กรุงเทพฯ เมืองหลวงที่ประชากรหนาแน่น การจราจรแออัด แต่ละวันมีเหตุเภทภัยที่เป็นอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สินประชาชน
นอกจากความช่วยเหลือจากหน่วยงานภาครัฐแล้ว ไม่ว่าจะเป็นดับเพลิง โรงพยาบาล ตำรวจ แต่ในจุดเกิดเหตุ จะมีเจ้าหน้าที่มูลนิธิและอาสาสมัครรุดหน้ามาบรรเทาทุกข์ด้วยเสมอ
และในความสงสัยของประชาชนเกี่ยวกับการทำงานของอาสาสมัครเหล่านี้ จึงชวนพี่ๆ มูลนิธิร่วมกตัญญู พี่เหลียว–เฉลียว คำชู เจ้าหน้าที่รถอุปกรณ์กู้ภัย พี่โด่ง–ธวัชชัย ชูรัตน์ และ พี่เพชร–สมพงศ์ อาลัยศิลป์ เจ้าหน้าที่กู้ชีพ และ พี่ญา–ธนเดช อุบลรัตน์ หัวหน้าเจ้าหน้าที่รถเก็บศพ มาร่วมคลายปมปริศนา
Q: เมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน ต้องการความช่วยเหลือต้องทำอย่างไร? A: ให้โทร.1669 โดยจะมีเจ้าหน้าที่คัดกรอง และประเมินอาการ จากนั้นจะสั่งให้ทีมปฏิบัติการออกให้ความช่วยเหลือ มี 3 ระดับคือ หน่วยปฏิบัติการขั้นพื้นฐาน หน่วยปฏิบัติการแพทย์ฉุกเฉินขั้นต้น และหน่วยปฏิบัติการแพทย์ฉุกเฉินขั้นสูง

Q: หลักการช่วยเหลือของรถมูลนิธิเป็นยังไง ? A: มูลนิธิมีรถพยาบาล รถอุปกรณ์กู้ภัย และรถเก็บศพ มีการแบ่งประเภทการใช้รถตามเงื่อนไข ในพื้นที่ กรุงเทพฯ สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ อนุญาตให้ มูลนิธิร่วมกตัญญูกับป่อเต็กตึ๊งเท่านั้น ที่สามารถนำศพไปชันสูตร ได้ ส่วนหลักการช่วยเหลือ เมื่อศูนย์เอราวัณแจ้งเข้ามา มูลนิธิจะจ่ายงานคันที่อยู่ใกล้ไปตามการประเมิน ซึ่งกรณีที่ต้องมีรถวิ่งไปหลายคัน เพราะเคยมีการแจ้งมาว่ามีอาการบาดเจ็บเล็กน้อย แต่พอไปถึงที่เกิดเหตุ ถึงขั้นต้องปั๊มหัวใจ นอกจากนี้ ยังเป็นการช่วยป้องกันเหตุซ้ำซ้อนในจุดเกิดเหตุ
...
Q: เจ้าหน้าที่ได้รับเงินเดือนหรือไม่ เงินบริจาคนำไปใช้อะไร การรับเงินสินน้ำใจทำได้หรือไม่? A: ทางมูลนิธิมีเงินเดือนให้เจ้าหน้าที่ มูลนิธิไม่เคยทอดทิ้งเรา มีสวัสดิการ ที่พัก ทุนการศึกษาบุตร ดูแลกันเหมือนครอบครัว ไม่มีการออกไปเรี่ยไรข้างนอก เงินที่ได้รับนำไปใช้สำหรับรถของมูลนิธิ ซื้ออุปกรณ์กู้ภัย เก็บศพ รถพยาบาล และยังมีค่าน้ำมัน อีกส่วนเป็นการดูแลผู้ประสบภัยต่างๆ นอกจากนี้ นำไปสร้างโรงเรียน สร้างวัด และล่าสุด กำลังจะสร้างศูนย์ฝึกบรรเทาสาธารณภัยแบบครบวงจร ฝึกฝนอาสาสมัครกว่าหมื่นคน
ส่วนคำถามที่ว่าการนำคนส่งโรงพยาบาล ได้เงินค่าเคส และเจ้าหน้าที่เรียกรับเงินนั้น นโยบายของเราในวันนี้ คือ รถฟรี โลงฟรี ทุกอย่างฟรีหมด การนำผู้ป่วยไปส่งโรงพยาบาลเอกชน เพราะใกล้ และญาติแสดงความจำนงมาแบบนั้น ส่วนการรับสินน้ำใจ มีกฎเหล็ก คือ ไม่ให้เรียกแม้แต่บาทเดียว หากเกิดการร้องเรียนและตรวจสอบว่ามีการเรียกรับเงิน ต้องให้ออกทันที

Q: กรณีถูกร้องเรียน รถเปิดไฟฉุกเฉิน ขณะวิ่งบนถนนเพื่อผ่าไฟแดง หรือขึ้นทางด่วนฟรี? A: เวลาปล่อยงาน จะปล่อยตามวิทยุสื่อสาร รถกู้ภัยจึงได้ยินกันหมด ทุกคันจึงเปิดไฟมุ่งไปที่เกิดเหตุ แต่เมื่อรถคันหนึ่งไปถึงแล้ว ช่วยได้แล้ว คันที่ยังตามไปจึงหมดหน้าที่ก็เลยต้องหาทางลงด้วยการปิดไฟ
Q: ปัญหาหลักที่พบจากการทำงาน? A: “ปัญหาหลักคือการประสานงานจากศูนย์เอราวัณไปยังโรงพยาบาลปลายทางมักปฏิเสธการรับผู้ป่วย แจ้งว่าเตียงเต็ม เรามองว่าอย่างน้อยโรงพยาบาลควรประเมินและให้การช่วยเหลือเบื้องต้นก่อน เราอยู่กับผู้ประสบเหตุ ในช่วง
เวลารอ ลุ้นทุกนาทีว่าชีวิตผู้ป่วยจะรอดหรือไม่ ยอมรับว่าบางครั้งต้องปล่อยให้ผู้ป่วยและญาติ วอล์กอินเข้าไปเองถึงจะรับไว้รักษา จึงอยากเสนอ ให้ศูนย์เอราวัณ มีอำนาจสั่งการให้โรงพยาบาลปลายทางรับผู้ป่วย อาจจะมีเงื่อนไขของแต่ละราย นอกจากนี้ยังพบปัญหาที่ศูนย์เอราวัณ ไม่ปล่อยงานให้รถมูลนิธิที่อยู่ใกล้ไปรับผู้ป่วย แต่ให้รอรถโรงพยาบาลจนผู้ป่วยต้องเสียชีวิต

ส่วนปัญหาระหว่างร่วมกตัญญู และป่อเต็กตึ๊งได้จบไป 10 กว่าปีแล้ว ตั้งแต่การแบ่งพื้นที่ไม่ว่ามีปัญหาอะไรเราจะคุยกัน หากมีเรื่องที่ไม่เข้าใจกัน จะขอโทษขอโพยกัน แต่สิ่งที่เราแย่งกัน วันนี้คือการทำความดี.
เลดี้พริ้ง
อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่
...