พ่อแม่นักโทษชาย เรือนจำนนทบุรีหลบหนี วอนลูกมอบตัว ตอนนี้ติดต่อไม่ได้ คาดสาเหตุเพราะแฟนสาวมีผู้ชายอื่น
จากกรณี น.ช.วสันต์ อบนวล อายุ 32 ปี ผู้ต้องขังคดีวิ่งราวทรัพย์ ต้องโทษจำคุก 1 ปี 12 เดือน รับโทษมาแล้ว 9 เดือน เหลือ 1 ปี 3 เดือน หลบหนีไปจากบริเวณงานก่อสร้างพิพิธภัณฑ์กรมราชทัณฑ์ หลังจากได้เบิกตัวจากเรือนจำจังหวัดนนทบุรี เพื่อมาช่วยทำงานตั้งแต่ 08.00 น. จนกระทั่งเวลาพักเที่ยง ทางเจ้าหน้าที่เรือนจำจึงทราบว่า น.ช.วสันต์ได้หลบหนีไป จึงได้ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองนนทบุรี ขอกำลังลงพื้นที่เร่งติดตามตัวนักโทษชายที่หลบหนีรายนี้
ต่อมา เวลา 13.00 น. นางอ้อย อายุ 51 ปี อาชีพแม่บ้าน แม่นักโทษชาย กล่าวว่า วันนี้เจ้าหน้าที่เรือนจำเชิญไปสอบถามข้อมูลเนื่องจากลูกชายที่หลบหนีกลับมาบ้าน ตนก็ตอบไปตามความจริง ว่าเขานั่งแท็กซี่มาขอเงิน โดยลูกบอกว่าจะไปศาลเพื่อติดกำไล EM แล้วก็ขอยืมกุญแจรถจักรยานยนต์ไป บอกว่าไปศาลเดี๋ยวมา เขาดูรีบๆ ซึ่งปกติเขาก็เป็นคนแบบนี้ลุกลี้ลุกลน ตนก็ไม่ได้สงสัยอะไร และตนก็ไม่ได้รู้เห็นเป็นใจกับลูก
...
สำหรับเส้นทางที่เขาหลบหนี ตนก็ไม่รู้เรื่องเพราะตนอยู่แต่บ้าน รถจักรยานยนต์ที่เขาเอาไปเป็นของพ่อ ส่วนโทรศัพท์เป็นของแม่ เขาบอกว่าขอยืมแป๊บเดียวไปศาล เพราะศาลนัด 13.00 น. ตอนนี้ติดต่อลูกไม่ได้ โทรไม่รับ ไลน์ก็ไม่อ่าน ตนเป็นห่วงลูกอยากให้เขากลับมามอบตัว โทษหนักจะได้กลายเป็นเบา
เขาเป็นนักโทษชั้นดีเหลืออีกแค่ปีเดียวก็จะได้ออกมาแล้ว ปกติตนก็ไปเยี่ยมทุกอาทิตย์ ซึ่งเขาก็ดูปกติไม่ได้มีท่าทีว่าจะหลบหนี ตนคิดว่าสาเหตุน่าจะเพราะเขาทราบว่า น.ส.ไอซ์ อายุ 32 ปี แฟนสาวที่อาศัยอยู่ที่บ้านตนไปมีแฟนใหม่ โดยแฟนเขาออกจากบ้านไปตั้งแต่ก่อนปีใหม่ ลูกชายรู้เรื่องจากเพื่อนที่ถูกจับเข้าไปข้างในบอกเขา ตนกลัวว่าที่เขาออกมาจะไปหาแฟนจนมีเรื่องทะเลาะกันเพราะลูกชายอารมณ์ร้อน ตนอยากฝากบอกให้ลูกกลับมามอบตัวโทษหนักจะได้เบาลง พ่อกับแม่เป็นห่วง ทำอะไรให้นึกถึงพ่อแม่บ้าง ผู้หญิงมีเยอะหาเอาใหม่
ด้านนายเอ็ม อายุ 51 ปี อาชีพขับรถตุ๊กๆ รับจ้าง พ่อนักโทษชาย กล่าวว่า มีเพื่อนโทรมาบอกว่าลูกชายหลบหนี ตนก็ใจคอไม่ดีคิดว่ามีแก๊งคอลเซ็นเตอร์โทรมาหลอก ตนจึงเดินทางไปที่เรือนจำเพื่อสอบถามข้อเท็จจริง ตนพยายามโทรหาแฟนติดต่อไม่ได้จึงให้เจ้าหน้าที่เข้าไปดูที่บ้าน แล้วตนพาเจ้าหน้าที่เรือนจำมาที่บ้านจึงทราบว่าลูกนั่งแท็กซี่มาที่บ้าน มาขอเงินจ่ายค่าแท็กซี่ เอารถจักรยานยนต์กับโทรศัพท์ไป ตนพยายามโทรหาลูกก็ไม่รับ
ตนจึงโทรไปบอกลูกสาวว่าถ้าพี่มาขอเงินอย่าให้ เพราะเขาหนีมา น่าจะเป็นเรื่องแฟนเขา แต่ลูกบอกว่าทำใจได้ แล้วบอกว่าให้แฟนเก็บเสื้อผ้าออกไป ไม่รู้อะไรโดนใจ เวลาตนไปเยี่ยมก็แจ่มใสคุยดี ตนไม่เคยทิ้งลูก ก่อนหน้าลูกก็ได้ออกมาทำงานสาธารณะข้างนอก เป็นแผนกล้างรถของเรือนจำ ตนก็ฝากเงินให้ตลอด.