เหมันตฤดูปีนี้ใครเตรียม “ปักหมุด” ออกไปสูดซับไอดิน กลิ่นหมอก ที่ไหนกันบ้าง เพราะการท่องเที่ยวทุกทริปย่อมมีจุดหมายปลายทาง
ทริปในฝันของใครต่อใครเอาปากกามาวงคงหนีไม่พ้น “เพชรบูรณ์” สวิตเซอร์แลนด์แห่งแดนสยาม คือตัวเลือกเพื่อเติมเต็ม “ความสุข” ลงในชีวิตอันดับต้นๆ

...
“ขึ้นย่ำภู ดูทะเลหมอก ชมดอกไม้งาม ยลพระอารามล้ำค่า สักการบูชาพ่อขุนผาเมือง” เอาเป็นว่า “เที่ยวฉ่ำ” ครบรสกันเลยทีเดียว
โดยเฉพาะ อ.หล่มเก่า ได้รับสมญานามว่า “หลวงพระบางเมืองไทย” เพราะเป็นเมืองสงบมีเสน่ห์ วัดวาอารามมีมากมาย ชุ่มฉ่ำใจต่อเหล่าสายบุญ-สายมู และหนึ่งในนั้นคือ “วัดศรีมงคล” บ้านหินกลิ้ง ต.หล่มเก่า
ก่อสร้างประมาณปีพุทธศักราช 2410 ตั้งแต่สมัยสุโขทัย ชาวบ้านเรียก “วัดหินกลิ้ง” มาแต่โบราณตามชื่อหมู่บ้าน อุโบสถได้รับการบูรณะมาแล้ว 3 ครั้ง
สายธารแห่งศรัทธาหลั่งไหลไม่เคยขาดสาย เคยเป็นสถานที่ถือน้ำพิพัฒน์สัตยามาแต่โบราณ จึงเป็นสถานที่ที่มีความศักดิ์สิทธิ์มาก ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา ราวปีพุทธศักราช 2435

ปัจจุบัน พระอธิการพรฤทธิ์ อภินันโท เจ้าอาวาสรูปปัจจุบัน ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์ พัดยศ (ชั้นโท) จาก พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เป็นรูปแรกของวัดแห่งนี้ ในราชทินนามว่า “พระครูวิเชียรวรธรรม”
นำลูกศิษย์ลูกหา สาธุชนทุกหมู่เหล่า ร่วมบูรณะพระธาตุองค์เดิมด้วยการสร้าง “พระบรมธาตุเกตุแก้วจุฬามณีศรีมงคล” เพื่อครอบพระธาตุองค์เก่าที่ชำรุดทรุดโทรมไปตามกาลเวลา
เพื่อให้พระบรมธาตุมั่นคง แข็งแรง เป็นศูนย์รวมจิตรวมใจของเหล่าพุทธบริษัท 4 รวมทั้งพุทธ ศาสนิกชน ผู้แสวงบุญจากทั่วโลก แต่ยังคงอัตลักษณ์รูปแบบของพระธาตุองค์เก่าเหมือนเดิมทุกประการ
พระครูวิเชียรวรธรรม จัดพิธีอุปสมบทหมู่ 23 นาค และบวชเนกขัมมะ พร้อมนำอุบาสก อุบาสิกา เหล่าบรรดาญาติโยม ร่วมพิธีงานปิดทองฝังลูกนิมิตผูกพัทธสีมา โบสถ์มหาอุตม์ไม้สักทอง เมื่อวันที่ 10-14 ธ.ค.67 ที่ผ่านมา
สำหรับ “โบสถ์มหาอุตม์ไม้สักทอง” เป็นโบสถ์เก่าแก่มีเอกลักษณ์คือมีประตูเข้าออกเพียงประตูเดียวที่ด้านหน้าขึ้นชื่อเรื่อง “ความขลัง” เหมาะสำหรับพิธีปลุกเสกพระเครื่อง วัตถุมงคล หรือประกอบพิธีกรรมศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ

...
ภายในโบสถ์เป็นที่ประดิษฐาน “หลวงพ่อทองใหญ่” เดิมถูกปิดฉาบด้วยปูนไว้หนาเป็นคืบจึงไม่ทราบว่าเป็นพระพุทธรูปที่สร้างขึ้นในสมัยใด กระทั่งในช่วงที่ “พระครูวิเชียรวรธรรม” บูรณะองค์พระธาตุ เกิดเห็นรอยร้าวที่ผิวองค์พระ ให้ช่างกะเทาะปูนออก ทำให้เห็นองค์จริง
ภาพที่ปรากฏเป็นพระพุทธรูปที่งดงามอย่างยิ่ง ฝีมือช่างศิลปะสมัยอยุธยา ผสมผสานศิลปะล้านช้าง อายุกว่า 400 ปี กล่าวกันว่าเป็นพระพุทธรูปที่มีความศักดิ์สิทธิ์ มีผู้คนเดินทางมากราบไหว้ขอพรไม่ขาดสาย

...
ส่วนบริเวณหน้าวัดจะมองเห็น “ท้าวเวสสุวรรณ” ขนาดใหญ่ ความสูง 12 เมตร ประดิษฐานงามโดดเด่น โดย นายวีรพงษ์ เกษดำรงพาณิชย์ หรือเฮียแป๊ะ พร้อมครอบครัวเป็นเจ้าภาพหลักในการก่อสร้าง
พระครูวิเชียรวรธรรม ประกอบพิธีนั่งปรก อธิษฐานจิต อัญเชิญท้าวเวสสุวรรณ และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย มาช่วยทำพิธีให้มีความศักดิ์สิทธิ์เข้มขลัง เพื่อคุ้มครองปัดเป่าสิ่งไม่ดีทั้งปวง ให้พ้นไปจากผู้ที่มากราบไหว้บูชา ให้ประสบแต่โชคดีมีโชคลาภกันทุกคน

...
การท่องเที่ยวเชิงธรรมะกำลังได้รับความนิยม วัดต่างๆ มีมากมายในเมืองไทย เป็นทั้งศูนย์รวมจิตใจและเป็นศูนย์รวมทรัพยากรท่องเที่ยวที่สะท้อนอารยธรรมและวิถีชีวิตของท้องถิ่นได้เป็นอย่างดี
เที่ยวสนุก สุขใจ แถมได้บุญ.
วริชฌ์ รอดพิเศษ รายงาน
อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่