หนุ่มน้อยวัย 13 ปี สภาพมอมแมมปั่นจักรยานกว่า 100 กม. หวังกลับไปหาตายายที่ จ.อุบลราชธานี เพราะความคิดถึง หลังเพิ่งมาอยู่กับแม่ที่แหลมฉบังได้ 5 เดือน โชคดีพลเมืองดีเข้าสอบถาม ช่วยเหลือ
วันที่ 13 ก.พ. 68 มีรายงานว่า เมื่อวานนี้ (12 ก.พ.) ขณะที่ผู้สื่อข่าวกำลังจะไปทำภาพข่าวงานขึ้นเขาเผาข้าวหลาม ได้แวะที่ปั๊มน้ำมัน ปตท.หัวสำโรงเกตเวย์ ถนน 331 อำเภอแปลงยาว จังหวัดฉะเชิงเทรา สังเกตเห็นเด็กชายแต่งชุดนักเรียนในสภาพมอมแมมผิดปกติ และเป็นวันหยุดมาฆบูชาด้วย โดยมีนายธนกิจ แซ่เจี่ย และน้องหนูดี พร้อมนายสมเกียรติ ตัณวุฑโฒ ร่วมพูดคุย
ในขณะที่เด็กชายวัย 13 ปี คือน้องปอนด์ ในชุดนักเรียน ที่พูดเล่าความวกวนไปมา จากในตอนแรกบอกว่าหนีออกจากบ้านที่ อ.แหลมฉบัง จ.ชลบุรี จะไปโคราช แต่สุดท้ายยอมบอกความจริงว่า จะไปหาตายายที่บ้านพรสวรรค์ อ.นาจะหลวย จ.อุบลราชธานี โดยปั่นจักรยานมาตั้งแต่เวลา 05.00 น. จากบ้านที่แหลมฉบัง มาจนถึงปั๊มน้ำมันในพื้นที่แปลงยาว รวมระยะทางกว่า 100 กม.
ผู้สื่อข่าวสอบถาม นายธนกิจ แซ่เจี่ย และน้องหนูดี พร้อมนายสมเกียรติ ตัณวุฑโฒ เล่าตรงกันว่า ตนกำลังมาเติมลม เห็นน้องเขานั่งกับรถจักรยาน จึงได้สอบถามเพราะดูสภาพผิดปกติ ซึ่งผู้สื่อข่าวเองก็ได้ถามน้องปอนด์ บอกว่า ได้หนีออกจากบ้านแม่ที่แหลมฉบัง จะไปหาตายายที่อุบลราชธานี ทราบชื่อแม่คือ นางวิไล น้องบอกไม่ได้ถูกผู้ปกครองกดดัน หรือทำร้าย รวมถึงเพื่อนที่โรงเรียน แต่เป็นเพราะคิดถึงตากับยายที่เลี้ยงหนูมาตั้งแต่เล็ก น้องปอนด์บอกว่า เพิ่งย้ายมาเรียนอยู่กับแม่ที่แหลมฉบังได้ 5 เดือน เกิดอาการคิดถึงตายายจึงปั่นจักรยานหนีออกมาโดยไม่บอกใคร
...
ต่อมา นายสมเกียรติ ตัณวุฑโฒ ก็พาน้องปอนด์ไปนั่งกินน้ำเย็นๆ ในร้านคาเฟ่ ระหว่างรอ พ.ต.อ.ปรีชา นิสัยสม ผู้กำกับ สภ.แปลงยาว ที่จะมาพาน้องไปที่โรงพักเพื่อดำเนินการติดต่อผู้ปกครอง
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวได้ขอเปิดดูในกระเป๋าเป้สีดำ ที่เป็นของโรงเรียนบ้านทุ่งกราด อ.แหลมฉบัง ชลบุรี พบเปลผ้า อุปกรณ์การเรียน ไม้ปิงปอง ขลุ่ย จึงคุยกันว่าแสดงว่าน้องเป็นเด็กตั้งใจเรียนแน่ๆ และแสดงว่าน้องก็เตรียมความพร้อมในการหนีไปหาตายาย น้องปอนด์เล่าว่า “เงิน 60 บาท แท้จริงแล้วหนูไม่ได้มีเงินสักบาทที่หนีออกมา แต่บังเอิญมาประสบอุบัติเหตุมีรถจักรยานยนต์เฉี่ยวชนรถจักรยานหนูจึงล้มไม่ได้รับบาดเจ็บอะไรแค่เสื้อเลอะ คนขี่รถจักรยานยนต์ได้ให้เงินหนูมา 100 บาท หนูกินข้าวไป 40 บาท เหลือ 60 บาทติดตัว”
ขณะที่ในปั๊มน้ำมัน ก็มีพลเมืองดีร่วมกันมอบเงินให้น้องปอนด์คนละ 300 บ้าง 500 บ้าง รวมๆ น้องปอนด์ก็ได้เงินจากความเมตตามาประมาณ 2 พันกว่าบาท ต่อมาทาง พ.ต.อ.ปรีชา นิสัยสม ผู้กำกับ สภ.แปลงยาว ได้ให้ตำรวจสายตรวจ พาน้องปอนด์มาที่โรงพักแปลงยาว พร้อมพยายามติดต่อแม่ของน้องปอนด์ ด้วยน้องปอนด์ไม่มีโทรศัพท์ และก็ไม่มีเบอร์แม่ และเบอร์พ่อเลี้ยง รวมถึงเบอร์โทรตายายน้องปอนด์ก็บอกไม่มี