมาพักบ้านหลังนี้ ตั้งตระหง่านโดดเด่นคู่กัน ณ บริเวณ ล็อบบี้สีทอง ของ ดุสิตธานียุคปัจจุบัน

อีกหนึ่ง “จิตวิญญาณ” ดุสิตธานี ที่ผมตั้งใจจะเขียนถึง อันได้แก่ “น้ำตกสวรรค์ 9 ชั้น” นั้น ก็เป็นความคิดริเริ่มของท่านผู้หญิง ชนัตถ์ ปิยะอุย เช่นกัน

คงจำได้เมื่อเราเดินเข้าโรงแรมดุสิตธานีเก่าทางสีลมเข้าสู่บริเวณโรงแรมก็จะเจอน้ำตกจำลองรายล้อมด้วยต้นไม้จริงเขียวชอุ่ม

“น้ำตก 9 ชั้น” แห่งใหม่ จะใหญ่กว่าของเก่า แต่ยังคงมี 9 ชั้นเช่นเดิม 3 ชั้นบนหมายถึงไตรภูมิทั้ง 3 โลก ส่วน 6 ชั้นด้านล่างหมายถึง “สวรรค์ 6 ชั้น” ที่เราเคยเรียนในวรรณคดีไทยสมัยเด็กๆ

ในจำนวนสวรรค์ทั้ง 6 ชั้นนั้น สวรรค์ชั้นที่ 4 ได้ชื่อว่าเป็นสวรรค์ชั้น ดุสิต  ใครมานอนหรือมาพักที่ดุสิตธานีจึงเท่ากับว่าได้มานอนสวรรค์ชั้นที่ 4 หรือ “ชั้นดุสิต” ด้วยเหมือนกัน

ทุกวันนี้ใครไปนั่งดื่มอะไรเย็นๆที่แกรนด์ล็อบบี้บาร์ หรือที่ห้องอาหารพาวิลเลียนกับห้องดุสิตกูร์เมต์ จะมองเห็นน้ำตก 9 ชั้น และต้นลีลาวดีต้นแรกที่ท่านผู้หญิงชนัตถ์นำมาปลูกไว้ และยังมีอายุยืนยาวมาจนถึงบัดนี้ได้อย่างชัดเจน

ครับ! ก็คงจะจบเรื่อง อัตลักษณ์ ของ โรงแรมดุสิตธานี ไว้เพียงเท่านี้ อีก 6-7 อย่างที่เหลือขอฝากให้ไปค้นคว้าหาจากกูเกิลเอาเองก็แล้วกัน

แต่ภารกิจของผมในการไปเยือนดุสิตธานียุคใหม่ยังไม่จบครับ เพราะ คุณชนินทธ์ โทณวณิก  กรุณามอบหนังสือเนื่องในโอกาสเฉลิมฉลอง 48 ปี ดุสิตธานีในชื่อ “The Art of Thai Hospitality” บันทึกความทรงจำด้วยภาพเก่าๆของโรงแรมแห่งนี้ให้แก่ผม 1 เล่ม

เปิดอ่านแล้วก็ระลึกถึงความหลังได้อีกมากมายขออนุญาตนำมาเขียนส่งท้ายเป็นตอนจบในสัปดาห์หน้าก็แล้วกันครับ.


“ซูม”

...

คลิกอ่านคอลัมน์ “ซูมซอกแซก” เพิ่มเติม