ชาวบ้านตื่นตระหนก ผวาไวรัสมรณะคร่าชีวิตลือสนั่นแพร่มาจากต่างประเทศ หลังหนูน้อยวัย 3 ขวบสิ้นใจ แม่อ้างหมอบอกสาเหตุจากติดเชื้อไวรัสในอากาศ “สสจ.ชุมพร” เผยเป็นการสื่อสารข้อมูลคลาดเคลื่อน ยันเป็นเชื้อไวรัสตัวเก่ามีอยู่ทั่วไปในสภาพแวดล้อมปกติ ไม่เคยทำให้ใครเสียชีวิต แต่รายนี้โชคร้ายป่วยกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบเฉียบพลันร่วมด้วย ระบุเกิดเพียง 0.01% เท่านั้น เตือนอย่าแชร์ข้อมูลผิดๆทำสังคมสับสน

กลายเป็นเรื่องราวสะเทือนใจและชวนให้หวาดผวา กรณีสื่อออนไลน์นำเสนอข้อมูลจากผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ “Aphichaya Thanasri” โพสต์ข้อความระบุมีผู้ป่วยเป็นเด็กผู้หญิง อยู่ในพื้นที่ จ.ชุมพร ชื่อ “น้องไดอาน่า” อายุ 3 ขวบ ไม่มีสัญญาณบอกเตือนใดๆ มีเพียงไข้อ่อนๆ แต่จู่ๆน้องมีอาการชักเกร็ง แม่พาไปโรงพยาบาลทันที หมอช่วยปั๊มหัวใจ ใส่ท่อเครื่องช่วยหายใจ แต่ช่วยไม่ได้ น้องเสียชีวิตอย่างรวดเร็ว ผู้โพสต์บอกด้วยว่า “หมอได้แจ้งว่าน้องไดอาน่าติดเชื้อไวรัสที่อยู่ในอากาศแล้วมันลงที่หัวใจ เลยทำให้กล้ามเนื้อหัวใจอักเสบเฉียบพลัน มันไวมาก ไม่มีสัญญาณอะไรมาก่อน” สร้างความตื่นตระหนกให้กับผู้รับทราบข้อมูล หวั่นกลายเป็นเชื้อมรณะคร่าชีวิตมนุษย์เหมือนเชื้อไวรัสโควิด-19

เพื่อความกระจ่างและได้ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อสายวันที่ 8 ม.ค. ผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังบ้านเลขที่ 36/3 หมู่ 10 ต.บางลึก อ.เมืองชุมพร บริเวณซุ้มประตูรั้วหน้าบ้านระบุชื่อ “บ้านน้องไดอาน่า” ตั้งอยู่ริมถนนสายแยกดอนรัก-ศูนย์ราชการจังหวัดชุมพร พบนายภูวนาท ขุนชัย อายุ 30 ปี และ น.ส.อภิชญา ขุนชัย อายุ 29 ปี พ่อและแม่น้องไดอาน่า พร้อมด้วย น.ส.สุกัญญา ทองสุข อายุ 52 ปี ผู้เป็นยาย และ น.ส.จิระพร ศรีสิน อายุ 55 ปี ผู้เป็นย่า รวมทั้งบรรดาญาติและเพื่อนบ้านช่วยกันจัดเตรียมสถานที่ตั้งบำเพ็ญกุศลศพน้องไดอาน่า หรือ ด.ญ.ภัควลัญชญ์ ขุนชัย อายุ 3 ขวบ ทุกคนต่างอยู่ในความเศร้าโศกนั่งปลอบใจให้กันและกัน หลังต้องสูญเสียน้องไดอาน่า เป็นลูกคนเดียวของครอบครัวไปก่อนวัยอันควร เพราะน้องเป็นเด็กน่ารัก ช่างพูดช่างเจรจา ไม่คิดว่าความตายจะมาพรากไปได้รวดเร็วเพียงนี้ ทุกคนยังทำใจยอมรับไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

...

นายภูวนาท และ น.ส.ภัควลัญชญ์ พ่อและแม่ของน้องไดอาน่า ให้ข้อมูลกับผู้สื่อข่าวทั้งน้ำตาว่า ตั้งแต่น้องไดอาน่าเกิด ตนและครอบครัวทะนุถนอมปานแก้วตาดวงใจ น้องเป็นอะไรไม่สบาย ทุกคนจะมาทันที ส่วนใหญ่ที่ผ่านมาน้องไดอาน่าจะเป็นไข้ไม่สบายเท่านั้น ไม่มีอาการอะไรบ่งบอกว่ามีโรคร้ายหรือเชื้ออะไรแฝงอยู่ในตัว แต่เมื่อตอนอายุ 9 เดือน น้องเป็นไข้และชักเกร็ง ครอบครัวรีบนำส่งถึงมือหมออย่างทันท่วงที หลังจากนั้นตนและทุกคนในบ้านจะคอยเฝ้าระวังอยู่ตลอด เพราะกลัวว่าน้องจะเกิดอาการชักอีกหากเป็นไข้ไม่สบาย

แม่ผู้สูญเสียลูกน้อยกล่าวว่า ก่อนจะเสียชีวิต น้องไดอาน่ามีอาการตัวร้อนเป็นไข้ วัดปรอทมีไข้เพียง 37.4 องศาเซลเซียสเท่านั้น ได้เช็ดเนื้อเช็ดตัวจนไข้ลดลง น้องไดอาน่ายังเล่นปกติกับทุกคน กระทั่งช่วงเช้าวันอาทิตย์ที่ 5 ม.ค. ขณะเตรียมของกิน น้องไดอาน่าวิ่งมาหาพร้อมกรีดร้อง ตนตกใจมากรีบอุ้มลูกออกมาหน้าบ้าน น้องมีอาการแน่นิ่งและฉี่แตก ตอนนั้นยังไม่เอะใจ พยายามเช็ดตัวนวดตัวจนอาการดีขึ้น ท่ามกลางความโล่งอกของทุกคน แต่ไม่นาน น้องเกิดอาการแบบเดิมขึ้นมาอีก ครั้งนี้รุนแรง รีบพาขึ้นรถขับไป รพ.เอกชน ที่รักษาน้องทุกครั้ง ระหว่างทางน้องอุจจาระ-ปัสสาวะราด ตาเหม่อลอย เมื่อถึงโรงพยาบาล แพทย์นำเข้าห้องฉุกเฉินใส่ท่อช่วยหายใจทันที บอกว่าน้องหายใจเองไม่ได้ อาการหนักมาก ต้องย้ายตัวส่งรักษาที่ รพ.ชุมพร

แม่น้องไดอาน่าเล่าต่อไปว่า ขณะอยู่ในรถพยาบาลเพื่อส่งต่อ รพ.ชุมพร น้องพยายามยกมือแต่ไม่มีแรง เมื่อถึง รพ.ชุมพร แพทย์ได้ปั๊มหัวใจหลายครั้ง หมอบอกให้พ่อแม่ทำใจ จะช่วยให้ถึงที่สุด แต่ปาฏิหาริย์ไม่มีจริง ไม่ถึง 1 ชั่วโมง หมอออกมาบอกว่าน้องได้จากไปแล้วจากภาวะติดเชื้อไวรัสที่มาจากอากาศ ทำให้หัวใจหยุดเต้นเฉียบพลัน สร้างความเศร้าโศกเสียใจให้กับครอบครัวเป็นอย่างมาก ตนได้โพสต์ข้อความถึงสาเหตุที่ลูกสาวเสียชีวิตมาจากไวรัสที่อยู่ในอากาศเพื่อเตือนให้ทุกระวังตัว ทำให้หลายคนออกมาแสดงความเสียใจและเริ่มตระหนักว่าไวรัสตัวนี้มันร้ายกาจและแพร่ระบาดได้ง่าย บางคนเชื่อว่าอาจแพร่มาจากต่างประเทศ

ต่อมาผู้สื่อข่าวได้เข้าพบ นพ.อนุ ทองแดง นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดชุมพร ให้ข้อมูลถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นว่า ขอให้ประชาชนอย่าได้ตื่นตระหนกตกใจเกี่ยวกับกรณีเด็กหญิงวัย 3 ขวบที่เสียชีวิตดังกล่าว เรื่องราวที่มีผู้นำไปโพสต์มาจากการสื่อสารที่ไม่เข้าใจ และข้อมูลคลาดเคลื่อน เนื่องจากผู้ปกครองอยู่ในอาการช็อกเสียใจกับการสูญเสียลูกสาว ความจริงแล้วไวรัสชนิดนี้มีอยู่ทั่วไปนานแล้ว ชื่อว่า Nnterro virus (เอนเทอโรไวรัส) เป็นเชื้อตัวเก่า ไม่ใช่เชื้อตัวใหม่ เชื้อโรคสามารถอยู่ได้ไม่เกิน 3 ชั่วโมง จะถูกทำลายไปกับแสงแดด ความร้อน ความแห้ง และสภาพอากาศ

นพ.อนุกล่าวต่อว่า ผู้ป่วยรายนี้มีอาการป่วยก่อนเข้าโรงพยาบาล 2 วัน มีอาการไข้ คลื่นไส้ และต่อมาเกิดชักเกร็ง ผู้ปกครองพาเข้ารักษาที่โรงพยาบาลเอกชนแล้วเสียชีวิต ข้อมูลจากผลเลือดทราบว่า ผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสในกลุ่มของ Nnterrovirus (เอนเทอโรไวรัส) แต่เชื้อได้ลงสู่หัวใจ ทำให้กล้ามเนื้อหัวใจอักเสบรุนแรงเฉียบพลันจนเสียชีวิต ปกติทั่วไปแทบจะไม่มีผู้เสียชีวิตจากเชื้อตัวนี้เลย ครั้งนี้ถือว่าอยู่ในอัตรา 0.01% ที่ผ่านมาในพื้นที่ จ.ชุมพร มีผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสชนิดนี้ทั้งหมด 8 ราย ไม่มีใครเสียชีวิตแม้แต่คนเดียว ยกเว้นเด็กหญิงรายนี้ที่เสียชีวิต

“ไวรัสชนิดนี้ส่วนใหญ่อยู่ในสภาพแวดล้อมและสังคมทั่วไปอยู่แล้ว จะไม่ทำให้เกิดอันตรายรุนแรงและเสียชีวิต ถ้าเราป้องกันดูแลตัวเอง เช่น กินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ ทำความสะอาดพื้นผิวที่สัมผัส สามารถป้องกันไวรัสชนิดนี้ได้ หลังเกิดเหตุขึ้น เจ้าหน้าที่สาธารณสุขได้ลงพื้นที่ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กที่น้องไปเรียน และบ้านที่อยู่อาศัยของน้องเพื่อสอบสวนโรค พร้อมให้คำแนะนำ ทำความเข้าใจ และการดูแลสภาพแวดล้อมต่างๆ ยืนยันว่าไวรัสชนิดนี้ไม่ใช่ไวรัสตัวใหม่เหมือนที่เข้าใจกันในสื่อออนไลน์ ขอประชาชนอย่าแตกตื่นตระหนกตกใจ และแชร์ข้อมูลไม่จริงออกไป เพราะจะสร้างความสับสนให้สังคมให้ใช้ชีวิตตามปกติและดูแลสุขภาพ ปฏิบัติตนตามที่หมอแนะนำ” นพ.อนุกล่าว

...

อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่