แถลงตัวเลขออกมาแล้วครับ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย (เจ้าเก่า) เชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจ “ตรุษจีน” ปีนี้จะดีกว่าปีที่แล้ว และถึงขั้น “ดีที่สุด” ในรอบ 5 ปีเลยทีเดียว

หัวหน้าทีมในการแถลงผลการคาดการณ์ครั้งนี้ ซึ่งได้แก่ ท่านอธิการบดี ดร.ธนวรรธน์ พลวิชัย ในฐานะประธานที่ปรึกษา ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ ของมหาวิทยาลัย สรุปว่า ตรุษจีนปี 2568 ที่จะมาถึงในอีกไม่กี่วันนี้คึกคักแน่นอนเพราะจะมีเงินสะพัดกว่า 51,787 ล้านบาท...สูงกว่าปีที่แล้ว 2567 ซึ่งมีมูลค่า 49,558 ล้านบาท ประมาณ 4.5 เปอร์เซ็นต์

ที่สำคัญปีนี้เป็นปีแรกที่ยอดเงินสะพัดตรุษจีนจะสูงเกิน 50,000 ล้านบาท และจะเป็นปีที่มีมูลค่าสูงสุดในรอบ 5 ปี นับตั้งแต่มี สถานการณ์โควิดเป็นต้นมา

สาเหตุที่จะทำให้การใช้จ่ายสูงขึ้นนอกจากจะเป็นเพราะความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่มองว่าเศรษฐกิจของประเทศจะค่อยๆเริ่มฟื้นตัวขึ้น บวกกับผลการอัดฉีดเม็ดเงินลงสู่ระบบเศรษฐกิจของรัฐบาล ตั้งแต่เงินชดเชยน้ำท่วม และการแจกเงินเฟส 2 ให้แก่ ผู้สูงอายุ ฯลฯ เป็นต้น

สำหรับผลกระทบของข่าวกรณีดาราดังจีน “ซิงซิง” ตกเป็นเหยื่อแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในประเทศเพื่อนบ้านไทยนั้น ดร.ธนวรรธน์กล่าวว่า ผลกระทบไม่รุนแรงและน่าจะจบลงได้ใน 2 เดือน เพราะรัฐบาลไทยจริงจังในการปราบปราม เพียงแต่จะมีผลบ้างในช่วงสั้นๆ

อย่างที่ผมเคยเขียนชมอยู่เสมอว่า ที่ผ่านๆมาการพยากรณ์ หรือการคาดการณ์ของมหาวิทยาลัยหอการค้าไทยเกี่ยวกับการใช้จ่าย หรือเงินสะพัดในช่วงเทศกาลต่างๆค่อนข้างแม่นยำ

ผมก็หวังว่าการพยากรณ์สำหรับเทศกาลตรุษจีนปีนี้ จะ “แม่นยำ” อีกครั้ง เพราะเป็นตรุษจีนที่เราลุ้นกันมาก และทางรัฐบาลเองก็ทุ่มเทลงทุนลงรอนผ่านการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยมากพอสมควร ในการสนับสนุนการจัด “อีเวนต์” ต่างๆทั่วไทย

...

หากทุกอย่างเป็นไปอย่างที่คาดไว้ คือเงินสะพัดเยอะ คนออกมาเที่ยว ออกมาใช้จ่ายเยอะ ทั้งคนไทยเราเอง และนักท่องเที่ยวต่างแดน ก็จะเป็นขวัญเป็นกำลังใจให้เราเดินหน้าปลุกเศรษฐกิจผ่านการท่องเที่ยวต่อไปอย่างต่อเนื่อง เพราะยังมีเทศกาลใหญ่รออยู่ข้างหน้าอีก 1 เทศกาล ได้แก่ “เทศกาลสงกรานต์” นั่นเอง

แต่ผมก็ยังไม่แน่ใจว่าในการแถลงของ ดร.ธนวรรธน์ดังกล่าวได้รวมเอาปัญหาใหญ่สดๆร้อนๆที่เกิดขึ้นเอาไว้ด้วยหรือไม่

ปัญหา “ฝุ่นจิ๋ว” หรือ PM 2.5 ที่กำลังถล่ม กทม.และหลายๆ จังหวัดอย่างหนักหน่วงนั่นแหละครับ

ข่าว “สีแดง” บ้าง “สีส้ม” บ้าง เต็มพื้นที่ กทม.มาหลายวันและน่าจะยังอยู่อีกหลายวัน ทะลุตรุษจีน 29 มกราคมนี้อย่างแน่นอน...จะก่อให้เกิดผลกระทบขนาดไหน?

คนไทยจะออกมาเที่ยวมาฉลองตรุษจีน และเดินทางไปโน่นไปนี่มากมายอย่างที่คาดไว้ก่อนมี PM 2.5 หรือไม่?

นักท่องเที่ยวต่างแดนมาแล้วจะออกไปเที่ยวโน่นนี่หรือไม่? จะไปเยาวราชไหม? จะไปพระบรมมหาราชวังไหม? จะไปวัดอรุณหรือวัดโพธิ์...สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของพวกเขาไหม?

เพราะรอบๆสถานที่เหล่านี้ย่อมจะเต็มไปด้วยฝุ่นอย่างที่เขาเห็นกันอยู่ทุกวันนี้ จนแม้พวกเราเองก็แทบไม่อยากออกไปไหน

หากนักท่องเที่ยวไม่ออกไปเที่ยว หรือไปเที่ยวแล้วบ่นอุบว่าเจ็บคอเจ็บจมูก หายใจไม่ออก อักเสบโน่นอักเสบนี่ เขาก็คงจะต้องกลับไปโอดครวญว่าอากาศเมืองไทยเราแย่จริงๆ

มาเที่ยวกันมากๆก็จะไปบ่นมากๆ บ่นดังๆเยอะขึ้น จะมีผลเสียไปถึงอนาคตหรือไม่?

กรุงเทพฯเพิ่งจะได้รับการยกย่องว่าเป็นเมือง “น่าอยู่” อันดับ 2 ของโลก จะพลอยหล่นลงไปอันดับท้ายๆหรือไม่?

นึกว่าตรุษจีนปีนี้จะมีคนมาเที่ยวนำรายได้เข้าสู่ประเทศไทยเยอะแล้วนะเนี่ย...กลับมีปัญหาจนได้ เพราะเจ้า PM 2.5 ตัวการนี่เอง

นี่แหละที่ภาษิตโบราณเขาว่าไว้ “บุญมีแต่กรรมบัง” เฮ้อ!


“ซูม”

คลิกอ่านคอลัมน์ “เหะหะพาที” เพิ่มเติม