กลายเป็นประเด็นใหญ่แนวคิด นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม รับมอบหมายให้รับผิดชอบงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ต้องการเห็นผลระยะสั้น ภายใน 6 เดือนข้างหน้า

ยาเสพติดหมดไป

นายภูมิธรรมมองว่าการป้องกันจากภายนอกเข้ามาปกติ “แบบซีลชายแดน” ที่ทหารทำยังไม่เพียงพอ เนื่องจากชายแดนไทยกว้างขวางและยาวมาก มีเส้นทางธรรมชาติอีกมากเป็นช่องทางลักลอบนำเข้ายาเสพติด

คิดว่าการร่วมมือระหว่างกระทรวงมหาดไทยและสำนักงานตำรวจแห่งชาติจะสามารถทำได้ผลสำเร็จรวดเร็ว ด้วยการย่อยอำนาจการควบคุมลงไประดับอำเภอ คือนายอำเภอ และระดับสถานีตำรวจคือ ผกก.

บอกว่าฟังเสียงจากชาวบ้าน ถ้า ผกก.และนายอำเภอเอาจริงทุกอย่างคลี่คลายมาก นัดจัดประชุม 14 จังหวัด 51 อำเภออยู่ชายแดนทั้งหมด ให้นายอำเภอ 51 อำเภอ และ ผกก. 76 สถานี มาคุยกันที่ทำเนียบรัฐบาล

มอบนโยบาย

ย้ำว่าถ้าไม่เห็นผลการเปลี่ยนแปลงชัดเจนงานยาเสพติดไปในทางดีขึ้น ผกก. นายอำเภอ รับผิดชอบ ต้องสมัครใจย้ายออกจากพื้นที่ มองว่าถ้าตรงนี้แก้ไขได้ทุกอย่างดีขึ้น เชื่อว่า 6 เดือนคงเห็นอะไรชัดเจนมากขึ้น

มุมมองฝ่ายการเมืองคาดหวังผลสำเร็จของรัฐบาล แต่ความจริงที่ฝ่ายรัฐบาลมองข้ามและไม่ให้ความสำคัญคือวางตัวคนที่ “เข้าถึงและเข้าใจ” เนื้อแท้ของงาน เข้าใจพื้นที่ มีประสบการณ์ และลูกน้องยอมรับ

คือปัญหาใหญ่ภาพรวมตำรวจทุกหน่วยเห็นได้จากคำสั่ง ผบช. ที่ผ่านมามองแค่ “อาวุโส” ปิดกั้นโอกาสคนทำงาน คนที่มีประสบการณ์ วางตัว “ผิดฝาผิดตัว” ส่งผลให้งานไม่ไหลลื่น หากคำสั่งรอง ผบช. และ ผบก.กลไกขับเคลื่อนงาน ยึดแนวทางแต่งตั้งแบบเดิม ไม่คิดวางตัวคนที่เหมาะสม 6 เดือน ยาเสพติดขู่ย้าย ผกก.โรงพัก

...

คงได้ย้ายกันทุกโรงพัก.

“เพลิงพยัคฆ์”
pluengpayak@thairath.co.th

คลิกอ่านคอลัมน์ “เลขที่1 วิภาวดีฯ” เพิ่มเติม