ประชาชนหลั่งไหลเดินทางกลับ เข้ากรุงหลังเฉลิมฉลองปีใหม่กันเต็มอิ่มช่วงหยุดยาวปีใหม่ ส่งผลถนนทั้งสายเหนือ สายอีสานติดหนึบนานนับชั่วโมงเหมือนขาไป ผู้ช่วย ผบ.ตร.นำคณะนั่ง ฮ.บินตรวจเส้นทางอำนวยการจราจรให้ลื่นไหล เผยยอดสะสมคดีคุมประพฤติช่วงเทศกาลปีใหม่ 2568 ระหว่างวันที่ 27-31 ธ.ค.67 รวม 5 วัน ที่มีการควบคุมเข้มงวด มีคดีคุมประพฤติ 4,020 คดี เป็นคดีเมาขับมากถึง 3,884 คดี จังหวัดที่มียอดสะสมคดีเมาแล้วขับสูงสุด 3 อันดับแรก มีเชียงใหม่กรุงเทพมหานคร และสมุทรปราการ ก.คมนาคม สรุปสถิติอุบัติเหตุ ระหว่างวันที่ 27-31 ธ.ค.2567 พบเกิด 1,201 ครั้ง เสียชีวิต 152 คน บาดเจ็บ 1,275 คน เกิดจากขับรถเร็วเกินกำหนด 744 ครั้ง รถ จยย.เป็นยานพาหนะที่เกิดเหตุสูงสุด ส่วนจังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสูงสุด มีกาญจนบุรี นครศรีธรรมราช นนทบุรี ปทุมธานี อุดรธานี ขณะที่จังหวัดที่เกิดเหตุสูงสุดคือ กรุงเทพมหานคร เกิด 35 ครั้ง
ผ่านพ้นไปแล้วสำหรับเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ 2568 ที่มีวันหยุดยาวหลายวันและในวันที่ 1 ม.ค.68 ที่เป็นวันหยุดสุดท้ายของเทศกาลปีใหม่ ประชาชนจำนวนมากในหลายจังหวัดทั่วประเทศ เริ่มเดินทางออกจากภูมิลำเนาหรือจากแหล่งท่องเที่ยวกลับเข้ากรุงเทพฯหรือจังหวัดที่ตัวเองทำงานอยู่ ทั้งทางรถส่วนตัว รถประจำทาง รถไฟ และรถโดยสารสาธารณะอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงเช้ากระทั่งค่ำคึืน เช่นที่ จ.อุตรดิตถ์ มีผู้มาใช้บริการรถโดยสารประจำทางกันอย่างคึกคักที่สถานีขนส่งอุตรดิตถ์ เพื่อเดินทางกลับไปทำงาน มีนายศิริวัฒน์ บุปผาเจริญ ผวจ. อุตรดิตถ์ นำคณะมาคอยดูแลอำนวยความสะดวกผู้มาใช้บริการ พร้อมมอบผ้าห่ม น้ำดื่ม ขนมขบเคี้ยว และของที่ระลึก เช่น กำไลข้อมือเหล็กน้ำพี้ แก่ผู้เดินทาง
ที่ จ.นครราชสีมา ประชาชนบางส่วนทยอยเดินทางกลับเข้ากรุงเทพฯ หลังเสร็จสิ้นการเฉลิมฉลองเทศกาลปีใหม่ ตามท้องถนนมีปริมาณรถค่อนข้างหนาแน่นและติดขัดสะสมเป็นบางช่วง ส่วนใหญ่จะเป็นทางแยกเข้าปั๊มน้ำมัน จนถึงช่วง อ.ปากช่อง ปริมาณรถหนาแน่นเต็มพื้นที่ถนนมิตรภาพ แต่ยังเคลื่อนตัวไปได้เรื่อยๆ มีสลับหยุดนิ่งเมื่อมีรถแวะเข้าปั๊มน้ำมัน ร้านอาหาร ร้านกาแฟ จุดแรกที่ กม.52 หน้าฟาร์มโชคชัย ต.กลางดง เป็นทางโค้งลงเนินและขึ้นเนิน อีกจุดบริเวณขึ้นมอบันไดม้า กม.53-54 ต.หนองน้ำแดง อ.ปากช่อง ที่เป็นทางโค้งด้วย ทำให้รถชะลอตัวและบริเวณถนนมิตรภาพช่วงบายพาสใต้สะพานต่างระดับเขาใหญ่ ปริมาณรถเต็มทั้ง 4 ช่องทาง รวมช่องฟุตปาทไหล่ทางด้วย ตำรวจทางหลวงร่วมกับเจ้าหน้าที่แขวงทางหลวงในพื้นที่ ช่วยกันระบายรถให้การจราจรลื่นไหล
...
ทางภาคเหนือ ถนนพหลโยธินหมายเลข 1 ขาล่องนครสวรรค์-กำแพงเพชร รถหนาแน่นตลอดทางตั้งแต่บริเวณแยกเดชาติวงศ์ เพราะมีรถจากภาคเหนือมุ่งหน้าเข้ากรุงเทพฯต่อเนื่อง ทำให้การจราจรติดขัดช่วงสัญญาณไฟจราจร ตั้งแต่ช่วงค่ำถึงดึกของวันที่ 1 ม.ค.ยังมีรถเข้ากรุงเทพฯต่อเนื่อง พ.ต.ต.เชษฐ์ศุภากร พิริยะพงษ์พันธ์ จาก สทล.4 กก.1 บก.ทล. ได้แนะนำให้ผู้ใช้รถศึกษาเส้นทางให้ดีหรือใช้ถนนเลี่ยงเมืองหมายเลข 122 หลีกเลี่ยงปัญหาการจราจรในตัวเมืองนครสวรรค์ โดยเฉพาะรถที่จะ เข้าไปใช้บริการตามปั๊มน้ำมันต่างๆที่มีจำนวนมากจนรถบนถนนใหญ่ต้องชะลอตัว
ช่วงบ่ายวันเดียวกัน พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร. และคณะนายตำรวจที่เกี่ยวข้อง นั่ง ฮ. ตรวจสภาพการจราจรหลายพื้นที่ หลังมีผู้คนเดินทางกลับเข้ากรุงจำนวนมาก อาทิ เส้นทางหลักขาเข้าเมือง บริเวณทางหลวงพิเศษหมายเลข 9 ถนนวงแหวนตะวันออก ทล.1 (ถนนพหลโยธิน) ช่วงต่างระดับบางปะอิน บริเวณต่างระดับสระบุรีและ ทล. 2 (ถนนมิตรภาพ) ช่วงเนินกลางดง ต่างระดับเขาใหญ่และ บริเวณ กม.65 จุดเชื่อมทางลงมอเตอร์เวย์ M6 และไปดูจุดเปิดเส้นทางพิเศษ ถ.มิตรภาพ กม.99 อ.เมือง จ.สระบุรี เนื่องจากมีการจราจรหนาแน่นและยังดูเส้นทางสายอีสาน ทล.2 ถนนมิตรภาพ ที่การจราจรติดขัดช่วงไฟแดงตั้งแต่แยกพล จ.ขอนแก่น ต่อเนื่องเข้าแยกสีดา แยกบ้านวัด แยกตลาดแค จ.นครราชสีมา ส่วนทล.24 ติดแยกไฟแดงต่อเนื่อง ตั้งแต่ จ.สุรินทร์ บุรีรัมย์ นครราชสีมา ก่อนมวลรถจะกระจายเข้ามอเตอร์เวย์ M6 เข้า ทล.2 ถนนมิตรภาพ สู่ จ.สระบุรี เชื่อมถนนพหลโยธิน บางส่วนจะไปทางช่องตะโก ทล.348 และ ทล.304 ปักธงชัย สายเหนือจะติดสะสมตามแยกไฟแดงตั้งแต่แยกสลกบาตร กำแพงเพชร เชื่อมต่อมายัง จ.นครสวรรค์ ส่วนสายใต้ ตั้งจุดเฝ้าระวังที่แยกวังมะนาว จ.เพชรบุรี
ส่วนที่เดินทางโดยรถโดยสารสาธาณะ หลังมาถึงสถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพฯ ถนนกำแพงเพชร ช่วงเช้ามืด ยังต้องรอเรียกรถแท็กซี่กลับที่พักนานนับชั่วโมง เนื่องจากรถแท็กซี่ช่วงเช้ามีจำนวนไม่เพียงพอต่อผู้โดยสาร บริษัท ขนส่ง จำกัด คาดว่าในวันแรกของปี 1 ม.ค.68 มีผู้โดยสารเดินทางเฉลี่ย 70,000- 90,000 คน ใช้รถโดยสาร รถ บขส. รถร่วม รถตู้ เฉลี่ยวันละ 4,200-4,500 เที่ยว ซึ่ง บขส.ได้กำชับให้นายสถานีเดินรถทั่วประเทศจัดรถโดยสารและพนักงานขับรถให้เพียงพอพร้อมบริการประชาชนที่กลับเข้ากรุง ไม่ให้มีผู้โดยสารตกค้าง
ที่สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ (สถานีกลางบางซื่อ) มีประชาชนที่เดินทางออกนอกกรุงเทพทยอยกลับเข้ามา หลังจากสิ้นสุดเทศกาลวันหยุดยาว มีการจัดเจ้าหน้าที่ รฟท. คอยดูแลรักษาความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกในด้านต่างๆ อาทิ จัดรถ Shuttle Bus ขสมก. บริการรับ-ส่ง ฟรี เริ่มต้นจาก สถานีกรุงเทพ (หัวลำโพง)-สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ 2 เส้นทาง คือ เส้นทางด่วนพิเศษศรีรัช “สถานีรถไฟกรุงเทพ (หัวลำโพง)-สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ และเส้นทางธรรมดา เดินทางเชื่อมต่อระหว่างสถานีกรุงเทพ (หัวลำโพง) ยมราช รพ.รามาธิบดี สถานีรถไฟสามเสน และสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์
ด้านนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.คมนาคม เปิดเผยว่า ภาพรวมการเดินทางในเทศกาลปีใหม่ 2568 ระหว่างวันที่ 27-31 ธันวาคม 2567 ทุกหน่วยงานในสังกัดกระทรวงฯ บริหารจัดการ อำนวยความสะดวกให้ประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนาอย่างเพียงพอทั้งทางรถโดยสารประจำทางและรถไฟ โดยไม่มีผู้โดยสารตกค้างทั้งขาไปและกลับ จากข้อมูลศูนย์ปฏิบัติการความปลอดภัยคมนาคม สรุปสถิติอุบัติเหตุบนโครงข่ายของกระทรวงฯวันที่ 27-31 ธ.ค. 2567 (สะสม 5 วัน) ณ เวลา 07.30 น. วันที่ 1 ม.ค.2568 พบทางบกเกิดอุบัติเหตุ 1,201 ครั้ง เสียชีวิต 152 คน บาดเจ็บ 1,275 คน สาเหตุจากขับรถเร็วเกินกำหนด 744 ครั้ง ยานพาหนะที่เกิดเหตุสูงสุด คือ จักรยานยนต์ 648 คัน บริเวณที่เกิดเหตุสูงสุด คือทางตรง ไม่มีความลาดชัน 841 ครั้ง จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสูงสุด คือกาญจนบุรี นครศรีธรรมราช นนทบุรี ปทุมธานี และอุดรธานี จังหวัดละ 5 คน จังหวัดที่เกิดเหตุสูงสุด คือ กรุงเทพมหานคร 35 ครั้ง เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันปีที่แล้ว (วันที่ 29-31 ธันวาคม 2566) จำนวนอุบัติเหตุลดลง 8% และพบอุบัติเหตุบนโครงข่ายทางราง 2 ครั้ง ทางน้ำ 1 ครั้ง ทางอากาศไม่มีรายงาน
...
ด้าน พ.ต.ต.สุริยา สิงหกมล อธิบดีกรมคุมประพฤติ เปิดเผยถึงสถิติคดีคุมประพฤติช่วงเทศกาลปีใหม่ 2568 ว่า วันที่ 31 ธ.ค. มีคดีที่เข้าสู่กระบวนการคุมประพฤติรวม 225 คดี เป็นคดีเมาแล้วขับ 223 คดี คดีขับเสพ 2 คดี สรุปยอดสะสม 5 วัน (27-31 ธ.ค.67) ที่มีการควบคุมเข้มงวด มีคดีคุมประพฤติ 4,020 คดี เป็นคดีเมาขับ 3,884 คดี คดีขับเสพ 132 คดี คดีขับรถประมาท 4 คดี จังหวัดที่มียอดสะสมคดีเมาแล้วขับสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ เชียงใหม่ 397 คดี กรุงเทพมหานคร 294 คดี สมุทรปราการ 258 คดี กรมฯได้ผสานกำลัง จนท.สำนักงานคุมประพฤติทั่วประเทศ อาสาสมัครคุมประพฤติ ผู้ถูกคุมประพฤติ ภาคีเครือข่าย สนับสนุนการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ ณ จุดบริการประชาชน ด่านชุมชน ด่านตรวจค้นบริเวณทางสายรองที่มีความเสี่ยงสูงในการเกิดอุบัติเหตุ รวม 106 จุด เพื่อช่วยให้การเดินทางของประชาชนมีความปลอดภัย
วันเดียวกัน พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร.ได้กล่าวชื่นชมและขอบคุณตำรวจทุกนายทั่วประเทศที่ร่วมกันปฏิบัติหน้าที่อย่างเข้มแข็งเต็มความสามารถช่วงเทศกาลปีใหม่ 2568 ทั้งการดูแลความสงบเรียบร้อยในพื้นที่จัดงานเฉลิมฉลอง การป้องกันอาชญากรรม การอำนวยความสะดวกการจราจรที่ได้นำเทคโนโลยีต่างๆ มาช่วยในการปฏิบัติหน้าที่ เช่น โดรนตรวจจราจร กล้องวงจรปิดอัจฉริยะ ที่ติดตั้งตามพื้นที่จัดงานต่างๆ ส่งผลให้มีประสิทธิภาพในการลดการก่ออาชญากรรม จำนวนอุบัติเหตุ ผู้เสียชีวิต ผู้บาดเจ็บลดลงมากเทียบกับปีที่ผ่านมาและยังขอบคุณประชาชนที่ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจตลอดเทศกาล
อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่